เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.64 นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “ระบบดิจิทัลจับโกหกนักการเมือง” หนึ่งในวิธีการสร้างธรรมาภิบาล คือ ระบบดิจิทัล (digital government) ซึ่งด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จึงชอบพูดว่าเป็นวิธีประชาสัมพันธ์ความสำเร็จของภาครัฐ จุดประสงค์ของรัฐบาลดิจิทัลไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ แต่คืออำนวยความสะดวก สร้างประสิทธิภาพ และให้ความโปร่งใสเข้าถึงข้อมูล อย่างเช่นในกรณี คุณสิระ เจนจาคะ ประชาชนควรเข้าเว็บไซต์ของกรมราชทัณฑ์พิมพ์ชื่อ “สิระ เจนจาคะ” ข้อมูลการจำคุกก็ควรเด้งขึ้นมาทันที นี่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล แต่เป็นข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับบุคคลที่เคยทำอาชญากรรม เป็นข้อมูลที่ประชาชนควรเข้าถึงตั้งแต่สมัยคุณสิระ ประกาศลงเลือกตั้ง กทม. เขต 9 หลักสี่ กว่าสองปีที่แล้ว”
นายวรนัยน์ ระบุต่อว่า “ประชาชนไม่ควรต้องมาเสียเวลาดูตลกที่ขําไม่ออกมากว่าสองปี ในบทบาท ส.ส.ของคุณสิระ เงินภาษี 10 กว่าล้านที่เสียไป เป็นเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนของคุณสิระและทีมงาน เงินภาษีอีกนับกี่ล้านที่ต้องใช้ในการเลือกตั้งซ่อมทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะความเน่าของระบบการเมืองไทย ทุกปรากฏการณ์ทางการเมืองที่สร้างความสะอิดสะเอียนให้ประชาชน คือ อาการกำเริบของโรคร้ายที่เป็นเรื้อรังในประเทศของเรา นั่นคือโรคอำนาจนิยม และการเมืองเก่า ไม่มีวันที่จะรักษาโรคร้ายอันนี้ เพราะเขาหากินได้ดิบได้ดีจากการแพร่เชื้อโรค
การเมืองที่ดีต้องมีธรรมาภิบาล ที่ผ่านมาสื่อมวลชนพยายามค้นหาประวัติหลักฐานการติดคุกของคุณสิระ แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล ต้องอาศัยอำนาจบารมีของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.และอดีต ผบ.ตำรวจแห่งชาติ ถึงจะขุดเอกสารออกมาได้ และความจริงก็คงไม่ปรากฏ ถ้าคุณสิระไม่ไปมีเรื่องกับคุณเสรีพิศุทธ์ ซึ่งหมายความว่าในสังคมไทย การตรวจสอบเข้าถึงข้อมูลต้องอาศัยคนระดับบิ๊ก สื่อและประชาชนเข้าไม่ถึง อำนาจประชาธิปไตยไม่ได้อยู่ในมือทุกคนเท่าเทียมกัน แล้วใครล่ะมีอำนาจพอที่จะตรวจสอบคนระดับบิ๊ก? คําตอบคือไม่มี เพราะฉะนั้นบรรดาคุณท่านคุณเธอและคุณลุง จึงลอยหน้าลอยตาและลอยนวลอยู่ในอํานาจอย่างไม่แยแส แค่ระวังไม่ไปมีเรื่องกับคนที่บิ๊กกว่า แล้วปล่อยให้ลิ่วล้อที่หมดประโยชน์โดนสอย เช่นเหล่าอดีตรัฐมนตรี กปปส.เพราะต้องการดันลิ่วล้อกลุ่มใหม่” นายวรนัยน์ ระบุ
นายวรนัยน์ ระบุต่อว่า “นี่คือความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ ซึ่งนอกเหนือจากความไม่เป็นธรรมแล้ว ยังทำให้เสียเงินเสียเวลาและเสียอนาคต เพราะการเมืองของไทยเรามันคืออำนาจนิยม มันคือการเมืองอุปถัมภ์ ไม่ใช่การเมืองธรรมาภิบาล นี่คือโครงสร้างอำนาจที่ผมและพรรครวมไทยยูไนเต็ด ต้องการเปลี่ยนแปลง ตามสโลแกนของเรา “รัฐบาลไม่ได้ปกครอง รัฐบาลบริหาร รัฐบาลไม่ใช่นาย รัฐบาลคือประชาชน”