เผยตัวผู้เสียหาย หนุ่มวัย 27 ปี ถูก 3 รุม 1 โดนทำร้ายริมถนนที่หาดใหญ่ จนใบหน้าเละ เจ้าตัวเข้าให้การพร้อมพาดูที่เกิดเหตุ ยืนยันวันนั้นแค่บีบแตรไป 2 ที เพราะคู่กรณีเบรกกะทันหัน ก่อนถูกไล่เบียดและโดนรุมทำได้แค่ปัดป้อง ขณะที่ภรรยาบอกเห็นสภาพสามีทีแรกถึงกับช็อก
กรณีมีการแชร์ภาพผ่านทางโลกออนไลน์เขียนข้อความ “ลูกผู้ชายเปล่า หมาหมู่ 3 รุม 1 กระบะปิดทึบ แค่บีบแตรขอทาง ลงมารุมยำ แล้วขับหนี เหตุเกิดหาดใหญ่ #หาดใหญ่ #จึงจริง”
เรื่องนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท้องที่เหตุ พบกับ นายชุติพนธ์ บุญไทยกลาง อายุ 27 ปี ผู้บาดเจ็บที่ถูกกลุ่มคนร้ายขับกระบะตู้ทึบส่งสินค้า รุมทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. เวลา 20.30 น. จนต้องนอนโรงพยาบาลถึง 2 วัน และมีบาดแผลที่หัวคิวด้านขาวเย็บ 5 เข็ม หางคิวด้านขวาเย็บ 3 เข็ม และตาทั้ง 2 ข้างเขียวช้ำ ตอนนี้ตาซ้ายเริ่มเห็นปกติแต่ตาขวายังเห็นรางๆ วันนี้เดินทางเข้ามาพบกับร้อยเวร เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
ในส่วนแนวทางการสืบสวน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งสง ได้ไล่ดูกล้องวงจรปิดตั้งแต่แยกคลองหวะ ตลอดจนถึงแยกคลองแงะ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อหาแบะแสของคนร้ายที่รุมทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้เดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุที่ถนนกาญจนวนิช หาดใหญ่-สะเดา ขาออกจากหาดใหญ่ เลยแยกไฟแดงโป๊ะหมอ ไปประมาณ 900 เมตร ในเขตเทศบาลเมืองบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
นายชุติพนธ์ ผู้เสียหายบอกว่า เหตุการณ์ในวันนั้น ตัวเองกำลังขี่รถจักรยานยนต์มาใกล้จะถึงสี่แยกโต๊ะหมอในเลนซ้ายสุด ก่อนจะถึงไฟแดงมีรถปิกอัพใส่หลังคาด้านหลังเปลี่ยนเลน และเบรกกะทันหัน ทำให้ตัวเองต้องเบรกกะทันหันไปด้วย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะชนท้ายก่อนที่จะบีบแตรไป 2 ครั้ง
จากนั้นรถปิกอัพพยายามขับที่จะมาปาดหน้า เพื่อให้ตัวเองจอดบริเวณเลยสี่แยก ก่อนคนขับลงมาถามด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่า “บีบแตรทำ..อะไร” ก่อนที่จะมีคนที่นั่งอยู่บนรถปิกอัพลงมาอีก 2 คน ตอนนั้นตัวเองยอมรับว่าก็ตอบกลับไปด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างหยาบคายเช่นเดียวกัน ก่อนที่ทั้ง 3 จะปรี่เข้ามารุมทำร้ายชกต่อย โดยไม่ทันได้สังเกตว่าทั้ง 3 คน มีอาวุธหรือไม่ เพราะตอนนั้นตาตัวเองเหมือนจะมองเริ่มไม่เห็น เนื่องจากถูกต่อยและเตะเข้าที่เบ้าตาหลายครั้ง
นายชุติพนธ์ บอกอีกว่า ไม่เคยมีเรื่องหรือเคยเห็นหน้าถ่ายทั้ง 3 คนมาก่อนยืนยันได้ว่าไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน เลยอยากจะฝากไปถามเพิ่งคู่กรณีว่าทำไมต้องทำกันขนาดนี้และอยากให้ออกมารับผิดชอบเพราะตัวเองต้องพักงานไปถึง3วันเพื่อรักษาตัว
สาเหตุที่ไม่โต้ตอบเนื่องจากทุกวันนี้มีลูกยังเล็กอีก 2 คน คนแรกอายุ 2 ขวบ ส่วนคนที่ 2 อายุ 3 เดือน และตัวเองเป็นเสาหลักของครอบครัว หากไปโต้ตอบหรืออาฆาตและจะไปเอาคืนเรื่องนี้ก็จะไม่จบสิ้นจึงเอาคลิปมาลงเพื่อสื่อไปถึงคู่กรณีทั้ง 3 คน ส่วนประเด็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องรอยสักของตัวเองที่มีรอยสักอยู่เต็มตัวแล้วมีคนมาคอมเมนต์ในทิศทางลบเรื่อง “รอยสัก” ตัวเองก็ไม่สนใจ เพราะทุกวันนี้คิดแต่ทำมาหากิน และไม่เคยคิดอยากจะไปมีเรื่องกับใคร
ด้านนางสาวศรัญญา มั่นสุข อายุ 19 ปี ภรรยา กล่าวว่าวันนั้น หลังทราบข่าวก็เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที เห็นสภาพสามีก็แทบช็อก เพราะสภาพดูแทบไม่ได้ บนถนนมีรอยเลือดเต็มไปหมด ส่วนค่ารักษาพยาบาลในตอนนี้ยังไม่ได้จ่าย เนื่องจากเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่อยากให้คู่กรณีมารับผิดชอบ เนื่องจากทุกวันนี้ขาดรายได้เพราะสามีไม่ได้ออกไปทำงาน
ขณะที่แม่ค้าที่ขายของอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ บอกว่าคืนนั้นเห็นรถกระบะกับรถมอเตอร์ไซค์ขับมาแล้วมาจอดบริเวณหน้าร้าน แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรนึกว่าเค้ารู้จักกัน มาด้วยกัน แต่สักพักมีชายสามคนเข้ามารุมทำร้ายชาย 1 คน แต่ตนไม่กล้าเข้าไปช่วย
“เขาเตะจากข้างรถจนมาถึงท้ายรถ และลักษณะเป็นการเตะแบบ 3 รุม 1 ทีแรกนึกว่าขับรถมาด้วยกัน เรายังไม่เห็น และเห็นว่าทั้งตีทั้งต่อย และน้องเขากลิ้งมาแล้ว ทั้ง 3 คนก็เตะมาเลย สักพักเหลือรุม 2 คน และมีคนที่มาด้วยกันกับ 3 คนนี้มาห้ามว่าพอแล้ว ซึ่งคนที่มาห้ามก็อยู่ด้วย แต่เขาไม่ได้ทำร้าย เขาห้ามไม่ไหว ห้ามคนนู้นคนนี้ก็มาเตะเป็น 3 รุม 1 และได้ไปช่วยตอนที่กลุ่มนั้นขึ้นรถไปแล้ว ตกใจมากเลือดเต็มหน้า เขาหายใจไม่ออกด้วยนึกว่าเขาตายแล้ว” แม่ค้า กล่าว