“สวนกุหลาบ” ประกาศปิดเรียน 7 วัน กลับไปเรียนออนไลน์ หลังคลัสเตอร์พุ่ง ยอดฉีดวัคซีน เข็มแรก-เข็มสอง ยังไม่ถึงร้อยละ 70

ไทยต้องลุ้นสถานการณ์โควิด-19 วันต่อวัน ล่าสุดติดเชื้อใหม่ลด แต่ยอดป่วยตายยังเกินครึ่งร้อย จำนวนนี้มีเด็กจากใต้ 2 คน อายุ 7 ขวบและ 12 ปี ขณะที่เปิดเรียนตามปกติหรือออนไซต์ได้ 2 สัปดาห์ โควิดในสถานศึกษาเริ่มตามหลอนเมื่อพบนักเรียนติดเชื้อจากคนในครอบครัวหลายพื้นที่ จนต้องปิดโรงเรียน ล่าสุดโรงเรียนสวนกุหลาบ กทม.ประกาศกลับไปเรียนออนไลน์ 7 วัน ส่วนโรงเรียนวัดมกุฏฯปิดเช่นกันแต่เฉพาะชั้นเรียน ส่วนยอดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรก เข็มสอง ยังไม่ถึงร้อยละ 70 ด้าน สปสช.เผยยอดจ่ายเงินเยียวยาคนเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลัง

ฉีดวัคซีนกว่า 621 ล้านบาท รอพิจารณาอีกกว่า 1.5 พันคน พบ กทม.ยื่นคำร้องมากสุดสัปดาห์นี้ไทยยังต้องลุ้นทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) เมื่อผ่านเทศกาลลอยกระทง และการที่ ศบค.จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงทั้งผับบาร์ร้านคาราโอเกะก่อนปีใหม่

ลุ้นผับบาร์โอเกะเปิดเร็วขึ้น

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนสถานประกอบการธุรกิจกลางคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงศิลปิน นักดนตรี หลังจากที่ ศบค.มีมติให้เลื่อนการเปิดกิจการไปถึงวันที่ 16 ม.ค.65 เข้าใจและเป็นห่วงห่วงโซ่ธุรกิจกลางคืนทั้งหมด ไม่ว่าจะผู้ประกอบการ นักร้อง นักดนตรี พนักงานเสิร์ฟรวมไปถึงผู้ค้าขายในช่วงกลางคืน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และจากการที่ตัวแทนสถานประกอบการธุรกิจกลางคืนยื่นหนังสือถึงนายกฯ เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการเปิดกิจการ/กิจกรรมให้เร็วขึ้นนั้น คาดจะนำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป แนวโน้มน่าจะเป็นในทิศทางที่ดี ตามเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการเสนอมา และหากประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีโอกาสที่จะเปิดสถานประกอบการธุรกิจกลางคืนได้เร็วกว่าเดิม

ติดเชื้อใหม่ลด-ตายเพิ่ม

ด้านศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,595 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,357 คน มาจากเรือนจำ 220 คน เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 18 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 8,478 คน อยู่ระหว่างรักษา 87,885 คน อาการหนัก 1,635 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 389 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 53 คน เป็นผู้เสียชีวิตอายุ 60 ปีขึ้นไป 40 คน มีโรค เรื้อรัง 10 คน เป็นเด็ก 2 คน อายุ 7 ขวบ ใน จ.สงขลา เป็นธาลัสซีเมีย และอายุ 12 ปี จ.ยะลา มีประวัติเนื้องอกในสมอง

6 จว.ใต้ยังติดท็อปเทน

ขณะที่พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 9 คน ส่วน 10 จังหวัด ที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ กทม.768 คน สงขลา 514 คน นครศรีธรรมราช 380 คน เชียงใหม่ 344 คน สุราษฎร์ธานี 233 คน สมุทรปราการ 210 คน ปัตตานี 196 คน ชลบุรี 178 คน ยะลา 151 คน และตรัง 136 คน จังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมี จ.อำนาจเจริญ และมุกดาหาร ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,057,575 คน มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,949,332 คน มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 20,358 คน

ฉีดเข็มแรกได้ร้อยละ 64.5

ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีนของประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 พ.ย.มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม 676,048 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ทั้งสิ้น 88,330,952 โดส แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 46,473,004 ราย คิดเป็นร้อยละ 64.5 ของประชากร เข็มที่ 2 จำนวน 38,836,504 ราย คิดเป็นร้อยละ 53.9 ของประชากร และเข็มที่ 3 จำนวน 3,021,444 ราย คิดเป็นร้อยละ 4.2 ของประชากร

เยียวยากว่า 621 ล.บาท

ต่อมา นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้ที่เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังรับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งข้อมูลประชาชนที่ฉีดวัคซีนจนถึงวันที่ 20 พ.ย. และเกิดภาวะไม่พึงประสงค์ยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือ จำนวน 9,245 ราย ส่วนใหญ่เป็นภาวะไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนเข็มแรก จำนวน 5,995 คน หรือร้อยละ 64.85 ในจำนวนนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ขอรับการช่วยเหลือ 6,177 คน หรือ ร้อยละ 66.81 ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ 1,400 คน หรือร้อยละ 16.21 และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีก 1,569 คน หรือร้อยละ 16.97 ในจำนวนนี้มีผู้ที่อุทธรณ์ คำร้องขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม 545 คน สปสช.ได้จ่ายเงินช่วยเหลือฯไปแล้วทั้งหมด 621,896,100 บาท

กทม.ยื่นคำร้องมากสุด

นพ.จเด็จกล่าวอีกว่า เขตที่มีประชาชนยื่นคำร้องมากที่สุดคือ เขต 13 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,703 คน รองลงมาคือ เขต 1 เชียงใหม่ จำนวน 1,146 คน เขต 10 อุบลราชธานี จำนวน 1,047 คน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาการไม่รุนแรง เข้าเกณฑ์ระดับ 1 คือ อาการเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท จำนวน 4,770 คน เข้าเกณฑ์ระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท มีจำนวน 118 คน และระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท จำนวน 1,296 คน ในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช.ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย

ร.ร.สวนกุหลาบปิดเรียน 7 วัน

ส่วนกรณีหลังให้นักเรียนชั้นมัธยมกลับมาเรียนที่โรงเรียนหรือออนไซต์ได้สองสัปดาห์ พบนักเรียนติดเชื้อโควิด-19 ในหลายพื้นที่ รวมถึงใน กทม.นั้น ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่านายจิณณภัทร พิบูลวิทิตธำรง ผอ.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รายงานให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ทราบว่า มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 ติดเชื้อโควิด-19 มาจากผู้ปกครองที่บ้าน จากนั้นจึงกักตัวนักเรียนกลุ่มเสี่ยงทั้งนักเรียนชั้น ม.6/3 ครูผู้สอน รวมไปถึงบุคคลอื่นๆ ที่น่าจะเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับนักเรียนรายดังกล่าว พร้อมกับตรวจหาเชื้อตามมาตรการเผชิญเหตุที่กำหนดไว้ ยังไม่พบนักเรียน ครู และบุคลากรคนใดที่ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองและนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาและผู้อำนวยการโรงเรียนประชุม ร่วมกันและเห็นชอบให้โรงเรียนปิดเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 22-28 พ.ย.นี้ โดยให้นักเรียน ครู และบุคลากรกลุ่มเสี่ยงกักตัว เฝ้าระวัง และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ทางโรงเรียนจะทำความสะอาด ทั้งนี้ ในระหว่างที่ปิดเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์แทน

วัดมกุฏฯ ปิดเฉพาะส่วน

รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สพฐ.ยังได้รับรายงานว่า มีนักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ ติดเชื้อจากผู้ปกครองที่บ้าน 1 ราย เช่นเดียวกัน ได้ปฏิบัติตามมาตรการและแผนเผชิญเหตุตรวจหาเชื้อกลุ่มนักเรียน และครูที่ใกล้ชิดแล้วไม่พบใครติดเชื้อเพิ่ม ทางคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้อำนวยการโรงเรียนได้ประชุมและเห็นชอบให้นักเรียนในชั้นเรียนดังกล่าว รวมทั้งครูผู้สอน และผู้ใกล้ชิด หยุดเรียน 1 สัปดาห์เพื่อกักตัว และเฝ้าดูอาการ ส่วนนักเรียนในชั้นเรียนอื่นๆ ยังคงมาเรียนในรูปแบบตามปกติ โดยในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ให้ทางโรงเรียนทำความสะอาดตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ปกครองนักเรียนสบายใจได้ว่าแต่ละโรงเรียนมุ่งปฏิบัติตามมาตรการที่ ศธ. และ สธ.กำหนดอย่างใกล้ชิด ดังนั้นนับตั้งแต่เปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นมา ไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นภายในโรงเรียนแต่อย่างใด

รักษาตัวในเรือนจำ 4.7 พันคน

วันเดียวกัน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑ สถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 220 คน (พบในเรือนจำสีแดง 49 คน และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 171 คน) รักษาหายเพิ่ม 945 คน ไม่มีรายงานการเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,717 คน (กลุ่มสีเขียวร้อยละ 84.4 สีเหลืองร้อยละ 15.4 และสีแดงร้อยละ 0.2) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 74,089 คน หรือร้อยละ 91.4 ของผู้ติดเชื้อสะสม 81,018 คน เสียชีวิตสะสม 183 คน คิดเป็นอัตราร้อยละ 0.2 ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด ส่วนการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ฉีดไปแล้วทั้งสิ้น 442,822 โดส โดยแบ่งเป็นการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังเข็มที่ 1 จำนวน 258,180 คน เข็มที่ 2 จำนวน 175,793 คน และเข็มที่ 3 จำนวน 8,849 คน

ศบค.สน.ลุยแก้โควิดใต้ได้ผล

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ ที่หลายจังหวัดผู้ติดเชื้อใหม่ทยอยลดลง ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก ศบค.ส่วนหน้า เปิดเผยผลการดำเนินการ ตั้งแต่ 18 ต.ค.เป็นต้นมา สามารถรณรงค์ฉีดวัคซีนในภาพรวมได้แล้วกว่าร้อยละ 60 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 15 ส่งผลให้สถานการณ์เริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มดีขึ้น โดยมียอดรวมผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงมาตามลำดับ ส่วนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุเกิน 60 ปี และไม่ฉีดวัคซีนกว่าร้อยละ 89 สำหรับผลการตรวจหาเชื้อเชิงรุกโดย ATK ในรอบ 7 วัน (11-17 พ.ย.2564) พบผลเป็นบวกเฉลี่ยร้อยละ 12.5 มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน โดยน้อยกว่าในห้วงเดือนก่อนกว่าร้อยละ 10

เร่งฉีดเพิ่มอีกเฉียด 4 แสนคน

พล.ต.ปราโมทย์ ระบุอีกว่า ทั้งนี้การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ได้แล้วร้อยละ 60.34 จะเร่งฉีดเพิ่มเติมอีก 397,377 คน ประกอบด้วย ยะลา 51,468 คน สตูล 53,066 คน ปัตตานี 152,043 คน และนราธิวาส 161,858 คน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร้อยละ 70 ตามที่กำหนดไว้ ในขณะที่มียอดการฉีดในกลุ่มนักเรียนเฉลี่ยในภาพรวมร้อยละ 67.07 และใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความคืบหน้าเพียงร้อยละ 49.6 โดยจะเร่งรัดเข้ารณรงค์ และดำเนินการในกลุ่มโรงเรียนเอกชน และสถาบันการศึกษาปอเนาะ มีอัตราการฉีดอยู่ในเกณฑ์ต่ำมากเพื่อรองรับการเปิดเรียนแบบออนไซต์ ทั้งนี้จะเร่งรัดขับเคลื่อนงานเชิงรุกในทุกมิติ ทั้งการรณรงค์ฉีดวัคซีน และการปฏิบัติภายใต้มาตรการ Covid Free Setting อย่างได้ผลเพื่อรองรับการเปิดประเทศต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2565 ต่อไป

ยะลาไม่ฉีดวัคซีนตายอีก 1

ด้าน สสจ.ยะลา แจ้งยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 20 พ.ย.151 คน แม้ยอดลดแต่ยังติดอันดับ 9 ผู้ติดเชื้อสูงของประเทศ พบมากสุดใน อ.เมืองถึง 59 คน นอกจากนี้ มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ศพ เป็นชายวัย 79 ปี ต.สะเตง อ.เมืองยะลา มีโรคประจำตัว และไม่ฉีดวัคซีน ส่วนที่ รพ.ศูนย์ยะลา กลุ่มรถสปอร์ต SLK OWENER CLUB THAI LAND จำนวน 30 คัน มีนายปรีชัย อังคปรีชาเศรษฐ์ เป็นประธานกลุ่ม ขับเคลื่อนขบวนรถสปอร์ตหลาก หลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่เบนซ์ เดินทางไปมอบสิ่งของในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้กับ รพ.ศูนย์ยะลา โดยมี นพ.อินทร์ จันแดง ผอ.และคณะเจ้าหน้าที่ของ รพ.ร่วมรับมอบ สำหรับสิ่งของที่นำมามอบ ได้แก่ ชุด PPE จำนวน 100 ชุด หน้ากากอนามัย 5,000 ชิ้น น้ำดื่มจำนวน 1,000 ขวด น้ำปลา 1 ลัง และขนมจีน 100 ชุด

ประมงสิชลป่วยเพิ่ม

ด้านนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.นครศรี ธรรมราช เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 441 คน กระจายใน 20 อำเภอ ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำกลางและสถานวัยหนุ่ม 16 คน ขณะที่อำเภอสิชลพบผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุด 111 คน ในจำนวนนี้เป็นการตรวจพบเชื้อจากการตรวจเชิงรุกภายในหมู่บ้านชาวประมง บ้านฝ่ายท่า หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งใส จำนวน 35 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อเฉพาะหมู่บ้านนี้สูงเกือบ 100 คน ทำให้มีการออกคำสั่งปิดเส้นทาง ห้ามเดินทางเข้าออกชุมชนบ้านฝ่ายท่า หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งใส อ.สิชล อย่างเด็ดขาดเป็นระยะเวลา 7 วัน พร้อมกันนี้มีการระดมฉีดวัคซีนให้ชาวบ้าน แรงงานต่างด้าว ที่วัดสุชน ต.ทุ่งใส ด้วย

เมืองคอนคลัสเตอร์ใหม่ผุดอื้อ

ผวจ.นครศรีธรรมราช ระบุอีกว่า สำหรับคลัสเตอร์สำคัญที่เกิดขึ้นใหม่ภายในจังหวัด พบหลายคลัสเตอร์ เช่น คลัสเตอร์ตำรวจนำผู้ต้องหาขึ้นศาล ต.ทุ่งปรัง คลัสเตอร์งานศพ และคลัสเตอร์ร้านปูนปั้นไก่ (ของแก้บนไอ้ไข่วัดเจย์) อ.สิชล คลัสเตอร์วงสันทนาการ คลัสเตอร์งานศพ คลัสเตอร์ตลาดสดใน อ.ทุ่งสง คลัสเตอร์เรือนจำ อ.ปากพนัง คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น

คุกกันทรลักษ์ติดเชื้อพุ่ง

ด้านนายศักดิ์สิน กุลบุตรดี สสอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในเรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง มีการตรวจสวอบผู้ต้องขัง จำนวน 835 คน พบติดเชื้อ 580 ราย จากผู้ต้องขัง 1,480 คน คิดเป็นร้อยละ 50 ของผู้ต้องขังทั้งหมด ส่วนที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ รพ.กันทรลักษ์ ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอกันทรลักษ์ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้เคียงได้จัดฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 ให้กับนักเรียนโรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา อายุ 12-18 ปี จำนวน 1,981 คน

ปิดเซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ 5 วัน

ส่วนกรณีการพบนักเรียนชายชั้น ป.2 อายุ 7 ขวบ และเรียนหญิงชั้น ป.6 อายุ 12 ปี โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ รวมถึงนักเรียนชายชั้น ม.3 อายุ 14 ปี โรงเรียนอนุกูลนารี อ.เมือง ติดเชื้อโควิด-19 จากญาติ ทำให้เมื่อวันที่ 20 พ.ย. โรงเรียนเซนต์ยอแซฟกาฬสินธุ์ได้ออกประกาศปิดเรียนชั่วคราวเป็นเวลา 5 วัน และให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ออนแฮนด์ และออนดีมานด์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 22-26 พ.ย.2564 พร้อมให้กลุ่มนักเรียนชั้น ป.5 ที่อยู่ห้องเดียวกับผู้ป่วย และเดินทางมาเรียนในวันที่ 16 และวันที่ 18 พ.ย.2564 และครูประจำชั้นเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ในวันที่ 20 พ.ย. จากนั้นผู้บริหารและคณะครูจะทำความสะอาดฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และประเมินสถานการณ์ต่อไป

อีกแห่งกักตัว 43 เพื่อนร่วมห้อง

ขณะที่นายเอกรักษ์ สารปรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุกูลนารี เปิดเผยว่า หลังจากตรวจพบ นร.รายดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ทางโรงเรียนร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าสอบสวนโรค นำนักเรียนที่ติดเชื้อเข้ารักษา ปิดห้อง เรียนดังกล่าวทำความสะอาด และให้กลุ่มเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันกว่า 43 คน ตรวจคัดกรองหาเชื้อ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม พร้อมทั้งให้กักตัวสังเกตอาการและเรียนออนไลน์ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ส่วนนักเรียนห้องอื่นและระดับชั้นต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำสามารถเดินทางมาเรียนได้ตามปกติ ขณะที่ภาพรวมของจังหวัดพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 22 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ

บึงกาฬปิด ร.ร. 2 แห่ง

ส่วนที่ จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านหนองผักแว่น ม.4 ต.ศรีชมภู อ.พรเจริญ ต้องปิดการเรียนการสอน หลังพบนักเรียนหญิง อายุ 7 ขวบ ติดโควิดจากยาย ต้องกักตัวนักเรียนกลุ่มเสี่ยง 20 คน ครู 3 คน และผู้ปกครองอีก 2 คนไว้บนอาคารเรียน 14 วัน ผลตรวจเบื้องต้นทั้งหมดยังเป็นลบ และปรับการเรียนการสอนเป็นออนแฮนด์ และออนแอร์ ขณะที่โรงเรียนพรเจริญประกาศหยุดการเรียนแบบออนไซต์ ตั้งแต่วันที่ 22-26 พ.ย.นี้ เนื่องจากมีนักเรียนติดโควิด 1 คน ส่วน รพ.พรเจริญ ประกาศปิดบริการทุกแผนก ตั้งแต่วันที่ 20-25
พ.ย.นี้ เหตุมีผู้ป่วยโควิด-19 มารักษาที่ห้องฉุกเฉินและตึกผู้ป่วยใน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อจำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องกักตัวทั้ง 2 แผนก และขอให้ผู้มารับบริการที่ตึกผู้ป่วยใน ห้องฉุกเฉินของ รพ.พรเจริญ วันที่ 5-18 พ.ย.2564 ให้กักตัวอยู่ที่บ้านอย่างเคร่งครัดจนครบ 14 วัน หากมีไข้ 37.5 องศา ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก มีเสมหะ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้มาตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.พรเจริญได้ทุกวัน เวลา 08.30-15.30 น. ที่จุดคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโควิด

สหรัฐฯ อนุมัติเข็มกระตุ้น

วันเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อสหรัฐฯ (CDC) อนุมัติการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาอย่างเป็นทางการแก่ชาวอเมริกันผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคน ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วอย่างน้อย 6 เดือนหลังจากที่ผ่านมาได้แนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และผู้มีอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อเท่านั้น เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนที่ฮ่องกงได้อนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวคให้ใช้ได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 3 -17 ปี จากเดิมที่ให้ใช้ได้ในผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เพื่อเร่งรณรงค์ประชากรทั้ง 7.5 ล้านคน ให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง โดยจะให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี เป็นลำดับแรก และจะขยายไปสู่กลุ่มเด็กอายุน้อยกว่าในระยะต่อไป

ฉีดวัคซีนจีนเข้าแคนาดาแล้ว

ขณะที่แคนาดาประกาศรับรองชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครบถ้วนของซิโนฟาร์ม ซิโนแวค และโคแวกซิน มีสิทธิ์เดินทางเข้าแคนาดาได้ตั้งแต่ 30 พ.ย.นี้เป็นต้นไป จากเดิมที่รับรองเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตราเซเนกาเท่านั้น