ศึกทนาย ‘เดชา-ษิทรา’ ซัดกันอีกรอบ ในรายการ”โหนกระแส”กรรชัย ต้องห้ามศึก

รายการโหนกระแสวันที่ 27 ส.ค. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ยังเกาะติดเหตุการณ์แถลงข่าว หลังการจับกุมตัว “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” หรือ “อดีตผู้กำกับโจ้” หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวกก่อเหตุใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาจนเสียชีวิต โดยสัมภาษณ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มาพร้อม ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เพื่อวิเคราะห์คำให้การที่ระบุว่าเป็นการพลั้งมือ และขอยอมรับผิดว่าทำคนเดียว

พี่แต้มได้ดูการแถลงข่าว รู้สึกยังไง?
รองแต้ม : เราต้องให้ความเป็นธรรม ดูได้สองมุม มุมผบ.ตร. คิดว่าเขาเจตนาดีที่จะบอกสังคมว่าเขาไม่ได้เลี้ยงคนชั่ว ดำเนินการสอสวน ตั้งกรรมการวินัยและไล่ออก ที่สำคัญเร่งรัด กดดัน จับกุมได้โดยเร็ว ตั้งแต่มีการเปิดคลิปมาวันสองวันถือว่าจับได้โดยเร็ว นี่เป็นเจตนาดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อลบคำครหาที่ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย อีกมุมนึง เราฟังประชาชนเขามองว่าการแถลงข่าวแล้วให้ผู้ต้องหามาพูด ช่วยกันหรือเปล่า มีเลศนัยหรือเปล่า แต่ในทางกลับกัน การให้ผู้ต้องหาพูดผมมองว่ากลายเป็นมัดตัวผู้ต้องหามากขึ้น แต่ดูเหมือนภาคเสธ เหมือนรับแต่ปฏิเสธเสธในตัว แต่ภาคเสธของคุณไม่มีน้ำหนัก เพราะพยานหลักฐานชัดเจน

จะมีการช่วยกันมั้ย?
รองแต้ม : ไม่มีทางหรอก ดูเหมือนช่วยแต่จริงๆ ไม่ช่วยหรอก เพราะถ้าใครช่วยตอนนี้เสียคน องค์กรพัง

สิ่งที่ผกก.โจ้แถลงเมื่อคืน พี่ไม่เชื่อ?
รองแต้ม : เชื่อบางอย่างที่ปรากฏในเทป อย่างที่บอกว่าโจ้เรียกเงิน 2 ล้าน เราไม่ได้ยินเสียง อาจมีการเรียกจริงก่อนหน้านั้นแต่เราไม่รู้ แต่ภาพที่ปรากฏที่เขาสอบ เขาให้บอกที่ซ่อนมา แต่ปรากฏว่าไม่บอก โจ้เลยทำรุนแรงอย่างที่เห็น แต่เห็นมั้ยว่าทำไมผู้ต้องหาคนนี้ถึงไม่บอก ขนาดลงโทษหนักขนาดนั้นแล้ว ที่ไม่บอกเพราะอะไร หนึ่งกลัวอิทธิพลใครหรือเปล่า พ่อค้ายาใหญ่หรือเปล่า หรือคนเกี่ยวข้องมีบุญคุณ เกี่ยวข้องกับที่บ้านคนตายหรือเปล่า เขาเลยไม่ยอมบอกไง ต้องคิดหลายๆ ชั้น

ไปถอดคำให้การจากแถลงของผกก.โจ้ เขาบอกเขาไม่มีการรีดเงิน ทำเพื่อเอาข้อมูลยาเสพติด และทำเพื่อพี่น้องชาวนครสวรรค์ พี่แต้มมองไง?
รองแต้ม : ผู้ต้องหาจะให้การยังไงก็ได้ เป็นสิทธิ์ของเขา แต่คำให้การศาล พนักงานสอบสวนจะเชื่อหรือไม่ เชื่อหรือไม่เชื่อดูจากพยานหลักฐาน ที่บอกว่าเอาถุงคลุมหน้าไม่อยากให้คนตายเห็นหน้า ตอนเปิดประตูก็คลุมหัวอยู่แล้วนี่ จะเห็นหน้าได้ยังไง สองทำไมใช้ถุงหกชั้น แสดงว่าคุณต้องการทำให้ตาย

เขาว่าฝั่งโน้นฉีก?
รองแต้ม : คุณจะมาอ้างได้ยังไง คุณต้องไม่ทำ ยิ่งมัดคุณใหญ่ แล้วตอนทำคุณยังทุบตีอีก เผลอๆ มีคำพูดอีก เอาให้ตาย การพูดแก้ตัวแบบนี้ เจตนาคุณอาจเป็นจริงก็ได้ แต่พฤติกรรมคุณมันไม่ได้ มันขัดกับหลักฐาน คนดูและฟังเขาไม่เชื่อ

พี่เดชารู้สึกยังไง?
เดชา : คำพูดผู้ต้องหา อะไรก็แล้วแต่ที่พูดขัดกับภาพ เสียง ฟุตเทจในกล้องวงจรปิดมันจะไม่มีน้ำหนักทันที แนวคำตัดสินศาลฎีกา ยกตัวอย่างคดีลุงวิศวะ คดีนั้นทนายผู้เสียหายเป็นเพื่อนผม ศาลดูตามคลิปเลย ถ้าขัดปุ๊บก็ไม่ใช่เลย อย่างที่พี่แต้มพูด คุณบอกไม่มีเจตนาทำร้าย แต่ในคลิปบอกเอาให้ตาย มันก็ขัดกับสิ่งที่เขาพูด

รองแต้ม : ก็โดน เพราะปรากฏว่าเขาตายจริง

เดชา : เวลาเขาสืบพยานคดีพวกนี้ เขาดูตามคลิปเลย

ในคลิปบางตอนมีคำพูดนี้จริงๆ จะเอาให้ตาย ถ้าพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้พูด?
รองแต้ม : หลักฐานบ่งบอก เสียงที่บอกเอาให้ตายบอกว่าไม่ใช่เสียงผม แต่ก่อนหน้านั้นเสียงผม แล้วใครจะไปเชื่อ

เดชา : แบบนี้เรียกว่าสมเจตนา ประสงค์ต่อผลต้องการให้เขาตาย เพราะแนวคำตัดสินศาลฎีกาปี 60 ถ้าเอาถุงไปคลุมหัวเจตนาทรมาน ไม่ได้เจตนาฆ่า แต่รัดนานๆ ย่อมเล็งเห็นว่าตาย ฉะนั้นฆ่าคนตายโดยเล็งเห็นผล มีความผิดตามมาตรา 288 สูงสุดคือประหารชีวิต

กรณีเอาถุง 6 ถุงคลุมหัวผู้ต้องหาบอกไม่เจตนา แล้วจะเอามาอ้างได้เหรอ?
รองแต้ม : ไม่ได้ อย่างพี่เดชาพูด สิ่งที่คุณทำย่อมเล็งเห็นผลว่าจะเกิดอะไร คุณก็รู้อยู่แล้วว่าต้องตาย คุณเล็งเห็นผลว่าทำไปถึงแก่ความตาย จะเอาข้ออ้างเล็กๆ น้อยๆ เช่น ผมต้องปฏิบัติหน้าที่ ไม่ตั้งใจ มันไม่ได้ มันฟังไม่ได้ เพราะพฤติกรรมที่คุณพูดจะเอาให้ตาย คุณตี เอาถุงที่ใช้มามัดแล้วบิด จะบอกว่าไม่ตั้งใจยังไง มันตั้งใจเลย มันเจาะจง

ที่เขาบอกว่าทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อคนไทย เอามาบรรเทาได้มั้ย?
รองแต้ม : ไม่ได้หรอกครับ คำพูดทำความดีอะไรต่างๆ การทำเพื่อประเทศชาติไม่ต้องลงมือขนาดนี้ ไม่ต้องทำผิดกฎหมาย คุณบอกทำเพื่อประเทศชาติ แต่ทำคนอื่นเขาตายไม่ได้ มันผิดกฎหมาย มันอ้างไม่ได้

แต่เขาบอกเพื่อทำลายยาเสพติด?
รองแต้ม : อันนั้นอาจเป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของเขา แต่คุณเอามาอ้างกับศาล พนักงานสอบสวน เพื่อให้หลุดหรือพ้นโทษไม่ได้อยู่แล้ว มันขัด

นักข่าวถามว่าเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า เขาบอกไม่เคยทำมาก่อน มองยังไง?
รองแต้ม : เขาอาจจะพูดได้ แต่ต้องไปดูคลิปก่อนเขาทำ ที่บอกว่ามึงดูกู เดี๋ยวทำให้มึงดู ถ้าเป็นวิญญูชนแสดงว่าเขาเคยทำมั้ย สองถ้าไม่เคยทำ จะไม่มีความชำนาญ อันนี้ชำนาญมั้ย สิ่งที่เขาพูดว่าเขาทำครั้งเดียว แต่พฤติกรรมหรือคลิป หรือเหตุผลอื่น มันไม่น่าเชื่อถือ ถ้าเป็นศาลหรือพนักงานสอบสวน เขาก็มองว่าคุณไม่ได้ทำครั้งนี้ครั้งแรก อย่างไปดูคลิป พวกมึงดูกู กูจะทำให้พวกมึงดู แสดงว่าเคยทำมาใช่มั้ย ต้องดูตรงนี้ด้วย

ในฐานะมือปราบหูดำ พี่ก็ยืนยันว่าที่เขาพูดมามันไม่ใช่?
รองแต้ม : บางเรื่องอยากจะเชื่อ เช่นเขาอยากหาของ เพราะในคลิปเขาถามว่าของอยู่ไหน ถ้าเขามีความมุ่งมั่นตั้งใจเราก็อย่าไปโทษเขา แต่สิ่งที่เขาทำแล้วมาแก้ตัว หักหรือไม่ตรงกับหลักฐาน ทำให้ผมไม่เชื่อ พอไม่เชื่อก็สื่อให้เห็นว่าคุณตั้งใจจะทำ หวังผลอะไรหรือเปล่านี่คือสิ่งที่ตามมา

เขาบอกว่าลูกน้องไม่เกี่ยว เขาทำคนเดียว?
เดชา : เป็นคำให้การผู้ต้องหาคนนึงเท่านั้น การพิสูจน์ความผิดผู้ต้องหาต้องอาศัยพยานหลักฐาน สำนวนพนักงานสอบสวน คำพูดของเขาพูดให้ดูหล่อยังไง มันไม่ได้มีผลต่อผู้ต้องหา มันก็โดนร่วมกันฆ่าผู้อื่น

เขารับคนเดียว เขาบอกคนอื่นทำตามเขาสั่ง?
เดชา : ทุกคดี ถ้ามีการร่วมกันทำผิด 5 คน เกิดคนรับคนเดียว คนอื่นก็รอดสิ มันไม่ได้ ต้องดูว่าพยานหลักฐาน ในคลิปกล้องวงจรปิดมันชัดเจน ว่าแบ่งหน้าที่กันทำ คนนึงจับขา คนนึงสาดน้ำ เรียกว่าแบ่งหน้าที่กันทำ มีเจตนาร่วม สมคิด กันมมาก่อน

มาคุยกับอีกหนึ่งคน เขาบอกว่าเคยถูกกรณีแบบนี้เหมือนกัน กับน้องชาย ทางผกก.โจ้กับพวก ไปรีดทรัพย์เขาเหมือนกัน “น้องนิว” พี่สาวคนที่ถูกผกก.โจ้ทำร้ายร่างกาย รีดทรัพย์ เรื่องจริงมั้ย?
นิว : เรื่องจริงค่ะ ตั้งแต่ปี 60 เดือนก.ค. คือน้องชายตอนแรกอยู่บ้าน แล้วเพื่อนเขามาจ้างให้ออกไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนึง แล้วทีนี้น้องชายตอนแรกยังไม่ไป แต่เพื่อนเขาโทรมาตามอีกรอบ เขาก็เลยไปก็ได้ พอออกไปเสร็จเขาบอกให้ค่าน้ำมัน 200 เขาจะไปเอาเงินให้พาไปหน่อย พอไปถึงห้างเขาให้นั่งรอ เอาเงินเสร็จแล้วจะกลับ ก็ให้ไปส่งแล้วรับกลับด้วย คนที่มาจ้างก็ไปดูเงินของเขา สักพักตร. ก็เข้าจับกุมตัว

มีการรีดเงินมั้ย?
นิว : มีการรีดเงินหลังจากนั้น ตอนน้องโดนจับไปแล้ว มีการโทรมาหาหนู น้องเป็นคนโทรมา ประมาณว่าพอจะหาเงินได้มั้ย 2 ล้านค่ะ

เพื่อแลกอิสรภาพเหรอ?
นิว : ไม่ใช่ค่ะ เพื่อแลกกับตัดยาออก โทษจะเบาลง

ทำสำนวนให้อ่อนลงเหรอ?
นิว : ใช่ค่ะ

ผกก.โจ้ร่วมอยู่ด้วย?
นิว : ตอนที่จับไม่แน่ใจ แต่ตอนในภาพมีอยู่ด้วย

เขาซ้อมเลย?
นิว : โดนตั้งแต่จับกุมแล้วค่ะ

ตอนนั้นจ่ายมั้ย?
นิว : ไม่มีค่ะ หนูปรึกษาทนาย ทนายแนะนำว่าถ้าจ่ายก็เหมือนติดสินบน น้องเราก็คงไม่รอด ตร.คงมีหลักฐานแล้ว

แจ้งความมั้ยว่าโดนตบทรัพย์?
นิว : แจ้งตร.ไม่ได้ค่ะ เพราะตร.ไม่รับแจ้งความ เพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรเลย ไม่ได้อัดเสียงอะไรไว้เลย

ณ วันนี้พอเหตุการณ์เกิดขึ้น ทำไมออกมาพูด?
นิว : หนูคิดว่าน้องชายหนูไม่น่าโดนร้ายแรง ไม่น่าจะเป็นรายเดียวด้วย นึกถึงวันนั้นก็ยังโกรธอยู่ เห็นสภาพน้องที่โดนซ้อม ตัวช้ำ หัวช้ำ ตอนนี้น้องหนูอยู่เรือนจำ โดนโทษร่วมกันจำหน่าย โทษตอนแรกประหาร รับสารภาพเหลือ 25 ปีค่ะ

สิ่งที่น้องกำลังยืนยันคือทางผกก.โจ้บอกว่าไม่เคยทำ เรื่องรีดเงิน น้องจะบอกว่าเขาเคยทำมาก่อน?
นิว : เขาไม่ได้โทรมาเอง เป็นน้องชายหนูโทรมา ตอนจับไปแล้ว หนูก็พูดไม่ได้ว่าเป็นเขาหรือเปล่าเป็นคนเรียกค่ะ

ก็ยังไม่ชัดเจน แต่การจับกุมทำร้ายร่างกายผู้ต้องหามีอยู่จริง?
นิว : มีค่ะ หนูจะถ่ายรูป แต่ตร.กันบริเวณ ยึดโทรศัพท์ไม่ให้เอาไปถ่าย ห้ามเอาโทรศัพท์เข้าไปเลย

พี่แต้มมองไง?
รองแต้ม : นี่ไงที่บอกว่าไม่เคยทำ แต่นี่เริ่มผุดขึ้นมาแล้ว จะตอกย้ำสิ่งที่คุณพูดไม่เป็นความจริง เดี๋ยวจะมีคนมาร้องเยอะขึ้น ก็จะทำให้ศาลหรือสังคมหรือพนักงานสอบสวนเชื่อได้ว่าคุณไม่ได้ทำครั้งเดียว

ทำให้พี่แต้มไม่เชื่อว่าเคยทำครั้งแรก?
รองแต้ม : พูดอีกอันที่ลูกน้องบอกว่านายสั่ง ตร.ลูกน้องจะอ้างไม่ได้เลย เพราะคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คุณเป็นเจ้าหน้าที่ตร. ไม่ปฏิบัติได้เลย ไม่ได้ผิดอะไรเลย คนสั่งสิที่ผิด ถ้าคุณไปร้องเรียน เขาสั่งโดยไม่ชอบ คนสั่งน่ะผิด คุณจะมาอ้างเพื่อเป็นเหตุบรรเทาไม่ได้เลย เพราะคุณเป็นเจ้าหน้าที่ตร. รู้กฎหมาย มีตราของแผ่นดิน แล้วภาพมันชัดเจนแบ่งหน้าที่กันทำ อีกคนเดินไปหยิบถุงดำ อีกคนกดขา แบบนี้ถือว่าร่วมกันกระทำความผิด จะมาอ้างให้ตัวหลุดยังไง ถึงผกก.บอกว่าลูกน้องไม่เกี่ยวมันก็ไม่น่าเชื่อถือ

ตกลงเรื่องพี่ยังไงต่อ?
เดชา : เรื่องอะไร เรื่องผมเยอะ

เรื่องที่บอกว่าพี่ไปตบทรัพย์?
เดชา : ทนายษิทราใช่มั้ย ที่ไปโพสต์ว่ามีนายตร.ชั้นประทวนเอาคลิปมาให้ผม แล้วผมอมคลิปไว้ไม่เอาคลิปไปปล่อย แต่กลับมาเอาไปต่อรองผลประโยชน์ แปลภาษาชาวบ้านคือตบทรัพย์

มั่นใจได้ไงว่าทนายษิทราเขาบอกว่าเป็นพี่?
เดชา : โอ้ย ร้อยเปอร์เซ็นต์

ต่อสายหา “ทนายตั้ม ษิทรา” ทรายมั้ยเมื่อเช้านี้ทนายเดชาไปแจ้งความคุณเรียบร้อย?
ทนายตั้ม : มีคนบอกว่ามีการแจ้งความ แต่ยังไม่เห็นคลิปว่าเขาพูดว่ายังไงบ้าง

ยังไงพี่?
เดชา : ผมก็ไปแจ้งความเขามาโพสต์ข้อความ ตั้งแต่ 24-25 เม.ย. ว่ามีตร.ชั้นผู้น้อยมาร้องเรียนทนายคลายทุกข์ ได้คคลิปมาแล้วเก็บไว้ ไม่ยอมไปเปิดสาธารณะ ไปต่อรองกับผกก.โจ้ แล้วปิดคำว่าทนายคลายทุกข์ไว้ พูดง่ายๆ ไม่ยอมเอาคลิปมาปล่อยเหมือนษิทราทำ ถ้าผู้ต้องหาหลุดคดีไปไม่มีชีวิตอยู่แน่ เราดูหล่อเลย คนที่โพสต์ดูหล่อ ไม่มีชื่อผม เหมือนผมร้อนตัวไปเอง ทำแบบนี้เหมือนไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร แต่ปรากฏว่านายษิทราเอาคลิปที่มีข้อความครบถ้วนเอาขึ้นจอ ผมทำงานเรียบร้อย ตรงแดงๆ เอาออก ข้อความเต็มเลยทนายคลายทุกข์ ส่งไปทางกลุ่มทนาย ผู้สื่อข่าว ทั้งบ้านทั้งเมือง ให้คลิปไปแล้ว เขาบอกเป็นเอกสารลับ

เขาไม่ได้เอ่ยชื่อทนายเดชา ทนายคลายทุกข์ชื่อพี่เหรอ?
เดชา : ใช่ เดชา ทนายคลายทุกข์ เป็นสัญลักษณ์ของผม เป็นชื่อเครื่องหมายการค้า เป็นตัวตนผมเลย

ฝั่งอดีตผกก.โจ้ บอกว่าไม่เคยมีเรื่องนี้?
เดชา : เมื่อวานตอนเขาให้สัมภาษณ์ ผมก็นั่งดูและไลฟ์สดเลย มีผู้สื่อข่าวถามว่าทนายเรียกเงินตบทรัพย์หรือเปล่า เขาบอกว่าไม่มี ผกก.โจ้เขาพูดชัดเจน

ทนายตั้มว่าไง?
ทนายตั้ม : ทนายเดชาเขาก็เป็นทนายความ เขารู้กฎหมายดี แล้วถ้าเขาไปฟ้องผมตรงที่ศาลก็จะเร็วกว่า ถ้าเขามั่นใจมีหลักฐานว่าสิ่งที่ผมพูดไม่เป็นความจริง แต่ทนายเดชาต้องการแค่เรื่องนี้ให้เป็นกระแส เลยไปแจ้งความแค่นั้นเอง เพราะกว่าคดีถึงศาล กว่าผมจะได้พิสูจน์ ใช้เวลานานหลายเดือน ถ้าทนายเดชามั่นใจว่าสิ่งที่ผมพูดตบทรัพย์ไม่มีหลักฐานจริงไปฟ้องที่ศาลเลย จะได้ไว ทำไมไม่ไปฟ้องเลย ผมจะได้พิสูจน์ที่ศาล

แค่อยากอยู่ในกระแส?
ทนายตั้ม : ใช่

ทำไมไม่ไปฟ้องตรงเลย ทำไมต้องไปแจ้งความ?
เดชา : ที่บอกว่าแจ้งความแล้วมันช้า ผมได้ถามพนักงานสอบสวนแล้ว วันสองวันก็ออกหมายเรียก อีกสักแป๊บนึงทนายทิษราก็ต้องไปให้การพนักงานสอบสวน เร็วครับ แต่ถ้าฟ้องศาลหลายเดือน ยิ่งช่วงนี้โควิด ฟ้องเดือนนี้ก็น่าจะพ.ย. – ธ.ค.

ทนายตั้ม : (หัวเราะ) ให้ทนายที่ฟังอยู่ คนรู้กฎหมายฟังอยู่ทั่วประเทศ จะได้รู้ว่าเป็นแบบนี้นี่เอง ที่เขาบอกผมไปโพสต์ชื่อเขา เอาหลักฐานออกมาหน่อย เพราะผมไม่เคยบอกชื่อใคร ผมโพสต์ ผมก็ปิดชื่อไว้ ที่บอกว่ามั่นใจว่าผมไปปล่อยในกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ เอาหลักฐานมาให้ดู ว่าชื่อนายษิทราไปเปิดเผยยังไง ผมไปส่งยังไง

เดชา : สิ่งที่นายษิทราพูดเป็นคำถามที่ดีมากเลย ว่านายษิทราเอาไปปล่อยที่ไหน นายพิษทาพลาดท่าเสียที ไปให้สัมภาษณ์อินไซต์ไทยแลนด์ ช่อง 9 ยอมรับว่าได้เอาคลิปตัวเต็มนี้ส่งให้กลุ่มทนายพรรคพวกกันแล้วหลุดไปโดยไม่รู้ว่าหลุดไปได้ยังไง จบเลย เพราะนายษิทรายอมรับแล้วในรายการ เดี๋ยวจะให้ตร.เรียกตัวพิธีกรมาเป็นพยาน

ทนายตั้ม : ยอมรับกลางรายการว่าส่งให้กลุ่มทนายจริง แต่ผมไม่ได้เป็นคนเผยแพร่นี่ครับ ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา คนที่จะมีความผิดฐานนี้ต้องเป็นคนเผยแพร่ ทำให้เสียหาย แล้วใครเผยแพร่ล่ะครับ คนมีความรู้เรื่องกฎหมาย เรียกตัวเองว่าอาจารย์ ควรให้ความรู้ที่ถูกต้องต่อประชาชนนะครับ เรื่องนี้อยากให้ไว มั่นใจ ฟ้องตรงต่อศาล

กรณีนี้ถึงคุกมั้ย?
เดชา : ถ้ามีความผิดก็ต้องติดคุกแต่คดีหมิ่นประมาท คงไม่ติดคุกหรอก

คุยกันได้มั้ยสองคนนี้?
เดชา : ก็แล้วแต่เขา

ทนายตั้ม : ทนายเดชาออกมาเปิดแต่ต้นเรื่องนี้ ตอนแรกบอกว่าได้ข้อมูลมาสองสามวันแล้ว จากพล.ต.ต. ,รองผู้บัญชาการ, นายดาบ, ผกก.สืบ พวกนี้เขามีคลิปอยู่แล้วเหรอถึงมาเปิดให้ทนายเดชาตั้งแต่ต้น