เมื่อวัน 10 ส.ค. 64 เวลา 17.20 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ประกาศยุติการชุมนุมคาร์ม็อบแล้ว พร้อมขอให้มวลชนเดินทางกลับทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะที่ไม่จำเป็น
ขณะที่บริเวณแยกดินแดงได้เกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนกับมวลชนกลุ่มคาร์ม็อบระหว่างที่มวลชนได้เคลื่อนขบวนเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัท คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ โดยกลุ่มมวลชนได้ขว้างก้อนหิน ระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง และยิงหนังสติ๊กเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง
ทั้งนี้แม้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้จะประกาศยุติการชุมนุมแล้ว แต่ก็มีมวลชนบางส่วนที่ยังปักหลักอยู่บริเวณแยกดินแดงและมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ต่อเนื่อง
ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้บริเวณป้อมจราจรบริเวณแยกดินแดงด้วย
ก่อนหน้านี้กลุ่มคาร์ม็อบประกาศจุดหมายแรกมุ่งหน้าไปที่ “ซิโนไทย ทาวเวอร์” ซึ่งเป็นของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยกลุ่มคาร์ม็อบใช้เส้นทางจากถนนสุขุมวิท แล้วเลี้ยวซ้ายที่แยกอโศก พร้อมประกาศจะไปทำกิจกรรมหน้าตึกซิโนไทยฯ
แกนนำผู้ชุมนุมได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 บนรถขยายเสียงก่อนจะประกาศให้คาร์ม็อบมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่ 3 คือ บ้านพักของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
จากนั้น กลุ่มคาร์ม็อบได้เดินทางมายังบริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป จำกัด ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ในซอยเลิศแก้ว ย่านประชาสงเคราะห์
ขณะที่บริเวณดังกล่าวเป็นซอยแคบ และเป็นย่านชุมชน ดังนั้น การที่มีขบวนรถจักรยานยนต์เข้ามาในบริเวณพื้นที่และบีบแตรเสียงดัง อาจเป็นการก่อความรบกวนให้กับประชาชนในละแวกนั้น ซึ่งแกนนำก็ได้มีการเข้าไปขอโทษ และพาผู้ชุมนุมเตรียมเดินทางสู่จุดหมายที่ 3 ต่อไป คือ บริษัท คิง เพาเวอร์ ซ.รางน้ำ
อย่างไรก็ตามระหว่างที่กลุ่มคาร์ม็อบเคลื่อนขบวนมาที่ บริษัท ธรรมนัส กรุ๊ป เหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีเสียงดังคล้ายประทัดเกิดขึ้น รวมถึงมีการปะทะคารมกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาคอยดูแลสถานการณ์ แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์บานปลาย
จากนั้น แกนนำได้ประกาศให้ผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ม่งหน้าต่อไปยัง คิง เพาเวอร์ ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุม