มาแล้ว! “ซูเปอร์โพล” ชี้ประชาชน ชู “ประยุทธ์” เหมาะสมเป็นนายกฯนำโด่งอันดับ 1

มาแล้ว! “ซูเปอร์โพล” ชี้ประชาชนชู “ประยุทธ์” เหมาะสมเป็นนายกฯนำโด่งอันดับ 1 ในกลุ่มรัฐบาลตามมาด้วย “อนุทิน-จุรินทร์” ส่วนฝ่ายค้านคะแนนนำโดย “แพทองธาร-พิธา-เสรีพิศุทธ์-ชลน่าน”

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ตัวช่วย กับ เวลาที่เหลืออยู่” จำนวน 1,159 ตัวอย่างครัวเรือน ระหว่างวันที่ 30 ก.ย. – 1 ต.ค.65 เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยอมรับได้ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ทำงานต่อ พบว่า ร้อยละ 35.8 ระบุทำงานต่อไป เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ร้อยละ 28.4 ระบุยุบสภาทันที แต่ร้อยละ 28.0 ระบุยุบสภา หลังประชุม เอเปค ร้อยละ 26.9 ระบุ ลาออกทันที และร้อยละ 25.4 ระบุ ปรับคณะรัฐมนตรี

ที่น่าสนใจคือ สมการความน่าจะเป็นของโมเดลผู้ที่เหมาะสมกับการเป็น นายกรัฐมนตรี จำแนกตาม ฐานสถานะของแกนนำการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 22.5 อันดับสองได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 12.5 และอันดับสาม ได้แก่ นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.5 ในกลุ่มฝ่ายค้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 19.2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 11.4 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 3.5 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ร้อยละ 2.8 ในกลุ่มตัวช่วยผู้ไม่สังกัดฝ่าย พบว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร้อยละ 10.1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 10.0 และอื่นๆ ร้อยละ 4.5 ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ สมการความนิยมทางการเมืองของประชาชนส่วนประกอบสร้างรัฐบาลเข้มแข็งขับเคลื่อนประเทศ ทำงานตอบโจทย์ตรงเป้า แก้เศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน พบว่า สมการที่ 1 คือผลรวมคะแนนนิยมรัฐบาลได้ร้อยละ 38.5 ผลรวมคะแนนนิยมฝ่ายค้านได้ร้อยละ 36.9 ผลรวมคะแนนนิยมกลุ่มตัวช่วยได้ร้อยละ 24.6 ผลลัพธ์ประเมินความเสี่ยงการเมืองคือ พลังความนิยมของประชาชนอยู่ในระดับต่ำ มีแรงเสียดทานมาก

เมื่อนำผลรวมคะแนนนิยมจากกลุ่มตัวช่วยบางส่วนมารวมกับผลรวมคะแนนนิยมรัฐบาล พบว่า สมการที่ 2 คือ ผลรวมคะแนนนิยมรัฐบาล รวมกับผลรวมคะแนนนิยมกลุ่มตัวช่วยบางส่วนได้ร้อยละ 48.6 ผลรวมคะแนนนิยมฝ่ายค้านได้ร้อยละ 36.9 และผลรวมคะแนนนิยมกลุ่มตัวช่วยที่เหลือได้ร้อยละ 14.5 ผลลัพธ์ประเมินความเสี่ยงการเมืองคือ พลังความนิยมของประชาชนอยู่ในระดับปานกลาง มีแรงเสียดทานค่อนข้างน้อย

นอกจากนี้ สมการที่ 3 คือ ผลรวมคะแนนนิยมรัฐบาล รวมกับผลรวมคะแนนนิยมกลุ่มตัวช่วยทั้งหมดได้ร้อยละ 63.1 ผลรวมคะแนนนิยมฝ่ายค้านได้ร้อยละ 36.9 ผลลัพธ์ประเมินความเสี่ยงการเมืองคือ พลังความนิยมของประชาชนอยู่ในระดับค่อนข้างมาก มีแรงเสียดทานน้อย ที่น่าพิจารณาคือ ความต้องการของประชาชน ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 ต้องการให้คนไทยทุกคน เตรียมตัว เตรียมประเทศ พร้อมต้อนรับนานาชาติจัดประชุมเอเปคในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน ร้อยละ 80.3 ต้องการให้คนไทยทุกคน เคารพการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกรณี 8 ปี นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อได้ และร้อยละ 73.7 ต้องการให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์กลับเข้าทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ทันที หลังศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินเสร็จสิ้นแล้ว