ศาลจังหวัดกระบี่พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต “บังฟิต” พร้อมญาติพี่น้อง แก๊งอำมหิตอุ้มฆ่าฝังดิน “เสี่ยสุชาติ” ให้ชดใช้ 5 ล้าน ญาติคาใจ ทนายเตรียมยื่นอุทธรณ์เพิ่มโทษ
จากคดีสังหารสุดโหด 3 พี่น้องตระกูล “เริงสมุทร” นำโดย นายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร อายุ 32 ปี นายสุรชัย หรือ กิบหลี เริงสมุทร อายุ 38 ปี นายสุริยันต์ หรือ กอหนี เริงสมุทร อายุ 30 ปี พร้อมกับพวกอีก 5 คน รวมทั้งหมด 8 คน ร่วมกันก่อคดีสังหารโหดฆ่าราดน้ำกรดฝังดิน นายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 53 ปี และยังนำรถเก๋งของผู้ตายไปจุดไฟเผา และขุดหลุมฝัง ห่างจากจุดพบศพประมาณ 2 กม. ในพื้นที่บ้านหนองแบก หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ซึ่งตำรวจไปพบศพเมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 หลังจากญาติและลูกสาวผู้ตาย แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ลำทับ จ.กระบี่ โดยชนวนเหตุมาจากความขัดแย้งเรื่องหนี้สินที่บังฟิตเป็นหนี้ผู้ตาย แล้วถูกบุกไปทวงหนี้ถึงบ้าน ต่อมาตำรวจ สภ.อ่าวนาง ท้องที่เกิดเหตุ ตามจับผู้ก่อเหตุได้ยกแก๊ง ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาล จ.กระบี่ นัดสืบพยานวันแรก ปรากฏว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ถอนคำให้การเดิม โดยเปลี่ยนเป็นให้การรับสารภาพในชั้นศาล เนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน ทำให้ศาลนัดวันตัดสินคดีนี้ใหม่อีกครั้ง
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2565 ที่ห้องพิจารณาคดีที่ศาล จ.กระบี่ ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ โดยจำเลยในคดีนี้มีทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วยจำเลยที่ 1. นายสุริยา บังฟิต เริงสมุทร 2. นายสุรชัย กิบหลี เริงสมุทร 3. นายสุริยันต์ กอหนี เริงสมุทร 4. นายอาลิพ บังลิพ ช่างเรือ 5. นายวิรสิงค์ บังมีน ศรีหมาด 6. นายวิรัตน์ บังตั้ม ศรีหมาด 7. นายอัษฎาวุธ บังแฉ้ง สีหมุ่น 8. นายโชคดี บังบัส จันทร์อ่อน ตามลำดับ มีญาติฝ่ายผู้ตายนำโดย นางน้ำค้าง สิงห์พิลา ภรรยาของนายสุชาติ มาพร้อมกับญาติ และนายชัยรัตน์ ตระกูลคงภักดี ทนายผู้รับมอบอำนาจจาก นายชูวงศ์ มณีกุล ทนายความที่ญาติแต่งเป็นทนายร่วมกับพนักงานอัยการ มาร่วมฟังคำพิพากษา แต่ลูกสาวผู้ตายไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย โดยศาลอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้กับผู้ต้องหาในคดีรับฟัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษเขาบิน จ.ราชบุรี
ภายหลังฟังคำตัดสิน นายชัยรัตน์ เผยว่า เบื้องต้นศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก จำเลยที่ 1-4 ตลอดชีวิต จำเลยที่ 5 จำคุก 6 ปี จำเลยที่ 6 จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 7-8 จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน และให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นเงินรวม 5,035,000 บาท และซึ่งเหตุที่ศาลชั้นต้นลงโทษตามนี้ น่าจะเป็นเพราะกลุ่มผู้ต้องหาเปลี่ยนคำให้การ มารับสารภาพในชั้นศาล หลังจากนี้ทางทีมทนายของฝ่ายผู้เสียหาย เตรียมจะทำเรื่องอุทธรณ์ภายใน 30 วัน เพื่อขอให้มีการเพิ่มโทษกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วตามความรู้สึกมองว่าโทษเบาไป เพราะร่วมกันกระทำผิดทั้งหมด ควรจะมีโทษถึงประหารชีวิต
ผู้สื่อข่าวพยายามจะสัมภาษณ์ นางน้ำค้าง ภรรยาผู้ตาย แต่เจ้าตัวปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ ก่อนจะเดินทางออกจากศาลไป โดยฝ่ายญาติให้ข้อมูลว่า คำตัดสินที่ออกมายอมรับว่าญาติๆ ไม่ค่อยพอใจ ในฐานะผู้เสียหาย คิดว่าควรจะถึงขั้นประหารชีวิต หลังจากนี้จะไปหารือกับญาติ และทีมทนาย น่าจะยื่นอุทธรณ์ให้เพิ่มโทษต่อ ในส่วนค่าเสียหายที่ยื่นเรียกร้องไป 5 ล้านบาทเศษ ศาลก็ตัดสินให้ได้รับค่าเสียหายตามที่เรียกร้องไป.