ภรรยาวัย 67 ปี สารภาพเป็นคนลั่นไกยิง พล.ต.ท.ปัญญา แต่ยังไม่พร้อมบอกเหตุผล น้องสาวเผย ตอนที่เจอกันทั้งคู่ก็ดูรักกันดี
(19 ก.พ.66)ที่ผ่านมา พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีปรากฎข่าว พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร อายุ 59 ปี เสียชีวิต อยู่บริเวณบ้านพัก ซอยบรมฯ70 ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ อาวุธปืนในที่เกิดเหตุ รวมทั้งชันสูตรพลิกศพ และสอบพยานต่างๆ เพื่อหาร่องรอยพยานหลักฐานประกอบทางคดี
สาเหตุเบื้องต้น พบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว ยังไม่ปรากฎมูลเหตุความขัดแย้งในเรื่องหน้าที่การงานหรืออย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัว พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข และได้กำชับไปยัง ผบช.น. ให้รวบรวมหลักฐานคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น ให้เกิดความเป็นธรรมและชัดเจนมากที่สุด เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ตร.
สำหรับ พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร จบ รร.นรต.รุ่นที่ 40 เติบโตในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำแหน่ง รอง ผกก.2 บก.ป , ผกก.2 ทล., ผกก.5 ปคม. ติดยศนายพลครั้งแรกในตำแหน่ง ผบก.ปทส. ก่อนที่จะขยับขึ้นเป็น รอง ผบช.ก และได้รับแต่งตั้งเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร เมื่อ 1 ต.ค.2564 จะเกษียณอายุราชการปี 2567 มีผลงานโดดเด่นในงานสอบสวน เชี่ยวชาญ คดีค้ามนุษย์ คดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เมื่อเวลา 18.30 น. มีรายงานข่าวว่า ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำ นางพรประพา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา ส่วนรายละเอียดและสาเหตุยังไม่เปิดเผยเนื่องจากยังอยู่อาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน น.ส.แหม่ม เพื่อนผู้เสียชีวิต และผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พล.ต.ท.ปัญญา และ ภรรยา มานานหลายปีแล้ว ซึ่งทั้งคู่รักกันดี อยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี ออกงานด้วยกันบ่อยๆ แต่ไม่ทราบปัญหาภายในว่ามีการทะเลาะกันหรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากภายนอกไม่มีปัญหากันและตัวนางพรประภาเป็นคนพูดจาดี
ทั้งนี้ น.ส.แหม่ม ยังบอกอีกว่า นางพรประภา เป็นแม่บ้าน นิสัยน่ารัก ส่วนตัวสนิททั้งสามีและภรรยา จึงไม่รู้ว่านางพรประภาจะก่อเหตุยิงสามีจริงหรือไม่ หรือมีเหตุจูงใจอะไรที่จะก่อเหตุ เพราะไม่ทราบเรื่องลึกๆ ของครอบครัว ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เจอกันแล้ว แต่เจ้าตัวยังอยู่ในอาการช็อก ร้องไห้เสียใจ จึงไม่ได้สอบถามอะไร
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องสาวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเดินทางมาติดตาม ที่ สน.ธรรมศาลา แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ขอไปดูแลพี่สาวที่ตอนนี้กำลังใจแย่อยู่ เมื่อถามว่าทั้งคู่มีปัญหากันมาก่อนหรือไม่ น้องสาวผู้ก่อเหตุบอกเพียงว่าเป็นเรื่องภายใน ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบ ตอนที่เจอกันทั้งคู่ก็ดูรักกันดี ตอนนี้พี่สาวยังเสียใจและต้องปลอบลูกสาวไปด้วย พร้อมย้ำว่าตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 19.00 น. ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว นางพรประภา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ภรรยาผู้ตาย ไปสอบปากคำที่โรงพัก ปรากฏว่าเจ้าตัวยอมรับเป็นผู้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงสามีตนเองจริง แต่ไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากยังไม่พร้อมจะให้การกับทางตำรวจ เบื้องต้น จึงสั่งการให้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแก่ผู้ต้องหาเอาไว้ก่อน จากนั้นจะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บคราบเขม่าตามร่างกายและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป