“ประยุทธ์” โว! “ประเทศไทย” ไม่เหมือนใครในโลก ฟุ้งเจ้าหนี้ปลื้ม! กวักมือกู้เงินเพิ่ม พ้อถูกสกัดขาอดโชว์จุดดี ปั่นเรื่องตีกันไปมา

‘ประยุทธ์’ โว ประเทศไทย ไม่เหมือนใครทั้งสิ้นบนโลกใบนี้ ฟุ้งเจ้าหนี้ปลื้ม กวักมือกู้เงินเพิ่ม พ้อถูกสกัดขาอดโชว์จุดดี ปั่นเรื่องตีกันไปมา ยันคนละครึ่งเงินไม่ไหลเข้ากระเป๋าเจ้าสัว

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เป็นวันแรกนั้น

ต่อมา เวลา 19.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ไม่ได้แพร่ระบาดในคน การส่งหมูออกไปต่างประเทศแล้วปกปิด บอกเลยว่าปกปิดไม่ได้ เราต้องช่วยกัน ให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรทุกขนาดเข้าสู่มาตรการการช่วยเหลือของรัฐ จึงต้องพัฒนาการเลี้ยงสุกรให้ป้องการโรคระบาดได้ โดยฟาร์มเลี้ยงขนาดเล็กจะได้รับความเดือดร้อน แต่ได้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเห็นใจว่ามีปัญหาเรื่องทุน ซึ่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เราได้ตรวจค้นสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ 6,536 แห่ง และทำงานร่วมการทุกกระทรวง พบการกระทำความผิดเรื่องการกักตุน 15 แห่ง และอายัดเนื้อหมู จำนวน 2,036,417.54 กิโลกรัม พบการกักเก็บโดยไม่ทราบที่มา 9 แห่ง ส่วนราคาสินค้าแพง และสถานการณ์เงินเฟ้อ เราต้องยอมรับว่าราคาสินค้าแพงขึ้น วันนี้เราได้ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ตนไม่ต้องการสร้างความแตกแยก หรือไปโทษใคร แต่เป็นเรื่องที่ตนและรัฐบาลทุกคนให้ความสำคัญ และทยอยแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาโดยตลอด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์เงินเฟ้อเกิดขึ้นทั่วโลก และจากสถานการณโควิด-19 ทำให้ราคาสินค้าราคาแพงทั่วโลก แต่ประเทศไทยเราได้รับคำชื่นชมว่ารับมือได้ดี อย่างไรก็ตาม เรายังต้องพบกับสถานการณ์นี้ต่อไปสักพัก โดยเรามีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.2% และต้องรักษาอัตราเงินเฟ้อไว้ให้ได้ ซึ่งตั้งเป้าไว้ไม่ให้เกิน 3% ดังนั้น เราจะเอาข้อมูลของเรามาพูดเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ตนมองว่าไม่เป็นธรรมกับรัฐบาล เพราะต้องดูรอบโลกภายนอกด้วย ส่วนก๊าซหุงต้มมีราคาสูงขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ที่เพิ่มขึ้น 24-25 ดอลลาร์สหรัฐ​ น้ำมันเป็นปัจจัยใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในปี 2564 แต่คนไทยจ่ายค่าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเพียง 20% เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่จ่ายสูงกว่านี้

“รัฐบาลเข้าใจถึงปัญหาของประชาชน และพยายามลดภาระใช้จ่ายให้กับประชาชน ประชาชนไว้ใจให้เราเข้ามา บางอย่างต้องคิดไปด้วยกัน อะไรไม่ดีก็เตือน ก็บอก อย่างมาตรา 152 เมื่อให้ผมมาฟัง ก็มาฟัง และอะไรที่ต้องแก้ก็จะกลับไปแก้ ไม่ใช่วาระที่จะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ วันนี้เราก็พยายามแก้ปัญหา มาตรการที่เราทำไปมีตั้งหลายเรื่อง เช่น คนละครึ่ง เพื่อลดค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป เขาอยากได้เงินไปดำรงชีพ ให้ครอบครัวเขาอยู่ได้ ซึ่งจะซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ลงทะเบียน ไม่ใช่จากเจ้าสัวที่ไหน มาตรการออกมาแบบนี้อย่าไปบิดเบือน

“ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยของเรานั้นไม่เหมือนประเทศอื่น ไม่เหมือนใครทั้งสิ้นบนโลกใบนี้ ผมยืนยันผมพบกับต่างประเทศ ประเทศไทยไม่มีอะไรที่เหมือนคนอื่นเขาเลย เรามีศักยภาพ มีสถาบันครบถ้วน ที่ทำให้บ้านเมืองนี้อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ เราไม่ได้กู้มาจากต่างประเทศมาก จนคนอื่นเขาเมินหน้าหนี ถ้าเราจะกู้อีกเขาก็ให้เรากู้ แต่พวกท่านไม่ให้ผมกู้

“ผมไม่อยากจะบอกว่าเจ้าหนี้ทุกคนอยากให้ประเทศไทยกู้ เพราะกองทุนสำรองเราก็มี ทำไมเราไม่เอาจุดดีตรงนี้มาพูดกัน มัวแต่โจมตีกันไปกันมา มันไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งนั้นในเวลานี้ ดังนั้น ผมยืนยันว่าไทยยังมีประสิทธิภาพในการเงิน การคลัง” นายกฯกล่าว

นายกฯกล่าวว่า ส่วนคดีฉ้อโกงออนไลน์ มีสถิติการจับกุมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม อาชญากรในโลกออนไลน์มักจะหาช่องทางใหม่ๆ ได้เสมอ อะไรที่เป็นออนไลน์มีโกงได้หมด แต่อยู่ที่ความซื่อสัตย์ของเราทุกคน และจะสร้างภูมิคุ้มในใจของเราได้อย่างไรว่าเรื่องไหนควรเชื่อ หรือไม่ควรเชื่อ เราปิดกั้นท่านก็บอกว่าเราปิดกั้นสิทธิมนุษยชนในการใช้เครือข่าย ซึ่งตนไม่ทำหรอก เพราะปิดไปแล้วเขาก็เปิดช่องทางใหม่ได้ และเราก็ไม่สามารถปิดกั้นประชาชนไม่ให้สื่อสารกันได้