ผลการศึกษาขนาดเล็กในแคนาดาพบว่า การสูบกัญชาอาจทำร้ายปอดและทางเดินหายใจมากกว่าการสูบบุหรี่
คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออตตาวาและโรงพยาบาลออตตาวาเปรียบเทียบผลเอกซเรย์ปอดของผู้สูบกัญชา 56 คน กับผู้สูบบุหรี่ 33 คน และผู้ไม่สูบทั้งกัญชาและบุหรี่ 57 คน ระหว่างปี 2005-2020 พบว่า ผู้สูบกัญชาเป็นประจำมีอัตราทางเดินหายใจอักเสบและเป็นโรคถุงลมโป่งพองมากกว่าผู้สูบบุหรี่เป็นประจำและผู้ไม่สูบเลย
ดร.จิเซลล์ เรวาห์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านรังสีวิทยา มหาวิทยาลัยออตตาวา ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการวิจัยครั้งนี้ กล่าวว่า การสูบกัญชามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และคนทั่วไปเข้าใจว่ากัญชาปลอดภัย หรือเข้าใจว่ากัญชาปลอดภัยกว่าบุหรี่ที่ทำมาจากยาสูบ แต่ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความเข้าใจดังกล่าวอาจไม่ถูกต้อง
เรวาห์กล่าวว่า อัตราการเกิดภาวะการอักเสบและการเกิดโรคจากการสูบกัญชาที่สูงกว่าการสูบบุหรี่ อาจมีความเกี่ยวข้องกับวิธีการในการเสพที่แตกต่างกัน
“การสูบกัญชาไม่มีก้นกรอง ขณะที่การสูบบุหรี่มีก้นกรอง เมื่อเราสูบกัญชาที่ไม่มีก้นกรอง อนุภาคของมันก็จะยิ่งเข้าสู่ทางเดินหายใจมากขึ้น เมื่อเกิดการสะสมก็จะยิ่งสร้างการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ
เธอยังกล่าวเสริมว่า ผู้สูบกัญชายังมักอัดควันเข้าปอดมากกว่าและกลั้นไว้นานกว่าผู้สูบบุหรี่ ทำให้ทางเดินหายใจได้รับความเสียหายมากกว่า”
แม้จะมีการเผยผลการศึกษาครั้งนี้ แต่ผู้เขียนงานวิจัย ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารรังสีวิทยา ชี้ว่าผู้สูบกัญชาบางรายยังสูบบุหรี่ด้วย และผลการสแกนปอดได้นำไปสู่ผลที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งหมายความว่าควรมีการศึกษาผลกระทบของการสูบกัญชาที่มีต่อสุขภาพให้มากกว่านี้
แคนาดาให้การสูบกัญชาเพื่อสันทนาการเป็นสิ่งถูกกฎหมายตั้งแต่ปี 2561 เช่นเดียวกับเม็กซิโก อุรุกวัย และหลายประเทศ รวมทั้งหลายรัฐในสหรัฐฯ ขณะที่อีกหลายประเทศและดินแดนเพิ่งอนุญาตให้ครอบครองกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย และอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น.
ที่มา CNN