ดอยม่อนแจ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง นักท่องเที่ยวมาเยือนในวันหยุดยาว นอนดูดาว รับไอหมอกยามเช้าช่วงปลายฝนต้นหนาว เผยยอดจองที่พักมีมากกว่า 50% หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด ทำให้คนตัดสินใจออกจากบ้านเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น
วันที่ 22 ตุลาคม 2564 บรรยากาศการท่องเที่ยวที่ดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ คึกคักรับวันหยุดยาว นักท่องเที่ยวพากันเดินทางขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสกับสายหมอกที่ล่องลอยผ่านหุบเขาบริเวณจุดชมวิวดอยม่อนแจ่มในช่วงปลายฝนต้นหนาว พร้อมชมวิวทิวทัศน์จากยอดดอยและชมความสวยงามของดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานต้อนรับลมหนาว ทั้ง ดอกเก๊กฮวย ดอกเสี้ยวฝรั่ง ดอกกระดาษ ดอกหงอนไก่ ส่วนกลางคืนนอนในบ้านพักและเต็นท์โดม ชมความสวยงามของหมู่ดาวบนฟากฟ้า ซึ่งบนดอยม่อนแจ่มเป็นอีกจุดหนึ่งที่ยามค่ำคืนไร้แสงรบกวน สามารถมองเห็นกลุ่มดาวได้ชัดเจน หากไม่มีฝนตกท้องฟ้าปลอดโปร่ง
นายบวรทัพพ์ ทรัพย์มั่น นักท่องเที่ยวจากจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า เดินทางมาม่อนแจ่มครั้งแรก ไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจเลือกมาเที่ยวเชียงใหม่ ประทับใจกับอากาศที่เริ่มหนาวเย็น รวมทั้งหมอกฝนบนดอย โดยหาข้อมูลและจองไว้ล่วงหน้าส่วนสถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่กังวลเพราะท่องเที่ยวแบบป้องกันตัว สวมหน้ากาก ล้างมือ และหลีกเลี่ยงที่แออัด
ขณะเดียวกกันสำรวจห้องพักบนดอยม่อนแจ่มช่วงหยุดยาวนี้ ถูกจองไปแล้วมากกว่าร้อยละ 50 จากห้องพักและเต็นท์ที่มีอยู่กว่า 1,500 ห้อง/หลัง เพิ่มขึ้นจากหลายเดือนที่ผ่านมา สาเหตุมาจากการคลายล็อกการเดินทางและวัคซีนที่ประชาชนได้รับมากขึ้น ทำให้ประชาชนตัดสินใจออกบ้านเดินทางไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น
นายวิชิต เมธาอนันต์กุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่มกล่าวว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ผู้ประกอบการที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ที่ดอยม่อนแจ่ม ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งตรวจคัดกรองอุณหภูมิ จุดล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การสวมหน้ากากอนามัย และการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดที่พักทุกจุด ทั้งหมดเป็นมาตรการปกติ
“ในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ยังมีการระบาด ผู้ประกอบการจึงมีมาตรการเสริมด้วยการกำหนดให้ตรวจหาเชื้อด้วยเอทีเคกับพนักงานทุกคน ทุกๆ 7 วัน ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก นอกจากจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขเข้าสู่จังหวัด คือ ฉีดวัคซีนครบสองเข็มและมีผลตรวจเอทีเคเป็นลบ ทางผู้ประกอบการที่พักดอยม่อนแจ่มจะใช้วิธีสุ่มตรวจหาเชื้อด้วยเอทีเคจากนักท่องเที่ยวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อความปลอดภัยให้กับพื้นที่และสร้างความมั่นใจด้านการท่องเที่ยว”.