“พระพยอม” เอ่ยปากชม “หมอปลา” กรณีบุกกุฏิเจ้าอาวาสมั่วสีกา สำนักพุทธฯ ควรแบ่งเงินเดือนให้หมอปลาบ้าง!

พระพยอม เอ่ยปากชม หมอปลา-ชาวบ้านปกป้องศาสนา กรณีบุกกุฏิเจ้าอาวาสมั่วสีกา สำนักพุทธฯ ควรแบ่งเงินเดือนให้หมอปลาบ้าง

เมื่อ 10 ก.พ. 65 เวลา 14.00 น. ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ชาวบ้านและหมอปลาบุกวัดบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ กลางดึก 

สืบเนื่องจากมีชาวบ้านร้องเรียนมาที่หมอปลาว่า พระครูปลัดสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ เจ้าเอาวาส มีพฤติกรรมมั่วสีกาและชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ จนกระทั่งถูกชาวบ้านและหมอปลารวมตัวกันบุกถึงกุฏิ โดยได้ทำการปิดล้อมกุฏิเจ้าอาวาส เมื่อเปิดประตูพบหญิงคนหนึ่งหลบอยู่ใต้บันได อยู่ในสภาพสวมกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ ใช้จีวรคุมตัว นอกจากนี้ยังพบขวดสุรา ที่เจ้าอาวาสให้การว่า เอาไว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างรื้อค้นในห้องนอนพบที่คาดผมผู้หญิง เจ้าอาวาสจึงหยิบมาคาดโชว์ อ้างว่าเป็นของตัวเอง เอาไว้คาดเพื่อรักษาอาการปวดหัว หญิงที่หลบอยู่ใต้บันไดนั้น แอบเข้ามาในขณะที่ตนไม่อยู่ 

ด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เราจะเห็นในเรื่องของการมั่วสีกาและจะมีข้อแก้ตัวต่างๆ นานา บางทีถึงขั้นผู้หญิงท้องก็ยังเอาคนอื่นมารับผิดแทน สมัยนั้นยังไม่ทีการตรวจ DNA แต่สมัยนี้ อย่างกรณีนี้เขาเรียกว่า “แถ” แถไปเรื่อย ไม่รู้จะแถไปทำไมเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระหมด ทั้งเสื้อยกทรง เข้าไปในเวลากลางคืน อยู่สองต่อสอง ตัวเองก็รู้อยู่นะว่าผิดเพราะ อยู่สองต่อสองในที่ลับตา ต้องขอบใจหมอปลา จากที่ปราบแต่สัมภเวสี ตอนนี้มาปราบอลัชชีบ้าง เพราะทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองพระศาสนา และขออนุโมทนาบุญ ให้กับชาวบ้านในครั้งนี้ด้วยที่ช่วยกันปกป้องไม่ปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวล แถมยังพูดขำๆ ว่า ทางสำนักพุทธสมุทรปราการต้องแบ่งเงินเดือนให้หมอปลาบ้างแล้ว คนแบบนี้ปล่อยให้ลอยนวลไม่ได้ ไม่งั้นก็จะย่ำยีพระศาสนาเรื่อยไป ซ้ำยังเอาเงินที่จะใช้ทำนุบำรุงพระศาสนาไปปรนเปรอสีกา

ที่แย่ที่สุดเป็นอย่างที่คำพระพุทธเจ้าว่า “บุคคลเริ่มโกหกได้ จะไม่ทำชั่วอย่างอื่นเป็นไม่มี” ซ้ำแก้ตัวเรื่องที่คาดผมว่าเอามาใส่แก้ปวดหัวได้แบบน้ำขุ่นๆ และไม่ใช่ขุ่นแบบธรรมดา ขุ่นแบบเป็นโคลนตมเลยทีเดียว แทนที่จะสึกออกไปเงียบๆ ไปอยู่ด้วยกันเลยก็จบ ไม่ต้องมาหลบๆซ่อนๆ จะมาทำแอบๆทำไม เปิดเผยไปเลยทำให้โปร่งใส่ใครเขาจะมาว่าอะไร  แบบนี้เขาเรียกว่าจำนนด้วยหลักฐาน จึงต้องยอมสึกออกไป ถ้าเป็นคดีความฝ่ายผู้หญิงเองก็น่าจะมีความผิดด้วย

พระพยอม กัลยาโณ กล่าวเสริมอีกว่า ถึงกฏหมายจะไม่ศักดิ์สิทธิ์ อะไรๆ จะไม่ศักดิ์สิทธิ์ แต่พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์  ท่านเปรียบเอาไว้ว่า “ขยะในทะเลย่อมโดนคลื่นในทะเลซัดขึ้นฝั่งฉันใด พระที่ทำตัวเป็นขยะก็จะโดนคลื่นซัดขึ้นฝั่งให้สึกหาลาเพศไปเป็นฆารวาสฉันนั้น” อย่าตกใจจะมีอีกกี่รายก็โดนซัดขึ้นฝั่งหมด ถ้าประชาชนชาวพุทธไม่ปล่อยให้คนแบบนี้ลอยนวล ทำแบบหมอปลาทำแบบชาวบ้านวัดบางหญ้าแพรก หรือจะมีอีกกี่วัดก็ให้ทำแบบนี้ ชาวบ้านคอยเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องดูแล ช่วยกันล้างมลทิน

ขอขอบคุณ

ภาพ :หมายจับกับบรรจง