สงครามในยูเครน เข้าสู่วันที่ 8 กองกำลังรัสเซียยังโหมโจมตีเมืองสำคัญหลายเมือง และกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนอย่างหนักหน่วง
- เมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนยังคงตกเป็นเป้าหมายโจมตี โดยรัสเซียมีการยิงจรวดถล่มอย่างหนักในวันที่ 8 ของสงคราม
- ขบวนรถทหารของรัสเซีย ที่กรีธาทัพครั้งใหญ่ จนเป็นขบวนยาวกว่า 60 กิโลเมตรหวังบุกยึดกรุงเคียฟ ต้องหยุดชะงักกลางคัน เพราะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงและอาหาร อีกทั้งยังถูกทหารยูเครนต่อสู้อย่างหนัก
- รัฐบาลรัสเซียยอมรับมีทหารรัสเซียสิ้นชีพ 498 ศพ นับตั้งแต่บุกยูเครน ในขณะที่ทางฝ่ายทางการยูเครน บอกว่าทหารรัสเซียสังเวยชีวิตในสงครามที่ยูเครน นับ 9,000 ศพแล้ว
- สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครนทันที หลังจากชาติสมาชิกสหประชาชาติ 141 จาก 193 ชาติ สนับสนุนมติประณามรัสเซียอย่างท่วมท้น มีเพียง 5 ชาติ ได้แก่ รัสเซีย, เบลารุส, เอริเทรีย, เกาหลีเหนือ และซีเรีย ที่คัดค้าน ขณะที่ 35 ชาติ รวมทั้งจีน งดออกเสียง
- รัสเซียสามารถยึดเมืองเคอร์ซอน เมืองสำคัญของยูเครน ทางภาคใต้ ติดทะเลดำ ได้สำเร็จเป็นเมืองแรก โดยนายกเทศมนตรีเมืองเคอร์ซอนเรียกร้องให้ประชาชน เชื่อฟังคำสั่งของ ‘ผู้มาเยือนติดอาวุธ’
- มีประชาชนในยูเครนกว่า 1 ล้านคนอพยพหนีภัยสงคราม เดินทางออกจากยูเครน ในขณะที่ผู้คนในเมืองมาริอูโปล เมืองยุทธศาสตร์ ใกล้ชายแดนรัสเซีย ต้องติดอยู่ในเมือง ท่ามกลางการถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนัก
- เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียเตือนหากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ และเป็นสงครามที่ทำลายล้าง แต่ยังคงบอกว่ารัสเซียยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
- รัสเซียแจ้งเตือนให้พลเมืองในกรุงเคียฟ, คาร์คีฟ และมาริอูโปล ออกจากเมือง จนก่อให้เกิดความหวั่นวิตกว่ารัสเซียจะโหมโจมตีทั้ง 3 เมืองนี้หนักมากขึ้น
ที่มา : Dailymail, BBC