ผบก.น.4 สั่งเด้ง รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย เซ่นปม ดาราสาว ร้อง ทนายตั้ม หลานอดีตรมต. ลวงเข้าพูลวิลล่า มอมยา-ขืนใจ หลังออกสื่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม
จากกรณี น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ดารานักแสดง เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัย ว่าถูกหลานของอดีตรัฐมนตรี วางยาแล้วกระทำชำเราที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ในซอยนาคนิวาส 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 11 ส.ค. โดยที่บุคคลใกล้ชิดของผู้ถูกกล่าวหา ได้ติดต่อ น.ส.แนน และยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิง รวมถึงจะให้เงินแลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ส.ค.2565 พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) ลงนามในคําสั่งกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่ 172/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จากกรณี น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเรา แจ้งความร้องทุกข์ ที่สน.โชคชัย ได้ร้องเรียนหรือกล่าวหา รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย โดยการออกสื่อ โทรทัศน์ ผ่านรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2565 เวลา 12.49 น.
โดยกล่าวพาดพิงกล่าวหา รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย พูดว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการดำเนินคดี อาจถูกยกฟ้องได้ และพยานหลักฐานบางส่วนที่ผู้เสียหายมอบให้พนักงานสอบสวน ไม่มีในสำนวนการสอบสวน ผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เหตุเกิดที่ สน.โชคชัย ถนนลาดพร้าว แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
อาศัยอำนาจตามความในพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 84 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงสืบสวนในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ รองผบก.น.4 เป็นประธานกรรมการ, พ.ต.ท.พลกฤต ทิพยทัศนัน รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย เป็นกรรมการ และ พ.ต.ต.ปฏิพัทธ์ ทองทับ สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการสืบสวน ดำเนินการสืบสวนพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จ แล้วเสนอสำนวนการสืบสวน มาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนเห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่น นอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การสืบสวนพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่น และคณะกรรมการ สืบสวนพิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำใน เรื่องที่สืบสวนนั้นอยู่ด้วย ให้ประธานกรรมการรายงานมาโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีคําสั่ง บก.น.4 ที่ 173/2565 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ใจความว่า ตามที่บก.น.4 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่ 172/2565 ลงวันที่ 26 ส.ค.2565 กรณีสงสัยประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่หรือเป็นกรณีที่สงสัยว่ากระทําผิดวินัย ดังนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 72 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 6(2) เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวข้างต้นเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย
จึงให้ 1.พ.ต.ท.อภิรักษ์ บุญหนัก รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย ไปปฏิบัติราชการที่ กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 อีกหน้าที่หนึ่ง และให้ พ.ต.อ.พงศกร โนรี ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4 ไปปฏิบัติราชการ หัวหน้างานสอบสวนสน.โชคชัย อีกหน้าที่หนึ่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.2565 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ด้าน พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายไปร้องทุกข์เกรงว่าจะไม่ได้ความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวนสน.โชคชัย จึงสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ผู้เสียหายและพิจารณาส่งตำรวจจากบก.น.4 โดยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านงานสอบสวนของบก.น.4 ลงไปกำกับดูแลคดีดังกล่าว พร้อมทั้งสั่งการให้รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัยมาปฏิบัติราชการที่กองบังคับการก่อน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีข้อบกพร่องหรือไม่ โดยเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งหากพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ไม่ได้กระทำผิดก็คือผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมในคดีกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ผลความคืบหน้าทางคดีทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ขออนุมัติหมายจับแล้ว โดยทางศาลอนุมัติหมายเรียกในวันที่ 29 ส.ค.นี้ หากไม่มาก็จะขออนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุดังกล่าวต่อไป
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางผู้เสียหายได้ส่งผลตรวจร่างกายให้กับพนักงานสอบสวนสน.โชคชัย โดยไม่พบร่องรอยการฉีกขาดของอวัยวะเพศและร่องรอยการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด รวมถึงผลตรวจสารพิษในร่างกายยังไม่พบสารเสพติดหรือสารพิษแต่อย่างใด
ทางพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย จึงประสานสอบปากคำแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายผู้เสียหายดังกล่าว นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ยืนยันว่า ทำคดีอย่างตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยเร่งดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ และยอมรับในคำสั่งผู้บังคับบัญชาพิจารณาผลการดำเนินการดังกล่าว