“บิ๊กตู่” มั่นใจจัดประชุมผู้นำเอเปก สัมฤทธิผลสำเร็จ อารมณ์ดีต้อนรับ เยาวชนเอเปก ลั่นพร้อมฟังเสียงแห่ง อนาคตคนรุ่นใหม่วอนทำบ้านเมืองให้น่าอยู่จากรุ่นสู่รุ่น “บิ๊กป้อม” เปิดกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร ยันงานเอเปกไม่ได้จัดให้ใครคนใดคนหนึ่ง ผบ.ตร.ระดมกำลัง 35,000 นาย คุมสถานการณ์ ย้ำม็อบต้องขออนุญาตชุมนุม ไม่กระทบสิทธิผู้อื่น ผู้ว่าฯ กทม.ขอผู้ชุมนุมอย่าเคลื่อนตัว ชาวบ้านโวย สน.ลุมพินี เฉื่อย รอทำใบเข้า-ออกแถวยาวเหยียด ขณะที่กลุ่มราษฎรขยับถือโอกาสฟ้องชาวโลก ต้านผู้นำเผด็จการ
เริ่มคึกคักเข้มข้น สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ครั้งที่ 29 และการประชุมเกี่ยวข้อง ในช่วง วันที่ 14-19 พ.ย. หลังมีประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุมรอบศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และโรงแรมที่พักผู้นำเอเปกรวม 20 จุด ล่าสุด รัฐบาลตั้งกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร ตำรวจระดมกำลังกว่า 35,000 นาย เข้าประจำการ
นายกฯหมายมั่นความสำเร็จ
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รับฟังการบรรยายสรุปการเตรียมจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกครั้งที่ 29 จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯเชื่อมั่นจะประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพเอเปกครั้งนี้ มีผู้นำเข้าร่วมทั้งสิ้น 14 เขตเศรษฐกิจ ส่วนเกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก เปรู รัสเซีย จีนไทเป (ตามแนวปฏิบัติเอเปก) และสหรัฐอเมริกา มอบผู้แทนเข้าร่วม มีนายกฯกัมพูชา ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มกุฎราชกุมาร และนายกฯ ซาอุดีอาระเบีย เป็นแขกพิเศษเข้าร่วมประชุม
รับแถลงการณ์เยาวชนเอเปก
ต่อมา เวลา 11.30 น. ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า คณะผู้แทนเยาวชนเอเปกในโครงการ APEC Voices of the Future เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ เพื่อมอบ แถลงการณ์เยาวชน สานต่อประเด็นหลักที่ไทยผลักดัน หัวข้อ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” แก่นายกฯ โดยนายกฯยินดีต่อการมีส่วนร่วม พร้อมรับฟังเสียงของเยาวชน ในฐานะเสียงของอนาคต เสียงของคนรุ่นใหม่ ก่อนนายกฯพาผู้แทนเยาวชนเอเปกเยี่ยมชมทำเนียบรัฐบาล ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ให้เขามาเยือน ทุกคน เขาชอบประเทศไทย ตัวแทนเยาวชนคือเสียงของอนาคต คนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่าต้องทำให้คนรุ่นใหม่ ไม่ทำตอนนี้แล้วเขาไม่รู้เรื่องเลย วันหน้ายากที่จะทำอะไรได้ วันหน้าพวกเขาจะเป็นคนสานต่อรุ่นสู่รุ่น
ยันพร้อม 90% ยังไม่มีอะไรกังวล
เมื่อถามว่า วันนี้นายกฯมีความสุขมากหรือไม่ นายกฯตอบว่า “มีสิ มีทุกวัน” ก่อนหันไปพูดคุยกับ ตัวแทนเยาวชนอย่างอารมณ์ดีว่า “ขอบคุณ ขอให้เอนจอย แฮปปี้” พร้อมยกนิ้วสัญลักษณ์ไลค์ และไอเลิฟยูให้ พร้อมกล่าวว่า “รักกันไว้เถิด” จากนั้น ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าว่า ความพร้อมจัดประชุมเอเปกว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว ยังไม่มีอะไรน่ากังวล จากนั้นเวลา 14.00 น. พล.อ. ประยุทธ์ไปเป็นประธานเปิดนิทรรศการนำเสนอความ สำเร็จการขับเคลื่อนวาระเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG) ที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์
“เบิร์ด-รัดเกล้า” ร้องกล่อมผู้นำ
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึง การจัดเตรียมการแสดงในงานกาลาดินเนอร์เพื่อเป็น เกียรติแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจและผู้เข้าร่วมประชุม ในค่ำวันที่ 17 พ.ย. ว่า นายกฯให้คำแนะนำว่าการแสดง ภายในงานต้องสร้างความประทับใจ แสดงความเป็นไทย และใช้เวลากระชับ จึงออกแบบการแสดงประกอบด้วย องค์ที่ 1 : OPEN TO ALL OPPORTUNITIES เป็นการบรรเลงบทเพลงโดยวงดุริยางค์ 4 เหล่าทัพ พร้อมวงดนตรีไทยร่วมสมัยกรมศิลปากร ประกอบการขับร้องเพลงโดยศิลปินระดับแนวหน้าของไทย นำโดย เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ และรัดเกล้า อามระดิษ องค์ที่ 2 : CONNECT IN ALL DIMENS IONS เป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าไหมไทยร่วมสมัย โดยดีไซเนอร์จาก 21 เขตเศรษฐกิจเอเปก องค์ที่ 3 : BALANCE IN ALL ASPECTS แสดงประเพณีดั้งเดิมจาก 4 ภาคของไทย อาทิ การแสดงกิงกะหร่า ฟ้อนร่ม หน้ากากผีตาโขน โนรา โขน รวมถึงจัดจำลองบรรยากาศประเพณีลอยกระทงของไทย ที่เกี่ยวเนื่องกับการแสดงความเคารพบูชาสายน้ำ
หน่วยอีโอดีลุยสแกนทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (ชุดอีโอดี) ได้นำอุปกรณ์และสุนัขตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ภายในและรอบทำเนียบฯหาสิ่งผิดปกติ วางมาตรการการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้นำที่จะมาร่วมหารือกับนายกฯ ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. ประกอบด้วย นายเหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกฯญี่ปุ่น เจ้าชายมูฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร นายกฯซาอุดีอาระเบีย นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
“บิ๊กป้อม” เปิดกองอำนวยร่วมฯ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจร เป็นประธานเปิดกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร เพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกและการประชุมที่เกี่ยวข้องปี 2565 โดยมีคณะอนุกรรมการฯเข้าร่วมประชุม เช่น พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. รวมถึงผู้แทนเหล่าทัพ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 27 หน่วย เข้าร่วมรับฟัง โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นการเปิดกองอำนวยการร่วมฯเพื่อติดตามสถานการณ์ และความพร้อมในการปฏิบัติของหน่วยปฏิบัติตามแผนฯ ให้การรักษาความปลอดภัยการประชุมฯเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุด เราไม่ได้ทำงานให้กับใครคนใดคนหนึ่ง
ผบ.ตร.ย้ำม็อบต้องแจ้งขอชุมนุม
ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า กองอำนวยการร่วมฯจะประชุมติดตามสถานการณ์ในเวลา 09.00 น. ทุกวัน ตร.เป็นหน่วยงานหลักดูแลความปลอดภัยและการจราจร ด้านการบริหารจัดการดูแลการชุมนุม นายกฯมีประกาศพื้นที่ห้ามชุมนุม คือ รอบศูนย์การ ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โรงแรมที่พักทั้ง 19 แห่ง สถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองของผู้นำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกตลอดช่วงวันที่ 14-19 พ.ย. แม้การชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนในที่สาธารณะ และไม่กระทบสิทธิคนอื่น ผู้กระทำผิดต้องถูกดำเนินการ ตามกฎหมายทุกราย และมีโทษหนักถึงจำคุก เราจะยอมให้ใครมาสร้างความเสียหายให้กับประเทศไม่ได้โดยเด็ดขาด หากจะยื่นข้อเรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้จัดสถานที่ไว้ให้ยื่นที่กระทรวงการต่างประเทศ และกรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ รวมทั้งการขอใช้สิทธิชุมนุม ให้ไปยื่นขอตามสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ หากชุมนุมต้องมีการแจ้งขอ
ระดมกำลังตำรวจ 3.5 หมื่นคุมเข้ม
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ด้านการรักษาความปลอดภัย ได้ระดมกำลังตำรวจ ทั้งประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 35,000 นาย เข้าประจำการในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. รวมทั้งระดมชุดปฏิบัติการพิเศษ สายตรวจรถยนต์จากตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 7 เข้ามาช่วยเฝ้าระวังเหตุและป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ครอบคลุมทุกสถานที่ 29 จุดในพื้นที่ กทม.และพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งจัดกำลังเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย ที่อาจมีความเคลื่อนไหว และบุคคลตามหมายจับ ทุกรายอีกด้วย หากละเมิดกฎหมายดำเนินคดีทันที ด้านการจราจร จะปิดถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (แยกอโศกมนตรี-แยกพระรามสี่) และถนนดวงพิทักษ์ รวมถึงสถานี MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 16-19 พ.ย.ได้จัดรถชัตเติลบัส 6 คัน รับส่งประชาชนในบริเวณดังกล่าว เราไม่ได้ทำงานให้กับใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้ทำงานให้กับรัฐบาลแต่ทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยทุกคน ขอให้ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมสังเกตการณ์ หากมีเหตุช่วยแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชม.
กทม.ตั้งวอร์รูมเกาะติดสถานการณ์
ที่สำนักการโยธา ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมการจัดประชุมเอเปก และการประชุมที่เกี่ยวข้องในส่วนที่ กทม.รับผิดชอบว่า กทม.ตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพิธีการอำนวยการ ด้านรักษาความปลอดภัยและการจราจร และด้านประชาสัมพันธ์ ดูแลความสะอาดเรียบร้อยของเมือง เป็นหูเป็นตาให้ฝ่ายความมั่นคงตามเส้นทาง ให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยประจำจุดต่างๆ ดูแลความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข เพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างในจุดมืด และจะตั้งวอร์รูม 2 แห่ง ที่ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) และอีกแห่งใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือในพื้นที่เขตคลองเตย เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์
ขอม็อบอย่าเคลื่อนตัวจากพื้นที่
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวลคือพื้นที่ชุมนุม กทม.จะเปิดพื้นที่เช่นเดิม และขอชี้แจงกับประชาชนว่า อย่ากังวล เพราะเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย ที่จะมีคนเห็นต่างบ้าง ปัจจุบันมีการขออนุญาตใช้พื้นที่แล้ว 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มของไผ่ดาวดิน ทะลุฟ้า และราษฎร ช่วงระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. อย่างไรก็ตาม ขอร้องผู้ชุมนุมอย่าเคลื่อนพลขอให้อยู่บนพื้นที่ที่ กทม. กำหนด กทม.ประสานให้ตำรวจเข้ามาดูแลแล้ว ขอให้แสดงความเห็นอยู่ในกรอบกฎหมาย เจ้าหน้าที่มีภารกิจหนักอยู่แล้ว หากมาอย่างสงบ และแสดงความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องที่ทำได้ กทม.จัดพื้นที่ให้ไว้ดีกว่าไปแสดงออกในพื้นที่ที่มีผลต่อการจัดประชุม โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย
โวยคิวยาวเหยียดขอใบเข้า-ออก
ที่ห้องปฏิบัติการจราจร สน.ลุมพินี ประชาชนที่พักอาศัยและทำงานในเขตที่มีการปิดการจราจร เดินทางมาขออนุญาตผ่านเข้าออกในเส้นทางที่ปิดการจราจรช่วงการประชุมเอเปก เป็นวันสุดท้าย โดยทาง สน.ลุมพินี อนุญาตบัตรผ่านเข้าออกให้เฉพาะประชาชนที่มีบ้านพัก หรือที่ทำงานในบริเวณที่มีการปิดการจราจรเท่านั้น จะไม่ออกให้กับไรเดอร์ และ จยย.รับจ้าง ที่ไม่มีบ้านพักอยู่ในบริเวณดังกล่าว มีประชาชนที่ทราบข่าวดังกล่าวมาเข้าคิวต่อแถวยาวเพื่อทำเรื่องขออนุญาต ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฝ่ายจัดการน่าจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบกว้างขวางกว่านี้ หรือจัดให้ลงทะเบียนขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ จะสะดวกมากกว่า หรือควรกระจายการขออนุญาตไปยัง สน.อื่น ไม่ให้กระจุกอยู่ที่เดียว แต่กลับปล่อยให้ประชาชนยืนรอคิวเข้าแถวเป็นเวลานานกว่าจะได้รับใบอนุญาต หากจัดระบบดีกว่านี้คงสะดวกมากกว่า เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว
“สมคิด” จี้ “บิ๊กตู่” โชว์กึ๋นมัดใจจีน
ที่แรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน สี่พระยานายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในบริบทโลกที่เปลี่ยนไป” ในงานพบปะนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน ว่า ไทย-จีน ความสัมพันธ์ระหว่างกันต้องไม่บกพร่อง เป็นเพื่อนกันจริงๆ เพราะจีนคืออนาคตสำหรับประเทศไทย ไทยต้องไม่หลุดแกนกลางของอาเซียน และต้องขึ้นมาเป็นผู้นำอาเซียนให้ได้ โดยอาศัยการเป็นเจ้าภาพเอเปก กระทรวงการต่างประเทศต้องคิดถ้อยคำให้ พล.อ.ประยุทธ์พูดแล้วไม่ตกรุ่น ไม่ใช่ให้จุดสำคัญทุกอย่างไปอยู่ที่การประชุม G20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ใน 2-3 วันนี้ ไม่ใช่ผู้นำแค่แวะมากินข้าวที่ไทย ประชุมอาเซียน สมเด็จฯฮุน เซน นายกฯกัมพูชา กล่าวถ้อยคำที่แสดงให้เห็นว่าต้องการเป็นผู้นำอาเซียน และนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เจ้าภาพ G20 ก็ต้องสร้างภาพการเป็นผู้นำอาเซียนอย่างแน่นอนเช่นกัน
กลุ่มหยุด APEC 2022 เริ่มขยับ
ขณะที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่าย ราษฎร หยุด APEC 2022 แล้ว โดยช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ย.ที่อาคารร้างวัฏจักร ริมถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน “กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022” นำป้ายผ้าขนาดใหญ่สีดำ 2 ผืน ที่เขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษสีขาว ผืนแรกมีข้อความ DEMOCRACY ผืนที่สอง APEC ทั้ง 2 ผืนถูกตัดเป็นลักษณะลูกศร ปลายแหลมหันปลายไปคนละฝั่ง ไปติดไว้บนตึกเพื่อให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมามองเห็น ต่อมาเฟซบุ๊กเพจกลุ่มทะลุฟ้า โพสต์ภาพดังกล่าวพร้อมใจความระบุว่า “การประชุมสุดยอดผู้นำ APEC 2022 สวนทาง กับประชาธิปไตยอย่างไร ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำเผด็จการทหาร ได้เป็นประธานและเจ้าภาพการประชุม APEC 2022 ไม่เพียงแต่บริหารงานที่ล้มเหลวมาตลอด 8 ปี หากย้อนกลับไป ประยุทธ์ จันทร์โอชา ฟอกขาวตัวเองให้กลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง ผ่านรัฐธรรมนูญที่ลิดรอนสิทธิประชาชน บังคับใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ใช้กระบวนการยุติธรรมบิดเบือนกฎหมายปิดปากประชาชน รวมถึง การผลักดันนโยบาย BCG ที่มีหน้าฉากที่เต็มไปด้วย คำพูดที่สวยหรู แต่กลับหวังจะฉวยผลประโยชน์จากการประชุม เปิดโอกาสให้กลุ่มนายทุนผูกขาด”
วันเดียวกัน ที่ย่านสยามสแควร์ สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์คัดค้านการประชุมเอเปก โดยให้สมาชิกสวมชุดแฟนซีคล้ายตัวละครในภาพยนตร์ไซไฟ เรื่องดัง AVATAR เดินแจกจ่ายเอกสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผลเสียของการจัดประชุมเอเปกให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา
