สปสช. เปิดช่องทางให้บริการถุงยางอนามัย และยาเม็ดคุมกำเนิด คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ดีเดย์ 1 ก.พ. 2565 นี้ ผ่านแอปฯ เป๋าตัง และที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
วันที่ 27 ม.ค. 65 นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวทางการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน และถุงยางอนามัย ปีงบประมาณ 2565 ว่า บริการดังกล่าวเป็นสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งในปีนี้ สปสช. ได้เพิ่มจุดให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
สำหรับจุดให้บริการ คือ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ, ร้านขายยา, โรงพยาบาลเอกชน, คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ
สำหรับเงื่อนไขการขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานนั้น มีดังนี้
- หญิงไทยทุกสิทธิ อายุระหว่าง 15-59 ปี โดย
- ผู้รับบริการสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผง/ปี
วิธีการขอรับยาเม็ดคุมกำเนิด ทำได้โดย
- กรณีมีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน สามารถขอรับยาคุมกำเนิด ในแอปเป๋าตัง เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ จองสิทธิ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ
- กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
ส่วนถุงยางอนามัย มีเงื่อนไขในการให้คือ
- จะให้บริการแก่คนไทยทุกสิทธิอายุ 15 ปีขึ้นไป
- รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/ สัปดาห์ รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยาง/คน/ปี
วิธีการขอรับถุงยาง ทำได้โดย วิธีการรับคือ
- ใช้สมาร์ทโฟน Add Line สปสช.
- สแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช.) เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์ มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม.
ทั้งนี้ การให้บริการยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 นี้เป็นต้นไป ส่วนถุงยางอนามัยจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนเมษายน 2565