ย่างเข้าโค้งสุดท้ายปลายปี ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 “ปักหมุด..หนาวนี้”

ย่างเข้าโค้งสุดท้ายปลายปี บรรยากาศของการท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก โดยเฉพาะในปีนี้ที่มีความพิเศษด้วยการผ่านพ้นผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดไปแล้ว ยังส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลับมาแพลนการเดินทางกันอีกครั้ง

ขณะที่รัฐบาลได้เปิดประเทศอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ นับว่าเป็นเครื่องจักรสำคัญที่สุดเพื่อกวาดรายได้เข้าประเทศมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสัญญาณการกลับมาท่องเที่ยวจากสนามบินสุวรรณภูมิแน่นขนัดไปด้วยนักท่องเที่ยว

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

ซึ่งในช่วงเวลาที่เหลือในปี 2565 รัฐจะต้องเร่งดำเนินการส่งเสริมให้ปีท่องเที่ยวไทย 2566 เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ต่อไป และหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยที่คุ้นเคย กล่าวได้ว่าเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปีมาตลอดก็คืองาน “ไทยเที่ยวไทย” ได้เตรียมจัดงานใหญ่เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐอย่างเต็มที่

นายกฤตย์ พัตรปาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 64 กล่าวว่า หลังรัฐเปิดประเทศ คลายล็อกทุกอย่าง ผู้คนต่างกล้าที่จะออกจากบ้านกันมากขึ้น คนไทยหลายคนอัดอั้นอยากออกไปเที่ยว หลายคนเริ่มวางแผนมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้นเคยไปมาก่อนหรือมองหาที่เที่ยวใหม่ๆที่มีระยะทางที่เดินทางไกลขึ้น เช่น ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และใช้เวลากับการท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนที่นานขึ้น

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

“ปี 2566 ผมมองว่าเทรนด์การท่องเที่ยวของคนไทยจะเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์หรือความชอบของตัวเองมากขึ้น เช่น การตั้งแคมป์ในสถานที่ทางธรรมชาติกำลังเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ หน้าหนาวนี้จะเห็นว่ามีผู้ประกอบการรีสอร์ตหลายรายในภาคกลางและภาคเหนือ เปิดบริการให้เลือกทั้งแบบตั้งแต่ให้เอาเต็นท์ไปกางนอนเอง หรือมีแคมป์ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ที่จัดไว้ให้ ตกแต่งกันหลายรูปแบบ ตกกลางคืนก็มีกิจกรรม ปิ้งย่างบาร์บีคิว นอนดูดาว มีการแบ่งสัดส่วนอย่างดี แยกห้องน้ำจากกันเป็น การเที่ยวแบบเว้นระยะห่าง ไม่แออัด สอดคล้องการท่องเที่ยวไทยวิถีใหม่”

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการหลายรายก็พลิกวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาให้เป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนและยก เครื่องกลยุทธ์การดึงดูดนักท่องเที่ยวลองปรับเปลี่ยนจากที่เคยเน้นแต่ปริมาณ มาเป็นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) หรือการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เกิดการอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม จะส่งผลดีต่อธุรกิจที่ยั่งยืน

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"
ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

สำหรับงาน “ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 64” เตรียมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–27 พ.ย.65 ณ ศูนย์ไบเทคบางนา ภายใต้แนวคิด “ปักหมุด..หนาวนี้” ลุยเที่ยวทั่วไทยเพื่อสนองความต้องการของคนอัดอั้นอยากไปเที่ยวเต็มที่ และกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวที่ซบเซา
ให้กลับมาคึกคัก เกิดเงินสะพัดทั่วไทยในช่วงหน้าหนาว คาดว่าจะมีเงินสะพัดช่วยชาติจากการจัดงานครั้งนี้มากกว่า 200 ล้านบาท

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

ภายในงานจะหลากหลายไปด้วยบูธการท่องเที่ยวครบทุกประเภท จากผู้ประกอบการทั้งหมด 600 ราย ทั้งโรงแรม รีสอร์ต โฮมสเตย์ บริษัททัวร์ รถเช่า เรือท่องเที่ยว สถานบันเทิงและพักผ่อนหย่อนใจ สปา ร้านอาหารบุฟเฟต์ อุปกรณ์กีฬา เต็นท์ อุปกรณ์ดำน้ำ กระเป๋าเดินทาง รวมถึงสินค้าและบริการท่องเที่ยวทั่วไป เช่น ประกัน การเดินทาง สินค้าเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นเมือง ซึ่งไฮไลต์ของงานคือ “แพ็กเกจท่องเที่ยวราคาโปรโมชัน ลดสูงสุดถึง 60%” พร้อมด้วยการแสดงกิจกรรมและศิลปวัฒนธรรมต่างๆบนเวทีตลอด 4 วัน

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

ในด้านโปรโมชัน มีพันธมิตรบัตรเครดิตชั้นนำจาก 4 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ บัตรเครดิตธนาคารซิตี้แบงก์ เอสซีบี กรุงศรี และยูโอบี นำข้อเสนอดีๆ มามอบให้สมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตได้ช็อปในงานครั้งนี้อย่างจุใจ ได้แก่ ส่วนลดเพิ่มสูงสุด 20% เที่ยวก่อนผ่อน 0% แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12% และรับคูปองชิงโชคให้ลุ้นรางวัลใหญ่หลายรายการ

ฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาวสำหรับคนที่กำลังวางแผนหรือยังไม่มีไอเดียว่าจะไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่ไหนลองไปดูที่งานนี้ได้กับกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลายมีครบ “ปักหมุด ..หนาวนี้” นอกจากจะได้ท่องเที่ยวชิลชิลแล้วยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอีกด้วย.

ไทยเที่ยวไทยครั้งที่ 64 "ปักหมุด..หนาวนี้"

วานิชหนุ่ม