น.รอตรวจ โดย บิ๊กสลีป ว่าด้วยเรื่อง ย้อนรอยเหตุการณ์สะเทือนขวัญความรุนแรงของการเมืองท้องถิ่น ที่กลายเป็นเหตุนองเลือด แล้วจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้
“จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลง ค้าขายก็มีวันขายได้ไม่ได้เป็นธรรมดา ขอแค่ใจไม่ยอมแพ้ กล้าลุย กล้าคิด จริงจัง และสม่ำเสมอ เป็นคุณสมบัติที่ดีของแม่ค้ายุคใหม่”
ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อคืนวันที่ 2 มี.ค. 2564 ตำรวจ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ไปตรวจสอบเหตุยิงกันในงานศพ ภายในวัดท่ามะขาม หมู่ 7 ต.ดอนทราย อ.โพธาราม เมื่อไปถึงก็พบเก้าอี้ล้มกระจัดกระจายเกลื่อนศาลา มีรอยเลือดหลายแห่ง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 5 คน ทราบชื่อคือ นายยิ่งพันธิ์ กันเกตุ กำนันตำบลดอนทราย มีบาดแผลกระสุนปืนทะลุลำคอ หลอดลมฉีกขาด อาการสาหัส
นอกจากนี้ยังมี นายนคร วันเพ็ญ ผู้สมัคร สท.เทศบาลตำบลดอนทราย เขต 2 (ตอนนั้น) นางสมถวิล ศรีรัตน์ นางมณเฑียร ใจธรรม ชาวบ้านที่มาร่วมงาน นางวราพร เนียมรักษา หรือ ครูนงค์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย เบอร์ 2 (ตอนนั้น) ถูกยิงเข้าที่บริเวณชายโครงซ้ายกระสุนฝังใน ที่คางมีบาดแผลฉีกขาดเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส ก่อนที่ นางวราพร จะเสียชีวิตในที่สุด ส่วนมือปืนอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีไป
เหตุเกิดขึ้นระหว่างที่ในงานศพกำลังเชิญ นายยิ่งพันธิ์ ซึ่งเป็นประธานงานศพ ขึ้นไปจุดธูปที่หน้าพระพุทธ ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ทั้งแขกเหรื่อทั้งพระต่างตกใจหมอบลงกับพื้นเพื่อหลบกระสุนปืน พอเสียงเงียบลงก็พบว่ามีคนถูกยิงหลายคน ส่วนคนร้ายยิงมาจากนอกอาคาร
ไม่น่าเชื่อเมื่อสืบสวนอย่างละเอียดแล้วตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับ นายวันชาติ เนียมรักษา อดีตตำรวจ และอดีตกำนัน ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นน้องชายสามีผู้ตายด้วย ก่อนที่ นายวันชาติ ที่ตอนนั้นดำรงเป็น ส.จ.ราชบุรี เขต อ.โพธาราม จะเข้ามอบตัวและให้การปฏิเสธว่า ไม่ใช่มือปืนและไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ
สำหรับ นายวันชาติ เนียมรักษา ผู้ต้องหารายนี้นั้นเป็นน้องชายของ นายเชาวลิต เนียมรักษา อดีต ส.จ.ราชบุรี เขต อ.โพธาราม สามีของนางวราพร ผู้ตาย โดยทั้งนายวันชาติ และนายเชาวลิต พี่กับน้อง ได้ส่งภรรยาของตัวเองลงแข่งขันสมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนทราย ภรรยาของ นายวันชาติ คือ นางจิตรลดา เนียมรักษา อดีตนายกเทศมนตรีสมัยที่ผ่านมา ผู้สมัครหมายเลข 1
ส่วน นางวราพร ผู้ตาย ภรรยาของ นายเชาวลิต เป็นผู้สมัครหมายเลข 2 ถึงจะเป็นญาติกัน แต่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น ตั้งแต่การเลือกตั้งกำนันที่ นายวันชาติ ส่งลูกสาวลงแข่งขัน แต่ก็แพ้ให้กับ นายยิ่งพันธ์ กำนันคนปัจจุบัน และการชิงตำแหน่งนายกเทศบาลตำบลดอนทรายนั้น นางวราพร ผู้สมัครหมายเลข 2 ก็มีกระแสตอบรับที่ดีจากชาวบ้าน กระทั่งมาเกิดเหตุ
ตอนนั้นฝั่งครอบครัวผู้ตายมั่นใจว่าปมเหตุมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นแน่นอน เพราะ “ครูนงค์” มีอุปนิสัยดี ไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน เพิ่งจะเกษียณมาจึงไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่พอมาลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ต.ดอนทราย ก็ต้องมาจบชีวิตลง เชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของ นายวันชาติ น้องชายของสามีครูนงค์
ต่อมา เมื่อมีการเลือกตั้งปรากฏว่า นางจิตรลดา ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 1,519 คะแนน โหวตโน 2,862 คะแนน และบัตรเสีย 270 ใบ และบัตรเสียส่วนใหญ่จะเป็นของ “ครูนงค์” ผู้ตาย รวมกันแล้วกว่า 3,000 คะแนน ทำให้การเลือกตั้งของเทศบาลตำบลดอนทรายครั้งนั้นต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
ล่าสุดวันที่ 31 ม.ค. 2566 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต นายวันชาติ เนียมรักษา ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านที่สาธารณะฯ และร่วมกันยิงปืนในที่สาธารณะ
ซึ่งทาง นางสาวศิริพร เนียมรักษา ลูกสาวของครูนงค์ ผู้ตาย ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย และได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรี เปิดใจว่า หลังฟังคำพิพากษาแล้วรู้สึกโล่งใจ ได้จุดธูปบอกให้แม่ได้รับรู้แล้ว แม้ว่าจะเป็นช่วงศาลชั้นต้น ยังเหลืออีก 2 ศาล สู้เพื่อความยุติธรรมมาตลอด 2 ปี
“สิ่งที่เป็นมากกว่าเสียใจ คือคนที่ก่อเหตุนั้นเป็นน้องชายของพ่อ และเป็นอาแท้ๆ ของตนเอง ที่ฆ่าพี่สะใภ้ที่มีพระคุณต่อเขา แต่วันนี้เขาก็ได้รับผลกรรมของเขาแล้ว และอยากจะฝากบอกถึงคนที่ลงเล่นการเมือง ไม่ว่าจะระดับใดขอให้ทุกคนอยู่ในกติกา แข่งขันกันตามกติกา อย่าใช้ความรุนแรงแบบนี้เลย” ลูกสาวที่เป็นนายกเทศมนตรีฯ บอกเล่าความรู้สึก
นี่เป็นการย้อนคดีโศกนาฏกรรมที่เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น..ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและนองเลือด
ตำรวจทางหลวงเฮ
ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับ 4 กองบังคับตำรวจทางหลวง จ.อุดรธานี ได้จัดให้มีการประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์สามัญประจำปี 2565 ขึ้นโดยมี พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. เป็นประธานการประชุมผ่านระบบทางไกล (ZOOM) จากส่วนกลางไปยัง ทุกภาคของประเทศ กก1-8 บก.ทล.ภาคอีสานตอนบน นำโดย พ.ต.ท.มนตรี รักชาติ เป็นประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง โดยมี ร.ต.ต.ภัสสะ บุญธรรม ข้าราชการบำนาญ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ จ.ขอนแก่น เข้าสังเกตการคัดเลือกชุดใหม่แทนชุดเก่าที่หมดวาระลง มีผู้ลงสมัคร 14 ท่าน คัดเลือกได้ 7 ท่านส่วนภาคอีสานตอนบน พ.ต.อ.อนุรัตน์ ฉิมทิม ผกก.4 ทล.ขอนแก่น. ได้ 111 คะแนน ไปรวมกับอีก 8 กองกำกับการ ที่มีการคัดเลือกเพื่อให้ได้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ ชุดใหม่ จำนวน 7 ท่าน ได้บริหารงานต่อไป จากนั้น พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.4 ทล. เป็นตัวแทนตำรวจทางหลวง มอบหลวงพ่อพระใส ให้กับ พ.ต.อ อนุรัตน์ ฉิมทิม ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายเวร (สบ.4.ตร) เพื่อเป็นสิริมงคลในการทำงานเพื่อประชาชน
แก้ปัญหายาเสพติด
พ.ต.อ.รัตนสุข คำวงศ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มอบหมายให้ พ.ต.ท.กฤติเดช สุพรรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ชุมแพ ร.ต.ต.อนันต์ พิมพา รอง สว.(ป.) สภ.ชุมแพ เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตลงความร่วมมือ (MOU) การป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดและอบายมุขในสถานศึกษา พร้อมกับเครือข่ายสถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจปัญหายาเสพติด และสร้างเครือข่ายการให้ข้อมูล แหล่งข่าวผู้ค้าผู้เสพกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อติดตามตัวนำเข้าสู่ขบวนการบำบัด จับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ณ ห้องประชุมโรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร
แสดงความยินดี
ศุภกิจ จิตมาต กรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จ.ชลบุรี ปรี ยนิธิ จิตมาต ประธาน กต.ตร.สภ.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง ให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจัง หวัดชลบุรี คนใหม่
มอบกระเช้า
สุรพงษ์ ญัตติณรงค์ กำนันตำบลหนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี มอบกระเช้าแสดงความยินดีกับ พ.ต.อ.ชัยรัชช์กิตติ์ ชัยปฏิวัติ ในโอกาสเดินทางมารับตำแหน่ง ผกก.สภ.พานทอง ซึ่งมี สุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์ ส.อบจ.ชลบุรี บุญยัง ไพรวัลย์ นายกอบต.พานทองหนองกะขะ รัชกฤต เจริญสุข นายกอบต.หน้าประดู่ พงษ์พัน์ แพทย์กูล กำนันตำบลหนองกะขะ ร่วมยินดีด้วย
ทล.แก้ความเดือดร้อน
ภายหลังชาวบ้านที่มีที่พักอาศัยอยู่ติดถนนสาย 210 หนองบัวลำภู-เลย ช่วงตลาดกกค้อกกโพธิ์ อำเภอนากลาง ไหนจะทนทุกข์กับการสร้างถนนมาราธอนร่วม 4 ปียังไร้วี่แววจะแล้วเสร็จ ถนนสายนี้ทรหดหนักหนารถบรรทุกหนักทั้งหินทั้งอ้อยวิ่งผ่านเป็นประจำเช้าจนดึกชาวบ้านสุดทนกับความเร็วและเสียงดังจนบ้านเรือนแทบพัง จนต้องแชร์ความเดือดร้อนไปยังสื่อมวลชนทุกแขนงช่วยด้วย ว่าแล้ว ร.ต.อ.สุระไกร เกรียงไกรชล รอง.สว.ส.ทล.4กก.4 บก.ทล.หัวหน้าหน่วยหนองบัวลำภู มอบหมายให้ ตำรวจทางหลวงหนองบัวลำภู วิทยุ 4414 มี ร.ต.ต.วีระเดช เดชพลมาตย์ ประจำรถ พร้อม ด.ต.พรชัย พลเทพ พลขับ เรียกตรวจรถบรรทุกหนักจอดๆๆพร้อมว่าการกล่าวตักเตือน”เฮ้ย….ลูกพี่ขับช้าๆหน่อยนี่เขตชุมชนเลยเขตชุมชนค่อยจะรีบไปไหนก็ไป” นี่หากผู้ประกอบการยังไม่ให้ความร่วมมือค่อยเพิ่มมาตรการเข้มข้นต่อไป……แบบนี้ปรบมือให้กับทีมงานเจ้าพ่อหลวงหนองบัวลำภู เสียแล้ว
เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ย
วันที่ 1 ม.ค.66 พล.ต.ต.นเรวิท สุคนธวิช ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นางประภาพรรณ ชูเก็น ยุติธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
ร่วมเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ย ประจำ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา โดยมี พ.ต.อ.นิพนธ์ คล้ายสิงห์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นายประชา คล้ายสิงห์ ประธานคณะทำงานศูนย์ใกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน นางวิภา เฟี่องฟูดำรงชัย ประธาน อสค.ฉะเชิงเทรา นายสุเทพ การะพิทักษ์ คณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ย อสค.ฉะเชิงเทรา และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี ณ บริเวณหน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้บูรณาการร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนประจำสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2566 เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท คดีความผิดอันยอมความได้ ความผิดลหุโทษ 7 ฐาน คดีแพ่งทุนทรัพย์ไม่เกิน 500,000 บาท โดยไม่ต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล หากตกลงกันได้ บันทึกข้อตกลงนี้สามารถบังคับได้ตามกฎหมาย และด้วยความสมัครใจคู่กรณีตามระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน.
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป