“พิธา” งานเข้า! “เรืองไกร” เตรียมร้องกกต.สอบการถือหุ้น “ไอทีวี” 42,000 หุ้น ขัดรัฐธรรมนูญ ม.98 (3) หรือไม่
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าตนได้ตรวจสอบพบข้อมูลที่น่าเชื่อว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ซึ่งเป็นมูลเหตุที่ต้องทำการเสาะหาข้อมูลอยู่หลายวัน จนเพียงพอที่จะขอให้กกต. ตรวจสอบต่อไป ใน 5 ประเด็น ดังนี้ ข้อ 1. รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) บัญญัติว่า “มาตรา 98 บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร … (3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ”
ข้อ 2. ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อมูลเมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ทำให้เข้าใจว่า นายพิธายังคงเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในลำดับที่ 6,121 เลขทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ 4030954168 ที่อยู่ 98/26 อาคารซิลเวอร์เฮอริเทจ ซอยสุขุมวิท 38 ถนนสุขุมวิท พระโขนง คลองเตย 10110 สัญชาติ ไทย จำนวน 42,000 หุ้น ข้อ 3. เมื่อตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ที่ระบุไว้บางส่วน ดังนี้ สถานะนิติบุคคล : ยังดำเนินกิจการอยู่ ,หมวดธุรกิจตอนจดทะเบียน : การออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียง(ยกเว้นทางออนไลน์) ,วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน : สถานีโทรทัศน์ , หมวดธุรกิจ : กิจกรรมเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ ,ปีที่ส่งงบการเงิน : 2564 2563 2562 2561 2560
ข้อ 4. เมื่อขอข้อมูล บัญชีรายขื่อผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ณ วันที่ 27 เม.ย.65 นายพิธาเป็นผู้ถือหุ้นในลำดับที่ 7,138 จำนวน 42,000 หุ้น เลขที่ใบหุ้น 06680180285422 มูลค่าหุ้นละ 5 บาท และ ข้อ 5. เมื่อตรวจสอบข้อมูลบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จากเว็บไซต์ พบว่า บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการรับจ้างโฆษณา ประชาสัมพันธ์ทุกชนิดทุกประเภท มีรายได้ปี 65 รวม 21 ล้านบาท และมีรายได้ปี 64 รวม 24 ล้านบาท โดยบริษัทมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 66 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เมื่อวันที่ 26 เม.ย.66
นายเรืองไกร กล่าวว่าจากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบนายพิธา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ว่าเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่
ทั้งนี้ ตนจะขอให้ กกต. รีบตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยด่วนว่า นายพิธาถือหุ้นจำนวนดังกล่าวมาตั้งแต่เมื่อใด หากถือมาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.62 จะเข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามมาก่อนหรือไม่ การเป็น ส.ส. ที่ผ่านมาจะชอบหรือไม่ เมื่อย้อนไปตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 นายพิธาแจ้งเงินลงทุนไว้ 45 รายการ แต่ไม่พบลงทุนในหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด ซึ่งที่อยู่ที่นายพิธาแจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. สอดคล้องกับที่อยู่ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นดังกล่าว โดยในวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือที่ กกต. ด้วยตนเอง