“พรรคไทยสร้างไทย” ลุยช่วยชาวนาร้อยเอ็ด ซื้อข้าวเปลือก สีแจกชาวบ้านที่เดือดร้อนจากโควิด-น้ำท่วม

พรรคไทยสร้างไทย ลุยช่วยชาวนาร้อยเอ็ด ซื้อข้าวเปลือกกิโลกรัมละ 12 บาท มาสีเป็นข้าวสารแจกชาวบ้านที่เดือดร้อนจากโควิด และน้ำท่วม นำร่องรัฐบาลชี้ช่องแก้ปัญหาช่วยเกษตรกร

วันที่ 13 พ.ย. 2564 ที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมคณะผู้บริหารพรรคฯ และ ทีมไทยสร้างไทยร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวนาและรับฟังปัญหา โดยเฉพาะราคาข้าวที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี

ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมทีมงาน ได้ร่วมกับชาวนา นำข้าวขึ้นรถอีแต๋นไปขายข้าวให้โรงสีด้วยตนเอง เพื่อให้รู้ข้อเท็จจริงของปัญหา โดยคุณหญิงสุดารัตน์ยังได้ประกาศสู้เคียงข้างเกษตรกร หลังราคาข้าวเปลือกตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 6-8 บาทเป็นความทุกข์ซ้ำซากของชาวนาที่ “ยิ่งทำยิ่งเจ๊ง ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้” อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากราคาต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ดังนั้นรายได้จากการขายข้าวหนึ่งไร่ ได้ไม่เกิน 3,200 บาท ชาวนาจึงขาดทุนยับเยิน ประกอบกับการส่งออกข้าวในปีที่ผ่านมาลดลงกว่าร้อยละ 25 เป็นผลให้สต๊อกข้าวในประเทศ ล้นเกินความต้องการ จึงทำให้กดราคาข้าวที่กำลังเก็บเกี่ยวให้ตกต่ำลงไปอีก ราคาจึงต่ำสุดในรอบ 10 ปี

พรรคไทยสร้างไทย จึงเสนอรัฐบาลให้จัดงบประมาณ 24,000 ล้านบาท เพื่อซื้อข้าวเปลือกประมาณ 2 ล้านตัน ในราคากิโลกรัมละ 12 บาท นำไปสีเป็นข้าวสาร แจกให้ครัวเรือนยากจน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและน้ำท่วมครัวเรือนละ 50 กิโลกรัม จำนวนประมาณ 20 ล้านครัวเรือน จะทำให้ดึงราคาข้าวเปลือกกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ตามกลไกอุปสงค์และอุปทาน และในระยะยาว รัฐต้องเร่งจัดสรรงบประมาณ วิจัยพันธุ์ข้าว ปรับปรุงผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น เพื่อเป็นกลไกในการแข่งขันกับประเทศผู้ค้ารายอื่น

ส่วนวันนี้ มูลนิธิไทยพึ่งไทยจะรับซื้อข้าวเปลือกโดยตรงจากชาวนา นำร่องให้เห็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาให้ชาวนา ในราคากิโลกรัมละ 12 บาทเพื่อนำไปสีเป็นข้าวสาร แจกจ่ายประชาชนที่กำลังประสบปัญหาโควิด-19 และน้ำท่วม พร้อมนำไปขายเพื่อเปิดตลาดให้ชาวนาสีข้าวขายตรงให้ผู้บริโภค รวมทั้งรัฐบาลต้องใช้กลไกของทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างประเทศ ในการลุยเจรจาหาตลาดส่งออกข้าวไทยโดยด่วนที่สุด.