ทหารอเมริกันนายหนึ่ง “จงใจ” ข้ามฝั่งจากเกาหลีใต้ไปยังเกาหลีเหนือระหว่างทัวร์พาชมชายแดนสองเกาหลี เชื่อถูกเกาหลีเหนือควบคุมตัวไว้แล้ว
ท่ามกลางสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่ยังคงทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ จู่ ๆ ก็เกิดเหตุทหารอเมริกันนายหนึ่งในเกาหลีใต้ ได้ข้ามแดนไปยังเกาหลีเหนือโดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ทหารอเมริกันนายนี้คือ “ทราวิส คิง” เป็นพลทหารที่ถูกจำคุกอยู่ในเกาหลีใต้ข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเวลา 2 เดือน และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันจันทร์ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อส่งตัวกลับไปรับโทษทางวินัยเพิ่มเติมที่รัฐเทกซัส และอาจถูกปลดจากกองทัพ
โดยเมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) คิงถูกพาตัวไปที่สนามบินในเกาหลีใต้ แต่หลังจากนั้นก็หลบหนีออกจากสนามบิน และเข้าร่วมทัวร์เที่ยวชมพื้นที่ความมั่นคงร่วม (JSA) ที่หมู่บ้านปันมุนจอม บริเวณชายแดนเกาหลีใต้-เกาหลีเหนือ
พื้นที่ความมั่นคงร่วมหรือหมู่บ้านปันมุนจอม เป็นพื้นที่ที่ทหารเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยืนประจันหน้ากัน รวมถึงเป็นสถานที่จัดการเจรจาต่าง ๆ อยู่ในความดูแลร่วมกันของกองบัญชาการสหประชาชาติ (UN Command) และเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมด้วย โดยแต่ละวัน จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมพื้นที่นี้ในฝั่งเกาหลีใต้หลายร้อยคน
ทางการสหรัฐฯ และกองบัญชาการสหประชาชาติ เชื่อว่า ขณะนี้ คิงกำลังถูกเกาหลีเหนือควบคุมตัว ซึ่งกองบัญชาการสหประชาชาติกำลังประสานกับทางเกาหลีเหนือ เพื่อคลี่คลายเหตุการณ์นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า คิงเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกควบคุมตัวในเกาหลีเหนือในรอบเกือบ 5 ปี และไม่สามารถยืนยันได้ว่า คิงมีแผนจะแปรพักตร์หรือไม่
จากกรณีที่เกิดขึ้น ทำให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอน ออกมาแถลงข่าว โดย ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมยืนยันว่า สมาชิกกองทัพสหรัฐฯ รายนี้น่าจะถูกควบคุมตัวโดยเกาหลีเหนือจริง
“เรากำลังติดตามและสืบสวนสถานการณ์อย่างใกล้ชิด … และเราจะแจ้งให้คุณทราบ (หากมีข้อมูลเพิ่มเติม)” ลอยด์กล่าว
ด้าน พ.อ.ไอแซก เทย์เลอร์ โฆษกของกองทัพสหรัฐประจำเกาหลีใต้ กล่าวว่า ทหารสหรัฐฯ นายนี้ “จงใจ” ข้ามเขตแดนไป
คนที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทัวร์เดียวกับคิงให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดขึ้นขณะที่พวกเขาเพิ่งไปเยี่ยมชมอาคารแห่งหนึ่ง “แล้วจู่ ๆ ชายคนนี้ (คิง) ก็ส่งเสียงดัง ‘ฮ่า ๆ ๆ’ และวิ่งออกไป”
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งกล่าวว่า “ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นแค่มุกตลกร้าย แต่เมื่อเขาไม่กลับมา ฉันจึงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องตลก จากนั้นทุกคนก็แสดงปฏิกิริยาออกมา และทุกอย่างก็เหมือนกลายเป็นบ้า”
ทั้งนี้ พยานกล่าวว่า ไม่มีทหารเกาหลีเหนือมองเห็นจุดที่ชายคนนั้นวิ่งออกไป
โฆษกทำเนียบขาว Karine Jean-Pierre กล่าวว่าสหรัฐฯกำลังทำงานร่วมกับเกาหลีเหนือเพื่อ “แก้ไขเหตุการณ์นี้
การแปรพักตร์ของชาวอเมริกันหรือชาวเกาหลีใต้ไปยังเกาหลีเหนือเป็นเรื่องที่หาได้ยาก แต่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิด ในช่วงสงครามเย็น มีทหารสหรัฐฯ จำนวนเล็กน้อยที่แปรพักตร์ไปยังเกาหลีเหนือ
หนึ่งในนั้นคือ ชาร์ลส์ เจนกินส์ ซึ่งทิ้งกองทัพไปในปี 1965 แล้วไปปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ และแต่งงานกับนักศึกษาพยาบาลชาวญี่ปุ่นที่ถูกเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือลักพาตัวไป เขาเสียชีวิตในญี่ปุ่นในปี 2017
เหตุการณ์ล่าสุดของ ทราวิส คิง นี้ มีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีกำลังอยู่ในจุดต่ำสุดครั้งหนึ่ง หลังการเจรจาการทูตหยุดชะงัก และผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ก็หันมาพัฒนาอาวุธมากขึ้น รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธี
ขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ ก็ตอบโต้ด้วยการยกระดับความร่วมมือทางทหาร โดยจัดการซ้อมรบร่วมหลายครั้ง ซึ่งมีเครื่องบินสอดแนมล้ำสมัย และอาวุธทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย
โดยเมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) ทั้งสองประเทศได้จัดการประชุมหน่วยงานทวิภาคี Nuclear Consultative Group (NCG) ครั้งแรกที่กรุงโซล เพื่อปรับปรุงการประสานงานด้านนิวเคลียร์ และยกระดับความพร้อมทางทหารต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
สหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อเดือนเมษายนระหว่างที่ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้เดินทางเยือน ว่า จะส่งเรือดำน้ำที่มีศักยภาพในการยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์มายังคาบสมุทรเกาหลี แต่ไม่ได้ระบุว่าเมื่อไหร่
ความเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะทำให้เกาหลีเหนือออกมาตอบโต้รุนแรง เนื่องจากไม่พอใจที่มีอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ เข้ามาอยู่รอบๆ คาบสมุทรเกาหลี
คิม ยอจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า การกระทำเช่นนั้นมีแต่จะทำให้เกาหลีเหนือออกห่างจากการเจรจามากขึ้น
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP