สลด! คนขับวินแวะซื้อส้มตำกำลังเข้าห้องพัก ถูกเครนก่อสร้างล้มทับร่างกระจุยเกลื่อนพื้น ขณะที่ชาวบ้านที่นอนอยู่ในห้องเช่า ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ธ.ค.64 ร.ต.อ.จักรทอง คำมาพล รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางบ่อ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเคiนก่อสร้างล้มทับห้องเช่ามีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดข้างไซต์งานก่อสร้างริมถนนรัตนราช ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.บางบ่อ นายอำเภอบางบ่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณห้องเช่าไม่มีชื่อปลูกชั้นเดียวติดกันจำนวน 15 ห้อง พบว่ามีเคiนขนาดใหญ่ล้มทับห้องที่ 13 และ 14 พังได้รับความเสียหาย โดยมีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 รายเป็นผู้พักอาศัยในห้องเช่าที่ 13 จำนวน 2 รายและเป็นคนขับรถเครนจำนวน 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลบางบ่อ ส่วนที่พื้นถนนหน้าห้องพักเจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมากกระจายเกลื่อนพื้น ต้องนำผ้าขาวมาปิดทับป้องกันภาพอุจาดตาและป้องกันการเดินเหยียบชิ้นส่วนของผู้ตาย ขณะที่จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิด พบแผ่นปูนขนาดใหญ่ที่ใช้ถ่วงน้ำหนักเครนหล่นลงมาทับร่างของผู้เคราะห์ร้ายรายนี้จนจมกองดิน
นายเอี่ยม กันธิยา ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้และเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่พักอาศัยในห้องเช่าจุดเกิดเหตุเปิดเผยว่า ตนเองและแฟนสาวเพิ่งออกกะมาจากการทำงานเมื่อช่วงสายวันนี้จึงพากันนอนพักอยู่ในห้องโดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้นในครั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้ตนเองและแฟนถูกซากหลังคาหล่นทับจนต้องพากันหนีตายออกมาด้านนอก
ด้านนางเพ็ญนภา อยู่ยืน อายุ 42 ปี แม่ค้าขายส้มตำใกล้จุดเกิดเหตุเล่าว่า ผู้ตายคือ นายเฉลิม จำนงค์ อายุ 48 ปี อาชีพขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้เดินมาซื้อของที่ร้านของตน ผู้ตายได้บอกกับตนว่าจะกินข้าวก่อนจะไปเอาโทรศัพท์แล้วนอนพักสักหน่อย หลังจากผู้ตายได้เดินออกจากร้านตนไปได้สัก 10 นาที ตนได้ยินเสียงดังโครมหันไปเห็นเครนล้มลงมาแล้ว และไม่คาดคิดว่าผู้ตายจะถูกเครนล้มทับจนร่างกระจุยกระจาย
ขณะที่นายสิริราช นรสาน คนขับเครนซึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อยเล่าว่า ขณะที่ตนเองขึ้นไปขับเครนเพื่อเตรียมยกของในไซต์งานก่อสร้างโดยยังไม่ทันยกสิ่งใด จังหวะที่หันเครนมาทางด้านห้องเช่าเครนก็เกิดการหักโค่นจากฐานรากด้านล่าง ก่อนจะเอนหล่นลงมาทางห้องเช่า ทำให้ตนเองกระเด็นตกลงมาจากเครนบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนสาเหตุคาดมาจากดินทรุดตัว
ด้าน พ.ต.อ.ศุภกร บูรณะภักดีตระกูล ผกก.สภ.บางบ่อ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดทราบว่าที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ก่อสร้างคอนโดพักอาศัยสูง 5 ชั้น โดยมีการขออนุญาตก่อสร้างจาก อบต.บางบ่อ อย่างถูกต้อง ซึ่งเครนดังกล่าวเป็นเครนที่ติดตั้งมีฐานรากและเกิดการหักโค่นจากฐานรากสูงจากพื้นเพียงไม่กี่เมตร โดยเครนดังกล่าวมีน้ำหนัก 8 ตัน หลังเกิดเหตุจากการตรวจสอบพบว่าแผ่นปูนที่ใช้ถ่วงน้ำหนักของตัวเครนจำนวน 8 แผ่น โดยเป็นแผ่นปูนที่มีน้ำหนัก 6 ตัน 5 แผ่นและน้ำหนัก 4 ตันจำนวน 3 แผ่นที่หล่นลงมาทับร่างของผู้เสียชีวิตจนขาดท่อนและชิ้นส่วนกระจายทั่วพื้น ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องนำอุปกรณ์มาทำการขุดดินในจุดที่แผ่นปูนทับร่างผู้เสียขชีวิตจมใต้ดินออก เนื่องจากแผ่นปูนมีน้ำหนักจำนวนมากจึงต้องขุดเพื่อกู้ศพขึ้นมา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเข้ามาว่า ล่าสุด ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูระดมกำลังนำอุปกรณ์มาทำการขุดพื้นดินจุดที่แผ่นปูนทับร่างนายเฉลิม จำนงค์ ผู้เสียชีวิตอยู่เพื่อนำร่างส่วนที่เหลือเพียงบางส่วนออกมาจากที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงรวบรวมชิ้นส่วนของผู้ตายทั้งหมดนำส่งชันสูตรที่นิติเวรรามา สมุทรปราการ
ส่วนนายบอย ชาวเวียดนามซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนายเฉลิม ได้นำข้าวกล่องและน้ำดื่มมาวางเซ่นไหว้พร้อมทั้งจุดธูปเรียกนายเฉลิมมาทานข้าว หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันจนต้องเสียชีวิต ขณะหิ้วส้มตำกำลังจะเปิดประตูเข้าห้องพักเพื่อรับประทานอาหารเที่ยง
นายบอยเปิดใจว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังเสียงสงบวิ่งออกมาดูนอกห้องพบว่ามีเครนถล่มลงมาและพบอวัยวะไส้และหัวใจของมนุษย์ที่ตกกระจายตามพื้นจำนวนมากรวมถึงคราบสมองและคราบเลือดเต็มพื้นไปหมด ตนเองจึงตัดสินใจวิ่งหนีออกมาด้วยความกลัว ซึ่งขณะนั้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายคือนายเฉลิม ตอนแรกคิดว่าเป็นคนขับเครน หลังทราบเรื่องว่าผู้ตายคือเนายเฉลิม และออกมาซื้อส้มตำเพื่อกลับไปรับประทานในห้องแต่ไม่ทันได้กินก็มาเสียชีวิตก่อน ตนจึงซื้อข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่มมาไหว้บริเวณนี้ตามความเชื่อ
ด้านนายพชร ศศิชาชยามร ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางลงพื้นที่พร้อมสั่งระงับการก่อสร้างทุกรูปแบบชั่วคราวเพื่อเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง ส่วนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบ่อระบุว่ายังไม่สามารถระบุสาเหตุของเครนล้มในครั้งนี้ได้ ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้เชิญวิศกรควบคุมงานพร้อมทั้งคนขับเครนและตัวแทนผู้รับเหมามาสอบปากคำและทำประวัติไว้แล้ว จากนั้นรอผลการตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทหรือไม่อย่างไรจึงจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
