![](https://kapom.ink/wp-content/uploads/2022/04/asd21312zc-1024x577.jpg)
หนังสือคำสั่งตำรวจภูธรภาค 9 ให้ พ.ต.อ.สายูตี กาเต๊ะ “ผกก.สภ.บันนังสตา” จ.ยะลา ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ท่ามกลางข่าวรถหุ้มเกราะเก่าไร้น้ำมัน
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในแวดวงสีกากี และในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดรถตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้กำลังพลพลีชีพ 2 นาย บาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย
เพราะหลังเกิดเหตุมีข่าวสะพัดในพื้นที่ว่า กำลังพลชุดนี้ต้องใช้รถกระบะธรรมดาออกปฏิบัติภารกิจ เนื่องจากรถหุ้มเกราะไม่มีงบเติมน้ำมัน ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แม้ในเวลาต่อมาจะมีการออกมาปฏิเสธข่าว
แต่มีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.บันนังสตา ออกจากพื้นที่เป็นการด่วนแล้ว
ผบช.ภ.9 ตั้งรองผู้การคุมแทน
พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ได้มีหนังสือคำสั่งตำรวจภูธรภาค 9 ที่ 55/2565 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน
![เด้ง "ผกก.บันนังสตา" เซ่นบึ้ม ตร.ดับ 2 ท่ามกลางข่าวสะพัดรถหุ้มเกราะเก่า](https://resource.nationtv.tv/uploads/images/contents/w1024/2022/04/v2HD9MxcmMWC1EedAYgc.webp)
เนื้อความระบุว่า ตามที่วิทยุศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ด่วนที่สุด ที่ 0052.112 / 269 ลงวันที่ 1 เม.ย.65 ให้ พ.ต.อ.สายูตี กาเต๊ะ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า โดยขาดจากบังคับบัญชาทางตำแหน่งเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.65 เป็นต้นไป ทำให้ไม่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวนั้น
เพื่อให้การบริหารราชการของสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จ.ยะลา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 72 (3) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติมตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2559 ลงวันที่ 5 ก.พ.59 จึงให้ พ.ต.อ.พรหมพัฒน สนิทศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บันนังสตา อีกหน้าที่หนึ่ง
โดยให้สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างสำนักเบิกเงินเดือนได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.65 เป็นต้นไป จนกว่าผู้ดำรงตำแหน่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่ หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และคำสั่งใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
วิจารณ์แซ่ด! รถหุ้มเกราะไม่มีน้ำมัน ทำกำลังพลสังเวย
เหตุระเบิดในท้องที่ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 30 มี.ค.65 โจมตีกำลังพลของตำรวจ สภ.บันนังสตา ขณะออกปฏิบัติหน้าที่ส่งหมายเรียกพยานคดีจราจร
หลังเกิดเหตุมีการตั้งข้อสังเกตในสื่อสังคมออนไลน์ว่า เหตุใดตำรวจชุดที่โดนโจมตีจึงใช้รถยนต์กระบะสายตรวจตราโล่เป็นยานพานะ แทนที่จะใช้รถยนต์หุ้มเกราะออกไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง และมีการอ้างสาเหตุว่ามาจากรถหุ้มเกราะไม่มีน้ำมัน
![พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนายตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด](https://resource.nationtv.tv/uploads/images/contents/w1024/2022/04/0VZgf6OOhixNVy9lISsY.webp)
แจงรถหุ้มเกราะสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่เกี่ยวเรื่องไร้น้ำมัน
ต่อมาวันพฤหัสบดีที่ 31 มี.ค.65 พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ส.ต.ต.อัสราวุฒิ ราป้อม ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.บันนังสตา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด พร้อมทั้งได้สอบถามถึงกรณีดังกล่าว ทำให้ทราบว่า โดยปกติชุดสายตรวจหรือชุดจู่โจมจะทำหน้าที่ในการออกตรวจในเขตเทศบาลเป็นหลัก และมีภารกิจเสริมคือ ออกไปส่งหมายเรียกพยานหรือผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งบางครั้งก็จะออกไปนอกเขตเทศบาล ก็จะมีการประสานกับทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือกองกำลังในพื้นที่ เพื่อให้นำทางไปส่งหมาย หรืออย่างน้อยก็มีฝ่ายปกครองในพื้นที่ทำหน้าที่ รปภ.เส้นทางให้
ส่วนรถยนต์หุ้มเกราะสายตรวจที่มีใช้อยู่นั้น มีอายุการใช้งานมานาน สภาพไม่ได้สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ หากนำออกไปใช้ในเส้นทางที่สูงชันหรือห่างไกล อาจไม่ปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จึงไม่ได้นำออกไปใช้งานบ่อย เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และเป็นภารกิจที่จำเป็นต้องใช้ก็จะนำไปใช้งานกัน
![พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนายตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด](https://resource.nationtv.tv/uploads/images/contents/w1024/2022/04/LM9c4X9UsE2TJ3rlDzNx.webp)
ส่วนเรื่องน้ำมันรถที่ใช้กันอยู่นั้น ก็จะมีผู้กองหัวหน้าชุดเป็นคนเบิกมา เพื่อเติมให้กับรถยนต์สายตรวจที่ใช้กันเป็นประจำ เป็นรถส่วนกลาง บางครั้งก็มีการขอยืมรถยนต์ที่รองผู้กำกับฯ ปราบปราม (รองผกก.ป.) มาใช้ออกตรวจ ซึ่งบางครั้งสายตรวจที่เข้าเวรผลัดก่อนใช้รถเสร็จ ก็ไม่ได้เติมน้ำมันไว้ให้ หากมีภารกิจเยอะ น้ำมันก็อาจจะเหลือน้อย เจ้าหน้าที่ผลัดต่อไปก็จะต้องเบิกน้ำมันไปเติม ก่อนนำไปใช้งาน ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แม้จะต้องเผชิญกับสภาวะน้ำมันที่แพงขึ้นในปัจจุบัน อาจจะทำให้บางครั้งก็จะมีการปรับวิธีการทำงาน เช่น ใช้รถจักรยานยนต์ออกตรวจสลับกับรถยนต์สายตรวจ เป็นต้น
ส่วนรถยนต์หุ้มเกราะที่เป็นรถของสายตรวจหรืองานปราบปรามนั้น นานๆ จะใช้กันสักครั้ง เพราะสภาพรถไม่สมบูรณ์ อายุการใช้งานมาก จึงไม่ค่อยได้มีการตรวจว่ารถมีน้ำมันพร้อมใช้งานหรือไม่ ไม่ใช่ไม่มีงบประมาณไปเติมรถหุ้มเกราะ
![พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ส.ต.ต.อัสราวุฒิ ราป้อม ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.บันนังสตา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด](https://resource.nationtv.tv/uploads/images/contents/w1024/2022/04/P3GB48sxLXom7t3SnhcI.webp)
กำนันติดภารกิจนอกพื้นที่ ทำกลุ่มป่วนสบโอกาส
ด้าน ส.ต.ต.อัสราวุฒิ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ก่อนเข้าไปยังหมู่บ้านเป้าหมาย ได้พยายามประสานกับกำนันในพื้นที่เหมือนกับการปฏิบัติในทุกครั้ง แต่เนื่องจากกำนันไม่อยู่ในพื้นที่ กำนันมีภารกิจ และเห็นว่าระยะทางไม่ไกลมาก เข้าไปไม่นานก็ถอนตัวกลับ น่าจะไม่มีปัญหา จึงได้ตัดสินใจเดินทางไป แต่ฝ่ายที่จ้องอยู่ก็เห็นเป็นโอกาสเหมาะ จึงสามารถก่อเหตุในครั้งนี้ได้ จึงนำมาซึ่งความสูญเสียที่ทุกฝ่ายก็ไม่อยากให้เกิด
รถเกราะรีว่าเข้าพื้นที่ทันที ยันไม่มีปัญหาน้ำมันขาดแคลน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ทินกร ยังได้สอบถาม พ.ต.ท.สถาพร เหล่ามูล รองผู้กำกับการสืบสวน (รอง ผกก.สส.) สภ.บันนังสตา ทำให้ทราบว่า พ.ต.อ.สายูตี กาเต๊ะ ผกก.สภ.บันนังสตา ได้เคยเรียกประชุม รอง ผกก.หัวหน้างานทุกสายงาน เพื่อจัดสรรน้ำมันให้แต่ละฝ่ายนำไปใช้ในการทำงาน โดยได้ให้แต่ละสายงานแจ้งจำนวนรถที่มีอยู่และใช้งานกันว่ามีกี่คัน แต่ละสัปดาห์ต้องการใช้น้ำมันในการปฏิบัติภารกิจปริมาณเท่าใด ก็จะจัดสรรให้ตามที่มีการร้องขอ หากมีภารกิจแทรกจากภารกิจปกติมากขึ้นในระหว่างห้วงสัปดาห์หรือในเดือนนั้นๆ และต้องใช้น้ำมันมากขึ้น ก็สามารถขอเพิ่มได้จาก ผกก.สภ.บันนังสตา ไม่ได้มีปัญหาติดขัดในเรื่องน้ำมันในการทำงาน
ฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเรื่องรถเกราะไม่มีน้ำมัน จึงทำให้ต้องใช้รถสายตรวจในแบบไปทำงานแทน และจะเห็นได้จากเมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้น ฝ่ายที่เข้าไปช่วยเหลือในทันที ก็ใช้รถเกราะวีว่าคันใหญ่เข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือในทันที และยังมีฝ่ายสืบสวนจัดกำลังเข้าไปสนับสนุนได้อย่างรวดเร็ว และใช้รถยนต์ของทางราชการไปเช่นกัน หากมีปัญหาเรื่องน้ำมัน ก็คงไม่สามารถเข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือได้ทันท่วงทีตามที่ปรากฏเป็นข่าว
![พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ส.ต.ต.อัสราวุฒิ ราป้อม ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.บันนังสตา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด](https://resource.nationtv.tv/uploads/images/contents/w1024/2022/04/fPkg1ImsnZa3gkMSCpQu.webp)
ตั้งงบเพิ่ม “น้ำมันรถเกราะ” รับมือราคาพุ่ง
สำหรับรถหุ้มเกราะนั้น ทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ทั้งในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาความขาดแคลนน้ำมัน เพราะน้ำมันแพงขึ้น จึงได้เสนอขอตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ 2566 เพิ่มเติมไปอีกส่วนหนึ่งแล้ว อยู่ระหว่างรอการพิจารณา