รวบอีก 1 ราย แก๊งฆ่ายกครัวที่ไต้หวัน สารภาพ “สันติ” จ้าง 5 แสน ญาติไม่เชื่ออ้างผู้ตายเอี่ยวค้ายานรก

ผบช.ก.แถลงรวบเพิ่มอีก 1 ราย แก๊งฆ่าสองผัวเมีย สารภาพ สันติ” จ้าง 5 แสน เตรียมส่งทีมงานร่วมสางคดีที่ไต้หวัน ส่วนญาติไม่เชื่อผู้ตายเอี่ยวค้ายา

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. แถลงผลจับกุม นายธนวัฒน์ พุ่มเข็มทอง อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1221/2565 ลงวันที่ 18 มิ.ย. 65 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ได้บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์

ทั้งนี้ นายธนวัฒน์ ผู้ต้องหา ได้ร่วมกับ นายสันติ หรือ หวัง ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และนายสามารถ แซ่หลี ก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ หรือ มี่ อายุ 35 ปี และ นายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยาชาวไทยและลูกแฝดในครรภ์ ที่ไต้หวัน ก่อนหลบหนีมายังประเทศไทย ส่วนปมการสังหารมาจากปัญหาขัดผลประโยชน์เรื่องยาเสพติด

จากการสอบสวน นายธนวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นายสันติ และ นายสามารถ ก่อเหตุใช้ท่อนเหล็กตี สองสามีภรรยาจนเสียชีวิต หลังจากนั้น จึงนำศพขึ้นรถเก๋งไปทิ้ง ก่อนจะหลบหนีกลับเมืองไทยและมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ กระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เบื้องต้นในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นายสันติ และพวกอีก 1 คน ก่อเหตุใช้ท่อนเหล็กตีสองสามีภรรยาจนเสียชีวิต หลังจากนั้น จึงนำศพขึ้นรถเก๋งไปทิ้ง ก่อนจะหลบหนีกลับมาประเทศไทยและมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และถูกจับกุมในเวลาต่อมา โดยผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ใช่คนลงมือฆ่า และได้บอกแล้วว่าใครเป็นคนลงมือ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า คดีนี้มี นายสันติ เป็นคนว่าจ้างให้นายธนวัฒน์ และ นายสามารถ ร่วมก่อเหตุ โดยจะให้ค่าจ้างจำนวน 500,000 บาท แต่มัดจำก่อน 20,000 บาท และหลังจากก่อเหตุในวันที่ 8 มิ.ย. นายสันติ ได้เดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 9 มิ.ย. ก่อนที่จะให้ผู้ต้องหาอีก 2 ราย เดินทางกลับไทยในวันที่ 11 มิ.ย. ส่วนปมสังหารตอนนี้พุ่งประเด็นไปที่เรื่องของความขัดแย้งระหว่างนายสันติ กับผู้เสียชีวิต เป็นหลัก ส่วนเหตุผลนั้นยังไม่ขอเปิดเผย ส่วนผู้ก่อเหตุอีกหนึ่งรายที่ยังหลบหนีอยู่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า คดีนี้ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการ และจัดทีมไว้แล้ว เบื้องต้นมีตำรวจ 6 นาย ที่จะเดินทางไปร่วมสางคดีที่ไต้หวัน การดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรมดำเนินคดีที่ประเทศไทย ส่วนข้อหาอื่นๆ เช่น การอำพรางศพต้องดำเนินคดีที่ไต้หวัน ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาจะมีการพัวพันเรื่องยาเสพติดหรือไม่นั้น ต้องไปสอบสวนขยายผลต่อไปอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ก็มีอำนาจในการสอบสวน และการสอบสวนทั้งหมดเราก็จะได้กราบเรียนท่านอัยการสูงสุดตามกฎหมาย เพราะคดีนอกราชอาณาจักร ในการสืบสวนสอบสวนต้องมีผู้รับผิดชอบ ดังนั้น ในระยะหนึ่งก็ต้องรายงานไปยังท่านอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา แต่ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งรายงานไป ต้องรอผลการพิจารณาของอัยการสูงสุด

ต่อมา นายตี๋ ญาติของผู้เสียชีวิต ได้เข้ามอบกระเช้าเพื่อขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายตี๋ กล่าวว่า เชื่อว่า กฎหมายบ้านเราศักดิ์สิทธิ์ ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าน้องสาวของตนเกี่ยวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย หรือธุรกิจมืดหรือไม่นั้น ส่วนตัวตนไม่ปักใจเชื่อ เพราะน้องสาวเป็นคนขยัน เป็นคนที่เก็บหอมรอมริบ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ทำมาหากิน ไม่จำเป็นว่าต้องทำแบบนี้ เพราะมองว่ารายได้มีเยอะพอสมควรแล้ว