“บิ๊กอู๊ด” พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. นำกำลังกว่า 50 นาย คุม “เสี่ยแดง” ทำแผนรัวฆ่า 4 ศพ ในพื้นที่รอยต่อ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เผยพฤติการณ์สุดอุกอาจ ลั่นคุมตัวเองไม่อยู่ พวกที่ผมทำสมควรตายทั้งหมด
กรณี “เสี่ยแดง” หนุ่มใหญ่ ควง.38 ยิงอดีตภรรยาที่เลิกราและลูกสาวพร้อมเพื่อน เสียชีวิตรวม 4 ศพ เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ริมถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว บริเวณด้านหน้าวัดตามูล หมู่ 1 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว และบริเวณหน้าตลาดนัดวันอาทิตย์ บ้านตามูล หลังก่อเหตุได้ขับรถผู้ตายไปนั่งดื่มเหล้าอย่างใจเย็น จนถูกชุดสืบสวน สภ.สอยดาว จ.จันทบุรี ตามจับได้ สารภาพเกิดจากความแค้นผู้ตายทุกคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 มกราคม 2565 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พ.ต.อ.นิตย์ วิชินันทกิจ ผกก.สภ.สอยดาว พร้อมกำลังชุดสืบสวนภาค 2 ชุดสืบสวน ภ.จว.จันทบุรี และชุดสืบสวน สภ.สอยดาว นำตัว นายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง ภูทองสุข อายุ 48 ปี ผู้ก่อเหตุที่ตกเป็นผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงชนวนเหตุครั้งนี้
โดย นายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง เปิดปากรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้อยู่กินกับ นางวันเพ็ญ หรือเจ๊แหม่ม ประสานวงษ์ อายุ 49 ปี และอาศัยอยู่ในบ้านผู้ตายในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งกว่าง ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ได้ประมาณกว่า 1 ปี โดยตนขายรถ 6 ล้อ และทองคำอีก 8 บาท มาร่วมลงทุนกับคนตายเกี่ยวกับธุรกิจรับซื้อลำไย ต่อมาถูกนางวันเพ็ญดุด่ารามถึงบุพการีหลายครั้งหลายหน จนทนไม่ไหวจึงขอแยกทาง โดยไปเจรจาตกลงขอเลิกกันที่โรงพัก ซึ่งตนขอเงินมาลงทุน 200,000 บาท ผู้ตายรับปากจะให้แต่ก็ไม่ให้ ประกอบกับไม่มีเงินที่จะลงทุนทำอะไรได้ พยายามติดตามทวงถามหลายครั้งก็ยังไม่ได้ คาดว่าถูกโกงแน่ จึงเก็บความแค้นไว้ในใจมาตลอด
กระทั่งบ่ายวันที่ 30 ม.ค. ทราบว่า นางวันเพ็ญจะมาซื้ออาหารที่ตลาดนัดตามูล จึงขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน 1 กจ 9088 จันทบุรี มาดักจอดรอ จนกระทั่งเห็นรถฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน ฆช 6171 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาจอดริมถนนฝั่งตรงข้าม จำได้ว่าเป็นรถอดีตภรรยา จึงเดินข้ามถนนไปหา เป็นช่วงจังหวะที่นางวันเพ็ญ เปิดประตูด้านคนขับลงมาพอดี ถึงถามว่า “จำกูได้มั้ย” พร้อมทั้งดึงอาวุธปืนขนาด .38 ออกมาจากเอวยิงใส่ร่าง 1 นัดจนฟุบลง ก่อนยิงซ้ำบริเวณหัวอีก 1 นัด เมื่อเห็นว่าแน่นิ่งแล้วจึงก้มลงเก็บลูกกุญแจรถ เพื่อเปิดประตูรถ
ระหว่างนั้นมองเห็น น.ส.อรยา หรือโบว์ เชื้อเจริญ อายุ 25 ปี บุตรสาวของผู้ตาย และเป็นลูกเลี้ยง นั่งตกใจอยู่เบาะหน้าคู่คนขับ จึงเกิดความแค้นสุดขีด จึงยกปืนเล็งยิงไป 3 นัดจนแน่นิ่ง จากนั้นได้ขึ้นขับรถของอดีตภรรยาออกไป โดยมีศพ น.ส.โบว์ ติดไปด้วย จากนั้นได้ขับรถไปที่บ้านนายธีระชาติ เต่าทอง อายุ 44 ปี ในสวนลำไย บ้านถ้ำสาลิกา หมู่ 9 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน เมื่อไปถึงเห็นนายธีระชาติ กำลังเลื่อนต้นลำไยอยู่ จึงยิงไป 2 นัด เป็นศพที่ 3 สาเหตุเกิดจากความแค้นที่ผู้ตายให้พ่อแม่ตน ซึ่งเป็นวัยชราไปกู้ยืมเงินมา และไม่ยอมส่งต้นส่งดอก ทำให้พ่อแม่ต้องใช้หนี้แทน ไปทวงถามก็อ้างว่าไม่มี แต่ไปออกรถคันใหม่มา
จากนั้นได้ขับรถไปหานายบุญร่วม แสงมา อายุ 48 ปี ที่หมู่บ้านเขาพลูทอง หมู่ 11 ต.ปะตง อ.สอยดาว ห่างจุดที่ 2 ประมาณ 25 กิโลเมตร ก่อนใช้ปืนยิง นายบุญร่วม ไปหลายนัดจนตาย สาเหตุเกิดจากผู้ตายหลอกขายปืนสั้นให้ในราคา 17,000 บาท แต่พบว่าเป็นปืนบีบีกัน จึงเอาไปคืน แต่ผู้ตายบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืน จึงขอให้คืนเงินมา 7,000 บาท แต่นายบุญร่วมก็ไม่คืนให้อีก จึงเกิดความแค้นสะสม หลังจากยิงนายบุญรวยตายเป็นศพที่ 4 แล้วได้ขับรถไปจอดที่ร้านค้าห่างจากจุดที่ยิงประมาณ 10 กิโลเมตร ลงจากรถและสั่งเหล้า จึงได้ขอยืมโทรศัพท์จากร้านค้าโทรหาลูกสาวอายุ 18 ปี มารับเพื่อหลบหนี ขณะเดียวกันตำรวจได้ตามมาถึงพอดี จึงถูกจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายไตร่ตรองไว้ก่อน” และ “พกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง ภูทองสุข ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ จุดที่ 1 บริเวณหน้าตลาดนัดบ้านตามูล โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. คุมการทำแผน ท่ามกลางประชาชนที่ทราบข่าวมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยมีกำลังตำรวจภูธรร้อย ตชด.114 ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 191 จันทบุรี กว่า 50 นาย วางกำลังคุ้มกันเข้ม
ส่วนจุดที่ 2-3 ต้องยกเลิกการทำแผน เนื่องจากเป็นบ้านของผู้ตาย มีญาติพี่น้องมาคอยจำนวนมาก เกรงจะไม่ปลอดภัย
ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผช.ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์สื่อมวนชนว่า ได้รับคำสั่งจากท่าน ผบ.ตร.ให้ลงมาติดตามคดี เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีการตายถึง 4 ศพต่อเนื่องกัน และได้กำชับให้ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ส่วนผู้ต้องหาจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรีในวันพรุ่งนี้.