บ่อยครั้งที่การค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลจะเป็นคนธรรมดาทั่วไปหรือมือสมัครเล่น อย่างกรณีของ สตีเฟน ครูซ มือสมัครเล่นที่สนใจในเรื่องของไดโนเสาร์และสัตว์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งได้ไปเดินป่าลัดเลาะแนวแม่น้ำนอร์ธ ซัลเฟอร์ ทางตะวันออกเฉียง เหนือของเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และจู่ๆก็ค้นพบกระดูกสีดำขนาด 5-6 นิ้ว จากลำธารหิน ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่านี่คือชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตยุคก่อนประวัติศาสตร์
ครูซและนักบรรพชีวินวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโมซาซอร์ (mosasaur) สัตว์เลื้อยคลานทางทะเลขนาดใหญ่จากมหาวิทยาลัยเซาเธิร์น เมโธดิสต์ ได้ติดต่อนักบรรพชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์เปโรต์ รัฐเท็กซัส ทำให้ไขความกระจ่างได้ว่าชิ้นส่วนดังกล่าวคือฟอสซิลของโมซาซอร์ขนาดราว 9 เมตร มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 80 ล้านปีก่อน นักบรรพ ชีวินวิทยาจากพิพิธภัณฑ์ฯ อธิบายว่าเมื่อ 80 ล้านปีก่อน พื้นที่ตอนกลางของรัฐเท็กซัสเกือบทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ โดยเป็นน้ำทะเลที่ตื้นและอุ่น จึงอุดมด้วยสารอาหารมากมาย และกลายเป็นถิ่นอาศัยที่สมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งมีชีวิตหลายชนิดรวมถึงโมซาซอร์
อย่างไรก็ตาม การค้นพบโมซาซอร์ในแหล่งน้ำแถวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการค้นพบฟอสซิลสัตว์ดังกล่าวหลายครั้ง เนื่องจากน้ำกัดเซาะริมตลิ่งอย่างต่อเนื่องและน้ำฝนได้ทำให้ก้อนหินอ่อนตัวลง จนเผยให้เห็นซากฟอสซิล ซึ่งการยิ่งค้นพบฟอสซิลก็จะช่วยปรับแต่งภาพในอดีตว่าสิ่งมีชีวิตพวกนี้เคยเป็นอย่างไรเมื่อหลายล้านปีก่อน.