ภรรยารองสวป.สภ.แกลง ระยอง ใช้ปืน 9 มม.ของสามีที่แขวนไว้ จ่อยิงที่หัวลูกสาววัย 14 ปี ตายคาห้องพักแฟลตตำรวจ แล้วเดินไปกระโดดจากชั้น 4 ลงมาเสียชีวิต สามีไปเจอทั้งศพเมียและลูก เสียใจคว้าปืนหมายปลิดชีพตายตาม แต่เพื่อนห้ามไว้ทัน สาเหตุคาดเครียดปัญหาการเงินไม่พอใช้ ก่อนตายจดโน้ตทิ้งไว้เงินเหลือเท่านี้
เวลา 08.00 น. วันที่ 4 พ.ย. ร.ต.อ.ณัฐกฤต คงลอด ร้อยเวร สภ.แกลง จ.ระยอง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุภรรยาตำรวจกระโดดจากชั้น 4 แฟลตตำรวจ ข้าง สภ.แกลง จ.ระยอง เสียชีวิต จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ประติพัฒน์ ภูมิลี ผกก.สภ.แกลง ทราบ แล้วรีบเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นแฟลตตำรวจที่อยู่ด้านหลัง ห่างจาก สภ.แกลง เพียง 50 เมตร ตรงบริเวณบันไดทางขึ้นพบร่างของผู้หญิงใส่เสื้อแขนยาวสีชมพู สวมกางเกงวอร์มขายาวสีแดงเข้ม นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กับพื้นปูน สภาพศพศีรษะยุบแตก สมองกระจาย กระดูกหักหลายแห่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นางพิภาพร นามประภา อายุ 42 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.ชลบุรี ปัจจุบันเป็นพนักงานขายรถยนต์ยี่ห้องดังใน อ.แกลง จ.ระยอง และเป็นภรรยาของ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ นามประภา รองสวป.สภ.แกลง ระยอง
ต่อมาเมื่อเข้าไปตรวจภายในห้องพักเลขที่ 268/12 ชั้น 1 แฟลตที่เกิดเหตุ พบกับผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ บุตรสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนที่นอนภายในห้อง ตรวจสอบพบบาดแผลที่ขมับด้านซ้ายจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืน ใกล้กันพบอายุปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ข้างศพ และยังพบข้อความบนกระดาษโน้ตสีเขียว มีใจความว่า “เก็บไว้ใช้เวลาจำเป็น แม่มีให้แค่นี้” วางอยู่บนธนบัตรใบละ 20 บาท และ 100 บาทจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ระยอง ได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจวิถีกระสุนก่อนจะนำศพส่ง รพ.แกลง ตรวจพิสูจน์ต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 03.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.อ.ประดิษฐ์ นามประภา รองสวป.สภ.แกลง สามีและบิดาของผู้เสียชีวิต ได้ออกเวรเข้าไปในห้องพัก ยังพบว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองนอนอยู่ภายในห้องพัก จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าแขวนอาวุธปืนขนาด 9 มม.ไว้ในห้อง และเข้าไปนอนพักผ่อนในห้องอีกห้องหนึ่งตามปกติคนเดียว จนกระทั่งเมื่อเช้าได้ยินเสียงดังตรงหน้าแฟลตจึงลงมาดูพบว่าเป็นภรรยาตัวเองก็ตกใจมาก จึงรีบกลับเข้าไปในห้องแล้วเข้าไปดู เพื่อนตำรวจได้วิ่งมาดู พบ ร.ต.อ ประดิษฐ์ หยิบปืนขึ้นมาเตรียมจ่อยิงที่ศีรษะ จึงรีบห้ามและแย่งปืนมาได้ ก่อนจะแยกพาไปสงบสติอารมณ์
ด้านเพื่อนตำรวจต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแบบนี้กับครอบครัวนี้ เพราะผู้เสียชีวิตกับบุตรสาวอยู่กับสามีที่เป็นตำรวจกว่าสิบปีแล้ว ไม่เคยมีการทะเลาะรุนแรง จึงแปลกใจกับการตัดสินก่อเหตุครั้งนี้
ส่วนเพื่อนพนักงานศูนย์รถยนต์ที่ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตยังทำงานปกติ ยังพูดคุยเล่นเหมือนทุกวัน ไม่มีลางบอกเหตุว่ามีความเครียด เท่าที่ทราบมีเรื่องหนี้สินที่ผู้เสียชีวิตมักจะเปรยกับเพื่อนร่วมงาน และอีกเรื่องเพื่อนร่วมงานรายหนึ่งได้ฝากเงินจำนวน 70,000 บาทไว้กับผู้เสียชีวิต และบอกว่าจะใช้เงินไปซื้อรถ แต่ไม่ได้กำหนดวันว่าจะใช้วันไหน แต่ผู้เสียชีวิตรับปากว่าจะนำมาให้ในวันที่ 4 พ.ย. จึงอาจจะเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด อาจหาเงินไม่ทันเลยคิดสั้น ส่วนสาเหตุที่ต้องปลิดชีพบุตรสาวด้วย อาจจะเกิดจากที่ผู้เสียชีวิตเคยพูดให้ฟังบ่อยครั้งว่า แม่อยู่ไหนลูกจะขอไปอยู่กับแม่ด้วย ไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม
เบื้องต้นตำรวจคาดว่า ผู้เสียชีวิตก่อเหตุยิงบุตรสาวก่อนจะวิ่งขึ้นไปชั้น 4 แล้วกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย ส่วนสาเหตุต้องรอสอบสวนสามี ซึ่งขณะนี้ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐานและผลตรวจจากแพทย์ก่อนจึงสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ต่อมา นายอนุสรณ์ แสงกล้า นายอำเภอแกลง ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.ประติพัฒน์ ภูมิลี ผกก.สภ.แกลง นำเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ โดยกล่าวว่ามาเพื่อให้กำลังใจและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต.