ผู้ก่อเหตุรุนแรงที่นราธิวาสไม่ยอมมอบตัว ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการจับกุม ถูกวิสามัญฯ เสียชีวิต 1 ราย ผู้ตายมีหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคง 3 หมาย
เวลา 15.00 น. เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ นปพ.ร่วมนราธิวาส ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายคนร้าย เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ให้เบาะแสว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนพักพิงในบ้านเลขที่ 120/3 หมู่ที่ 2 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความอดทนและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก รวมทั้งขอความร่วมมือจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเครือญาติ เข้าร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมเพื่อให้คนร้ายซึ่งหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านออกมามอบตัว
ต่อมาเวลา 17.30 น. คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงออกมาจากภายในบ้านเป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 18.30 น. คนร้ายตัดสินใจยิงเปิดทางวิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ จึงเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น เป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายอับดุลฮากัม เจะมะ อายุ 32 ปี ใกล้กันพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด.45 ของคนร้ายตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำไปพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุ
โดย นายอับดุลฮากัม ผู้ตาย เป็นผู้มีหมายจับ ป.วิอาญา ในคดีความมั่นคงจำนวน 3 หมาย ดังนี้ 1.หมาย ป.วิ อาญา ที่ 150/1560 ลง 23 มี.ค.60 จากเหตุยิงนายปกรณ์ ลิแกการวงศ์ เสียชีวิต พื้นที่ สภ.ยี่ห้อ จ.นราธิวาส เมื่อ 10 ก.พ.60 หมายที่ 2. หมาย ป.วิ อาญา ที่ 300/2561 ลง 14 มิ.ย.61 จากกรณี เหตุยิง จนท.อส.อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อ 30 ธ.ค.59 หมายที่ 3. หมาย ป.วิ อาญา ที่ 360/2561 ลง 11 ก.ค.61 จากกรณีเหตุคนร้ายขว้างระเบิด 3 จุดที่นราธิวาส เมื่อ 19 มิ.ย.60
ทั้งนี้ ภายหลังการปฏิบัติการ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกล่าวย้ำว่า การปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะวิสามัญหรือเอาชีวิตของผู้ก่อเหตุรุนแรง แต่ได้ใช้ความอดทนและดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้คนร้ายยอมออกมามอบตัว หากยอมมอบตัวจะได้รับการคุ้มครองและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมตามหลักกฎหมายต่อไป แต่ในกรณีนี้คนร้ายกลับปฏิเสธและเลือกที่จะใช้ความรุนแรงจนเกิดการสูญเสียดังกล่าว
“กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแสคนร้ายที่เข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ หากพบสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่หรือโทรหมายเลขสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. หมายเลข 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรง มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 หมายเลข 06-1173-2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”.