ผู้ว่าฯ แคว้นลูฮานสก์เผย กองทัพรัสเซียยึดการควบคุมพื้นที่ในแคว้นของเขาได้แล้ว 80% หลังจากเปิดฉากบุกภาคตะวันออกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พร้องเตือนว่า มอสโกจะไม่หยุดแค่นี้
นายเซอร์ฮี ไฮได ผู้ว่าแคว้นลูฮานสก์บอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ว่า ตอนนี้ดินแดนในแคว้นของเขาตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียกว่า 80% และเขาเห็นด้วยกับที่หลายคนบอกว่าปฏิบัติการทางทหารเฟสที่ 2 ของกองทัพรัสเซียได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่เชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นการรุกรานโดยสมบูรณ์
“แน่นอนว่าพวกเขาแผ่ขยายออกไปมากขึ้น เราจัดตั้งการป้องกันในหลายเมือง พวกเขาพยายามโอบล้อมกองทัพของเรา เรื่องไม่น่าอภิรมย์มากมายกำลังเกิดขึ้นที่นั่น แต่จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จใดๆ เรายังทำได้ดีในการทำลายอุปกรณ์ของพวกเขา” นายไฮไดกล่าว
“เรามีสถานการณ์ร้ายแรงมากที่นี่ ทั้งลูฮานสก์กำลังถูกยิงถล่ม ไม่มีเมืองที่ปลอดภัย เราเข้าใจว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังผลักดันไปข้างหน้าและจะทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง ดังนั้นสิ่งที่เรากำลังทำคือพยายามอพยพประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
นายไฮไดเผยด้วยว่า จากประชาชน 350,000 คนที่อาศัยอยู่ในแคว้นลูฮานสก์ฝั่งยูเครน ตอนนี้เหลืออยู่ราว 70,000 คนเท่านั้น ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบังเกอร์, ห้องใต้ดิน และหลุมหลบภัย โดยที่ระบบไฟฟ้าและประปาได้รับความเสียหายจากการโจมตี
เมื่อถูกขอให้เปรียบเทียบสถานการณ์ในลูฮานสก์กับที่เมืองมาริอูโปล ซึ่งถูกรัสเซียปิดล้อมหลายสัปดาห์เช่นกัน นายไฮไดตอบว่า “สำหรับพวกเรา อย่างน้อยเรายังสามารถได้รับความช่วยเหลือเข้ามา และเรายังสามารถถอพยพประชาชนออกไปได้ แต่การทิ้งระเบิดเกิดขึ้นทุกวันไปจนถึงกลางคืน ด้วยเหตุนั้น สถานการณ์ (ในลูฮานสก์) จึงคลายกับในมาริอูโปล”
ผู้ว่าลูฮานสก์ยังเรียกร้องให้ชาติตะวันตกส่งยุทโธปกรณ์มาให้ยูเครนเพิ่มเติม เพื่อช่วยป้องกันน่านฟ้าและดินแดนของยูเครนด้วย และแสดงความกังขาว่า การตกลงทางการเมืองจะช่วยยุติสงครามได้หรือไม่ “พวกเขา (รัสเซีย) โกหกตลอดเวลา ทุกคนรู้ดีว่าไม่มีใครเชื่อพวกเขาแล้ว ทุกคนรู้ว่าข้อตกลงกับรัสเซียไม่คุ้มค่ากระดาษที่พิมพ์มันออกมาด้วยซ้ำ วันนี้รัสเซียเป็นศัตรูของทั้งโลกไปแล้ว ไม่ใช่แค่ของยูเครน ความทะเยอทะยานของพวกเขาแผ่ขยายไปไกลกว่ายูเครนมาก”