ศบค.แถลงพบคลัสเตอร์แคมป์คนงาน-เรือนจำหลายพื้นที่ ห่วงหญิงตั้งครรภ์ปฏิเสธวัคซีน พบนักเรียนติดเชื้อกันอื้อ ต้องสั่งให้เรียนออนไลน์แทน

ศบค.แถลงพบคลัสเตอร์แคมป์คนงาน-เรือนจำหลายพื้นที่ ห่วงหญิงตั้งครรภ์ปฏิเสธวัคซีน เหตุเพราะกลัวแท้งลูก เผยยุโรปกลับมาระบาดหนักอีกรอบ ส่วนสถานการณ์ต่างจังหวัดยังน่าเป็นห่วง ที่ จ.อุบลราชธานี พบนักเรียนติดเชื้อกันอื้อ ต้องสั่งให้เรียนออนไลน์แทน ขณะที่โคราชครูกับนักเรียนใช้โทรศัพท์มือถือร่วมกัน ติดโควิดทั้งคู่ ส่วนที่เชียงใหม่เนื้อหอม มีทัวร์เกาหลีนั่งเครื่องบินตรงแห่เที่ยวต่อเนื่อง

สถานการณ์โควิดยังมีคลัสเตอร์ใหม่ผุดขึ้นรายวัน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มแรกอย่างเต็มที่ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ ลุ้นเปิดเรียนออนไซต์เต็มรูปแบบวันที่ 1 ธ.ค.นี้

พบคลัสเตอร์แคมป์คนงานหลายแห่ง

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,855 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,619 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,374 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 245 ราย จากเรือนจำ 224 ราย มาจากต่างประเทศ 12 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,655 ราย อยู่ระหว่างรักษา 89,821 ราย อาการหนัก 1,686 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 297 ราย เสียชีวิต 51 ราย เป็นชาย 33 ราย หญิง 18 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช 9 ราย ทั้งนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,050,980 ราย ยอดหายป่วยสะสม 1,940,854 ราย ยอดผู้เสียชีวิตรวม 20,305 ราย สำหรับ 10 จังหวัดที่ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 19 พ.ย. ได้แก่ กทม. 806 ราย สงขลา 642 ราย นครศรีธรรมราช 412 ราย เชียงใหม่ 276 ราย สุราษฎร์ธานี 233 ราย สมุทรปราการ 227 ราย ชลบุรี 223 ราย ปัตตานี 222 ราย ยะลา 169 ราย ราชบุรี 142 ราย และยังพบคลัสเตอร์ใหม่หลายแห่ง อาทิ คลัสเตอร์เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช จ.นครราชสีมา จ.ราชบุรี จ.สงขลา จ.กาญจนบุรี กทม. คลัสเตอร์แคมป์คนงานพบการระบาดที่ จ.ลำปาง จ.กาญจนบุรี เขตบางพลัด กทม. ส่วนภาคอีสานพบการระบาดในการจัดงานประเพณีต่างๆ ทั้งงานศพ งานกฐิน และยังมีการเล่นการพนันกัน

เผยยุโรปกลับมาระบาดหนัก

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์โลกมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 256,325,887 ราย เสียชีวิตสะสม 5,146,682 ราย สำหรับสถานการณ์ประเทศในยุโรปมีการระบาดที่น่าเป็นห่วง เช่น เนเธอร์แลนด์ มีการประกาศปิดเมือง 3 สัปดาห์แม้จะฉีดวัคซีนครบโดสเกิน 70% แล้วก็ตาม เดนมาร์กเคยประกาศให้ประชาชนไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยก็มีอัตราการระบาดที่รุนแรงขึ้น รัฐบาลจึงเสนอทบทวนมาตรการดังกล่าว ขณะที่เยอรมนีติดเชื้อถึง 6 หมื่นกว่าราย และอังกฤษติดเชื้อถึง 4 หมื่นกว่าราย น่ากังวลว่าแม้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว แต่การแพร่ระบาดยังรุนแรง เพราะผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังสามารถเป็นผู้แพร่เชื้อได้

วอนหญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีน

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 18 พ.ย.จำนวน 764,448 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมทั้งสิ้น 87,655,274 โดส แต่ยังเป็นห่วงการฉีดวัคซีนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ที่เป้าหมาย 5 แสนคน แต่มีผู้ฉีดวัคซีนแค่ร้อยละ 14 เท่านั้น เหตุผลที่ไม่ไปฉีดวัคซีนเพราะมารดากังวลว่าจะมีผลข้างเคียงกับเด็กในท้อง สูตินรีแพทย์ย้ำมาตลอดว่า หากอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ สมควรไปฉีดวัคซีน ไม่เป็นอันตราย ขอให้ทุกพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์ เพราะมีการกระจายวัคซีนลงพื้นที่ต่างๆ แล้ว 10 ล้านโดส ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารท้องถิ่นดำเนินการ หากในพื้นที่ห่างไกลที่ประชาชนไม่สามารถเดินทางไปฉีดได้ ขอให้จังหวัดมีกลยุทธ์ในการชักชวน

เปิดสถานบันเทิงเมื่อพร้อม

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า ในที่ประชุม ศปก.ศบค. ยังพูดถึงการเปิดสถานบันเทิง หรือใกล้เคียงกับสถานบันเทิง โดย ศบค.ให้ความสำคัญทุกกิจการ กิจกรรม เข้าใจว่าผู้ประกอบการผิดหวัง แต่เราจำเป็นต้องมองให้รอบด้าน รอบคอบ เห็นสมควรให้เปิดเมื่อพร้อม เรายังกดตัวเลขให้ต่ำลงกว่า 5 พันรายต่อวันไม่ได้ ขณะที่ผู้เสียชีวิตยังอยู่ในระดับ 50 รายต่อวัน อีกเหตุผลคือ สถานประกอบการประเภทนี้ ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนขอรับการพิจารณายกระดับ SHA+ ขณะนี้ใน กทม.มีสถานประกอบการที่ได้รับเครื่องหมาย SHA+ แล้ว 7,994 แห่ง มีทั้งร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานเสริมความงาม บริษัทท่องเที่ยว และร้านขายของที่ระลึก ทั้งนี้การเปิดเมืองไม่ได้อยู่ที่ ศบค. แต่อยู่ที่ความพร้อมของสถานประกอบการตามประกาศของสาธารณสุข

เผยนายกฯสั่งดูแลผับบาร์ทั้งระบบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า จากการหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงศิลปินนักร้อง ที่ขอให้รัฐบาลพิจารณา เลื่อนการเปิดกิจการ กิจกรรมให้เร็วขึ้น จะนำข้อมูลเหล่านี้เข้าที่ประชุม ศปก.ศบค.ต่อไป ขณะที่นายกฯ มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งผู้ประกอบการ นักดนตรี ผู้ขายวัตถุดิบ เราคิดกันมาหลายรอบแล้ว เพียงแต่สถานการณ์ที่ผ่านมาไม่อำนวยให้อนุญาตเปิดกิจการได้ภายในวันที่ 1 ธ.ค. ตามที่นายกฯตั้งใจ แต่กรณีที่ผู้ประกอบการแสดงความจำนงจะให้ความร่วมมือจะนำเรื่องนี้เรียนนายกฯ และนำเข้าสู่ที่ประชุมต่อไป แนวโน้มน่าจะเป็นในทิศทางที่ดี เพราะเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการเสนอมาทั้งการเตรียมความปลอดภัยสถานที่ ความปลอดภัยบุคลากร เตรียมระบบบริการ และเงื่อนไขสำหรับผู้เข้าบริการเป็นสิ่งที่ดีมาก

แย้มอาจได้เปิดเร็วขึ้น

เมื่อถามว่าจะเลื่อนการเปิดสถานประกอบการผับ บาร์ เร็วกว่าวันที่ 16 ม.ค.65 หรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า หากที่ใดพร้อมก็ถือว่ามีโอกาส แต่คงไม่ทันวันที่ 1 ธ.ค.ขอดูข้อมูลก่อน ได้แจ้งให้ กทม.รวมถึงทุกจังหวัดไปตรวจประเมินให้ผู้ประกอบการมาลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ และจัดทีมไปตรวจ ถ้ามีความพร้อมก็ให้ขึ้นบัญชีไว้ การประชุม ศปก.ศบค.สัปดาห์หน้าจะได้เห็นตัวเลขของแต่ละจังหวัด และจะเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาก่อนวันที่ 1 ธ.ค. เมื่อถามย้ำว่ามีโอกาสจะเปิดได้ก่อนปีใหม่หรือไม่ เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ ขอดูตัวเลขและข้อมูลในภาพรวมทั้งหมดก่อน นายกฯพูดบ่อยมากให้ช่วยกันเร่งรัดแก้ปัญหาความเดือดร้อนของทุกภาคส่วน เมื่อถามว่าจะมีการเพิ่มรายชื่อประเทศต้นทางที่เดินทางเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัวอีกหรือไม่ พล.อ.สุพจน์กล่าวว่า มี จะพิจารณากันต่อไป ขอให้ประชาชนยึดมาตรการป้องกันตัวแบบครอบจักรวาล ในส่วนของสถานบันเทิงที่ลักลอบเปิด ได้สั่งไปว่าหากพบการฝ่าฝืนให้ปิด เพื่อไม่ให้กระทบภาพรวม แต่ถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่ตักเตือนให้ปรับปรุงได้ก็จะดำเนินการ

กลุ่มฮาร์ดคอร์ 7—8 ล้านยังไม่ฉีด

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประชากรที่ยังไม่ได้รับวัคซีนประมาณ 11 ล้านคนว่า ตอนนี้เราทยอยฉีดไปจำนวนมาก ที่ยังตกค้างยังไม่ได้รับวัคซีนจริงจึงไม่ถึง 11 ล้านคน แต่อยู่ที่ประมาณ 7-8 ล้านคน เป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ทางการแพทย์ หรือกลุ่มที่ปฏิเสธวัคซีนด้วยสาเหตุต่างๆกันไป เช่น กลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ไม่ระบาด กลุ่มอยู่พื้นที่ห่างไกล โดยคิดว่าไม่ได้มีความเสี่ยงที่ไหน ยังกลัวผลข้างเคียง หรือยังรอวัคซีนอยู่ เราก็ให้พื้นที่ไปรณรงค์ให้เข้ามารับวัคซีนสูตรหลักของไทย ตอนนี้เป็นแอสตราเซเนกาตามด้วยไฟเซอร์ และซิโนแวค ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่นั้นการฉีดเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล แต่เป็นหน้าที่ของเราในการระดมบุคลากรภาคส่วนต่างๆไปชี้แนะข้อเท็จจริง ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ

มีแนวคิดบริจาควัคซีนให้เพื่อนบ้าน

นพ.โอภาสกล่าวถึงข่าวการบริจาควัคซีนโควิด-19 ของไทย ให้กับประเทศเพื่อนบ้านว่าเรื่องนี้เป็นความจริงเป็นการติดต่อโดยกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันโรค สอดคล้องกับแนวความคิดป้องกันตนเองเหมือนกับป้องกันผู้อื่น เพื่อหยุดยั้งการระบาดของโรค เนื่องจากมีพรมแดนเชื่อมต่อกัน โดยการบริจาควัคซีนนี้ เนื่องจากขณะนี้ไทยเริ่มมีวัคซีนเหลือจำนวนมากขึ้น จึงมีแนวคิดบริจาค ส่วนจะเป็นวัคซีนชนิดไหนให้บริจาคนั้นจะเป็นในลักษณะแบบคละกันไป เพราะไทยมีทั้งวัคซีนที่ซื้อเอง และบริจาค ไม่ได้มีการจำกัดว่าต้องเป็นชนิดไหน หรือยี่ห้อใด

ระดมฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า เป้าหมายภายใน 30 พ.ย.ฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส เพื่อให้ประเทศกลับสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และใช้ชีวิตทำมาหากินปกติ ได้มอบนโยบายถึงคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและ กทม.ระดมสรรพกำลัง สำรวจจุดใดยังไม่ฉีดและอำนวยความสะดวกให้ฉีดทั่วถึง ระดมหน่วยงานฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.เคาะประตูบ้าน หน่วยบริการ รพ.จัดฉีดรับวอล์กอิน เปิดรับนัดหมายฉีด ให้ข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องวัคซีนสร้างความมั่นใจ บางส่วนอาจได้ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย หรือการบอกกล่าวสร้างความคลาดเคลื่อนทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ ยืนยันวัคซีนมีความปลอดภัยสูง เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ตั้งแต่ฉีดเข็มแรกที่มีการรวบรวมข้อมูลการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ เกือบทั้งหมดไม่เกิดจากวัคซีน มีเพียง 4 รายที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

หญิงมีครรภ์ติดเชื้อกว่า 5 พันราย

นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ และโฆษกกรมอนามัย กล่าวว่า การติดเชื้อของหญิงตั้งครรภ์ที่เคยติดเชื้อค่อนข้างสูงในเดือน ส.ค.และเสียชีวิตจำนวนมาก เริ่มลดลงจนถึง ต.ค.เสียชีวิตเพียงแค่ 10 ราย ช่วงครึ่งเดือนของ พ.ย.มีสตรีมีครรภ์ติดเชื้อเพียง 300 คน และยังไม่มีรายงานเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดระลอกสามวันที่ 1 เม.ย.-พ.ย. สตรีมีครรภ์ติดเชื้อ 5,516 ราย เสียชีวิต 102 ราย โดยพบถึง 92% ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยทั้งสองเข็ม ส่วนที่ติดเชื้อที่รับวัคซีน 2 เข็มมีเพียง 133 คน ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลยและแม้ติดเชื้อก็มีอาการเล็กน้อย ขณะนี้หลายพื้นที่พยายามรณรงค์การฉีดวัคซีนในสตรีมีครรภ์ เช่นภาคใต้ที่มีการระบาดฉีดเกิน 40% ปัตตานีฉีดทะลุเป้า 70% แต่หลายจังหวัดในภาคเหนือและอีสานยังฉีดน้อยอยู่ ทั้งนี้ สตรีมีครรภ์ปี 2564 มีประมาณ 5 แสนคน ในจำนวนนี้เป้าหมายที่กำหนดฉีดในสตรีมีครรภ์หลัง 3 เดือนเป็นต้นไปมี 281,500 คน โดยพบว่ามีการฉีดเข็มแรกไป 86,602 ราย คิดเป็น 30.8% เท่านั้น เข็มสอง 66,784 ราย เข็มสาม 1,009 ราย ที่เหลือ 70% ต้องเร่งเชิญชวนมาฉีด จากโพลสำรวจสตรีมีครรภ์เกือบ 2 พันคนถึงสาเหตุที่ยังไม่มาฉีด 65% ระบุกังวลวัคซีนจะมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ จากงานวิจัยทั่วโลกที่ฉีดวัคซีนในสตรีมีครรภ์ยังไม่พบผลกระทบใดๆต่อทารก จึงมีความปลอดภัย ขอให้มั่นใจ

แท้งหลังฉีดน้อยกว่าแท้งธรรมชาติ

นพ.เอกชัยกล่าวอีกว่า สตรีมีครรภ์ที่ฉีดวัคซีนไป 9 หมื่นกว่าราย ในจำนวนนี้มีผลของการคลอดในหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน 1,065 ราย พบการแท้งมีเพียง 5 ราย ทารกเสียชีวิตในครรภ์ 5 ราย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.5% จากสตรีมีครรภ์ที่คลอดออกมาแล้ว ผลชันสูตรก็ไม่พบว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน ตัวเลขต่ำมากเทียบกับอุบัติการณ์การแท้งตามธรรมชาติมีถึง 10-15% ดังนั้นต้องเร่งฉีดโดยเฉพาะจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มและพื้นที่ท่องเที่ยวสีฟ้าเพื่อลดความเสี่ยง กรณีบางคนที่ยังไม่อยากฉีดก็จะฉีดบุคคลรอบตัวในครอบครัวให้ครบก่อน รวมถึงจัดบริการฉีดเชิงรุก ฉีดที่สถานบริการฝากครรภ์และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง

อุบลฯ พบคลัสเตอร์โรงเรียนพุ่งสูง

ที่ศูนย์ฯ โควิด จ.อุบลราชธานี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 114 ราย ติดเชื้อมาจากต่างจังหวัด 14 ราย ติดเชื้อในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี 100 ราย โดยพบว่าติดเชื้อ ในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานีมากที่สุดคือ 46 ราย รองลงมา อ.น้ำยืน 21 ราย อ.วารินชำราบ 13 ราย อ.ม่วงสามสิบ 5 ราย อ.ตระการพืชผล และ อ.น้ำขุ่น พื้นที่ละ 4 ราย อ.บุณฑริก 2 ราย พื้นที่ละ 1 ราย ได้แก่ อ.สว่างวีระวงศ์ อ.นาจะหลวย อ.เดชอุดม อ.ดอนมดแดง อ.เขื่องใน มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ซึ่งติดเชื้อภายในพื้นที่และทั้งหมดยังไม่ได้รับ วัคซีน ผู้ที่รักษาหายเพิ่ม 83 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มคลัสเตอร์เดิมโดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียน อาทิ ร.ร.สมบูรณ์เลิศวิทยา ต.สีวิเชียร อ.น้ำยืน วันที่ 19 พ.ย. ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 16 ราย สะสม 124 ราย ร.ร.อนุบาลน้ำยืน ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย สะสม 22 ราย มูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม ติดเพิ่ม 6 ราย สะสม 41 ราย และ ร.ร.อุบลวิทยาคม ติดเพิ่ม 2 ราย สะสม 8 ราย ล่าสุด นายดุริยะ จันทร์ประจำ ผอ.ร.ร.นารีนุกูล ได้ออกหนังสือแจ้งผู้ปกครองโปรแกรมนานาชาติ ให้เรียนออนไลน์ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 19-26 พ.ย. หลังพบครูผู้สอนติดเชื้อโควิดและให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานผู้ที่มีความเสี่ยงสูง สังเกตอาการพร้อมตรวจหาเชื้อได้ทันทีที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

ครู–นร.ใช้มือถือร่วมกันติดโควิด

ส่วนที่ ร.ร.บุญวัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ของ จ.นครราชสีมา มีนักเรียนกว่า 4,200 คน สั่งปิดการเรียนการสอนแบบ ON SITE ทั้งโรงเรียน และให้เปิดการเรียนการสอน แบบ On Line แทนทุกชั้นเรียน เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. แล้วเปิดการเรียนการสอนตาม ปกติอีกครั้งในวันที่ 3 ธ.ค. ทั้งนี้ นายกมล กันตวรพันธ์ รอง ผอ.ร.ร.บุญวัฒนา เปิดเผยว่า มีเด็กนักเรียนหญิง ชั้น ม.3 ติดเชื้อโควิดจากผู้ปกครองที่พักอาศัยอยู่ ชุมชนหัวทะเล อ.เมือง ก่อนมาเรียนที่ชั้นเรียนตามปกติ มีนักเรียนร่วมชั้น 40 คน และอยู่ร่วมวงโยธวาทิต อีกกว่า 30 คน กระทั่งตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 16 พ.ย.นักเรียนรายนี้เข้าชั้นเรียนวิชาภาษาไทย ได้รับโทรศัพท์ จากผู้ปกครองที่โทร.มาสอบถามอาการ เนื่องจากผู้ปกครองตรวจพบติดเชื้อโควิด ระหว่างนั้นนักเรียนได้ยื่นโทรศัพท์ให้ครูวิชาภาษาไทยพูดคุยกับผู้ปกครอง หลังจากนั้นตรวจหาเชื้อมีผลยืนยันติดเชื้อจากผู้ปกครอง และอีก 2 วันต่อมาครูที่รับโทรศัพท์ก็มีผลตรวจยืนยันติดเชื้อด้วย หลังเกิดเหตุการณ์จึงสั่งปิดโรงเรียน 14 วัน เพื่อทำความสะอาด พร้อมให้ครูและนักเรียนกลุ่มเสี่ยงสูงอีกกว่า 100 คน ตรวจหาเชื้อและกักตัว ป้องกันการแพร่ระบาด

เมืองน้ำดำนักเรียนติดเชื้อ 3 ราย

ขณะที่ จ.กาฬสินธุ์ มีรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ พบนักเรียนโรงเรียน 2 แห่งติดเชื้อโควิด จำนวน 3 ราย รายแรก เป็นนักเรียนชาย ชั้น ม.3 อายุ 14 ปี รายที่ 2 เป็นนักเรียนชายชั้น ป.2 อายุ 7 ปี รายที่ 3 เป็นนักเรียนหญิงชั้น ป.6 อายุ 12 ปี ล่าสุด ทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ได้ลงพื้นที่เข้าสอบสวนโรคในโรงเรียนทั้ง 2 แห่งแล้ว และเร่งดำเนินการสอบสวนโรคในพื้นที่ภูมิลำเนา เพื่อที่จะ ติดตามกลุ่มเสี่ยงต่อไป

สาวเมืองเลยร้องสามีตาย

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางละอองดาว โสมาศรี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 11 ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย ว่า นายศรีสุวรรณ โสมาศรี อายุ 44 ปี สามีไปฉีดวัคซีนเข็มแรกมา เกิดอาการร่างกายไม่มีแรง ช็อกเกร็ง น้ำลายฟูมปากจนเสียชีวิต วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวหลังเสียเสาหลักไป โดยนางละอองดาว เปิดเผยว่า วันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา สามีไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มแรกซิโนแวค ที่ ร.ร.บ้านขอนแดง ต.นาอาน อ.เมืองเลย หลังฉีดกลับมาบ้าน 2-3 วัน มีอาการเหนื่อย ปวดหัว แขนไม่มีแรง ได้ทานยาแล้วทุเลาขึ้น แต่ยังกลับมาเป็นอีกเหมือนเดิม ทั้งที่สามีเป็นคนแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัว กระทั่งวันที่ 17 พ.ย.ช่วงเช้า สามีลุกจากที่นอนไม่ไหว บอกว่าจะอ้วก ก่อนเกิดอาการวูบ เกร็ง อาเจียน น้ำลายฟูมปาก จึงรีบแจ้ง รพ.เลยมารับตัวไปรักษา อยู่โรงพยาบาล 1 คืน ในสภาพต้องให้ออกซิเจน ร่างกายไม่ตอบสนอง ต่อมาวันที่ 18 พ.ย.หมอบอกให้กลับบ้านได้ จึงนำตัวกลับบ้านจนเที่ยงของวันดังกล่าวสามีเสียชีวิต คาดว่าการเสียชีวิตอาจมาจากการฉีดวัคซีนเข็มแรก

เศร้าหญิง 60 ดับหลังฉีดวัคซีน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 พ.ย. ร.ต.อ.ชำนาญ พรหมเรือง รอง สว. (สอบสวน) สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 92/2 หมู่ 2 ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นคร ศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บุญเชิญ ลิ่มประ
จวบพงษ์ ผกก. แพทย์เวร รพ.นบพิตำและ จนท.มูลนิธิประชาร่วมใจ ไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันสอบสวนและชันสูตรพลิกศพ เมื่อไปถึงพบศพผู้ตายนอนตายบนเก้าอี้ไม้โซฟา ชื่อนางจุรีย์ มานพ อายุ 60 ปี สภาพศพไม่พบบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด มีเพียงเลือดไหลออกทางปากและหยดบนพื้นบ้าน จากการสอบปากคำญาติผู้ตายทราบว่าเมื่อวันที่ 18 พ.ย.นางจุรีย์ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมือง หลังกลับบ้าน ไม่พบอาการผิดปกติ ตื่นมาช่วงเช้ากวาดขยะตามปกติ แล้วนอนเล่นอยู่บนโซฟา ก่อนพบศพสามีได้เข้าไปเรียกกินข้าวปรากฏว่าพบนางจุรีย์นอนตายปริศนาแล้ว จึงแจ้งตำรวจและแพทย์เวรมาชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเลือดออกในกระเพาะอาหาร เสียเลือดมากทำให้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จะส่งศพนางจุรีย์ไปที่แผนกนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์ศพ หาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

ทัวร์เกาหลีแห่เที่ยวเชียงใหม่

น.ท.มัธยัณห์ ไกรสรทองศรี รอง ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้สายการบินเจจูแอร์นำนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้จำนวน 113 คน ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ นับเป็นเที่ยวบินที่สามที่บินตรงจากท่าอากาศยานอินชอนเข้าสู่ จ.เชียงใหม่ จนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้าสู่ จ.เชียงใหม่ แล้ว 323 คน ในจำนวนนี้เดินทางกลับแล้ว 148 คน บางส่วนชื่นชอบขออยู่ต่ออีก 1-2 สัปดาห์ เพื่อท่องเที่ยวสถานที่อื่นๆในภาคเหนือ สำหรับสายการบินเจจูแอร์มีเที่ยวบินเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ทุกวันศุกร์ มีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมา 120-130 คน ในแต่ละเที่ยวบิน หลังจากนี้แนวโน้มการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชียงใหม่มากขึ้น ล่าสุดมีหลายสายการบินเตรียมพานักท่องเที่ยวบินตรงจากทั้งเกาหลีใต้, สิงคโปร์ และมาเลเซีย เข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มเติม ท่าอากาศยานเชียงใหม่มีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด