“พัดชา-เทพสามตา” กราบขอขมาหลวงพ่อรวย-วัดตะโก หลังเต้นหน้าเจดีย์สรีระสังขารแล้วเจอดราม่า

“พัดชา เทพสามตา” กราบขอขมาหลวงพ่อรวย วัดตะโก หลังเต้นหน้าเจดีย์สรีระสังขาร แล้วเจอดราม่า

จากกรณี นายสุภกิจ สุวรรณแถม ไวยาวัจกรของวัดตะโก และกลุ่ม ลูกศิษย์ “หลวงพ่อรวย” อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังและเจ้าอาวาสวัดตะโก อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ออกมาวิจารณ์ นักร้องเพลงดัง “โอมจงรวย” (เทพสามตามาดลใจ) พร้อมแดนเซอร์ ทำคอนเทนต์เต้นหน้าองค์พระเจดีย์ที่เก็บสรีระสังขารหลวงพ่อรวย ไม่เหมาะสม และนำไปโพสต์ลงแอปพลิเคชั่น TikTok เรียกร้องให้ออกมาขอขมา และขอให้ลบคลิป ตามทีมีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่ พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก ภายในวัดตะโก อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา พัดชา ชนุดม สุขสถิตย์ นักร้อง เจ้าของเพลงโอมจงรวย(เทพสามตามาดลใจ) พร้อมด้วยทีมงาน ได้นำดอกไม พวงมาลัย เข้ากราบขอขมา สรีระสังขารหลวงพ่อรวย หรือพระครูสุนทรธรรมนิวิฐ อดีตพระเกจิอาจารย์ เจ้าอาวาส ที่ประชาชนเลื่อมใสศรัทธา จากนั้นได้ ขอโทษและพูดคุยกับ นายสุภกิจ สุวรรณแถม ไวยาวัจกรของวัด

พัดชา ชนุดม สุขสถิตย์ นักร้อง เจ้าของเพลงโอมจงรวย (เทพสามตามาดลใจ) เปิดเผยว่า วันนั้นตั้งใจไปทำบุญที่วัดตะโก พร้อมกับได้กราบสรีระสังขารหลวงพ่อรวย จากนั้น อยากจะให้ทุกคนได้ร่วมอนุโมทนาบุญจึงได้ชักชวนทีมแดนเซอร์ ออกมาเต้น แล้วถ่ายคลิป โพสต์ลงสื่อโซเชียลไป เริ่มมีการกระแส วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องความไม่เหมาสะสมในเรื่องของสถานที่ ทั้งในท่วงท่าการเต้น เกิดความความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ต้องกราบขอโทษ ท่านเจ้าอาวาส พระสงฆ์ และลูกศิษย์ ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธา ต่อหลวงพ่อรวย ตนเองมีความเคารพศรัทธา และนับถือพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกัน ที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ คำติชม คำวิพากษ์วิจารณ์ทุกคำ ตนเองน้อมรับเอากลับมาปรังตัวตัวเองแก้ไข ทำให้ก่อนที่คิดจะทำอะไรลงไปทั้งการพูดการแสดงอะไร จะต้องคิดและดูเรื่องของความเหมาะสม ว่าจะกระทบต่อบุคคลอื่นหรือสังคมหรือไม่เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญ

นายสุภกิจ สุวรรณแถม ไวยาวัจกร กล่าวว่า พัดชา ชนุดม สุขสถิตย์ นักร้อง ได้ติดต่อที่จะเข้ามาขมาขอโทษในสิ่งที่ทำผิดไป การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีสุด ท่านเจ้าอาวาส และหลวงพ่อรวย ท่านมีความเมตตากับทุกคน สิ่งที่มันผิดพลาดไปเราแก้ไขได้ เราเป็นชาวพุทธ วัดเป็นที่ศูนย์รวมจิตใจ อาจจะเกิดความเข้าใจผิดว่าสิ่งนี้ทำได้ไม่เป็นอะไร จึงอยากเตือนใครที่คิดจะทำอะไรให้ดูความเหมาะสมโดยเฉพาะที่วัด ที่มีประชาชนให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธา ก่อนที่จะทำอะไรลงไปลองสอบถาม เจ้าน้าที่ถามพระที่รับผิดชอบดูและสถานที่ ว่าเหมาสะสม ควรหรือไม่ควร ได้แค่ไหน หรือที่เรียกว่าถูกกาลเทศะ