สาวสมัครสอบนายสิบ เข้าสังกัด “ตำรวจภูธรภาค 5” โผล่แฉเรื่องฉาว มีทีมงานอ้างเป็นส่วนกลาง คิดค่าหัว 4.2 แสน แลกกับโพยคำตอบแจกให้ล่วงหน้า ส่วนบรรยากาศในห้องสอบก็หละหลวม อดคิดไม่ได้ว่าไฟเขียวให้ทุจริต พอประกาศผล-นามสกุลเดียวกับนายตำรวจระดับสูง เข้าวิน
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ประเด็นการทุจริตสอบนายสิบตำรวจในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ที่มีการเปิดเผยกันในโลกโซเชียล แม้ขณะนี้จะยังไม่ชัดเจนว่ามีการทุจริตการสอบจริงหรือไม่ แต่ล่าสุดทีมข่าวได้ข้อมูลสำคัญจากหนึ่งในผู้สมัครสอบนักเรียนนายสิบตำรวจที่ บช.ภ.5 ซึ่งเธอเชื่อว่าจะมีการทุจริตในการสอบครั้งนี้
หญิงสาวที่เป็นหนึ่งในผู้สมัครสอบนายสิบตำรวจสายอำนวยการในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 สนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เล่าว่า ก่อนที่จะมีการประกาศรับสมัครสอบ ประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งเดือนได้รับการชักชวนจากผู้ปกครองของเพื่อนคนหนึ่ง บอกว่ามีทีมงานส่วนกลางพร้อมช่วยเหลือในการสอบ โดยต้องจ่ายเงิน 420,000 บาท เพื่อแลกกับโพยข้อสอบพร้อมคำตอบที่จะแจกให้ล่วงหน้าก่อนเข้าสอบ แต่เธอปฏิเสธเพราะต้องการใช้ความรู้ความสามารถในการสอบด้วยตัวเอง ส่วนเพื่อนของเธอได้ตกลงและจ่ายเงินไปแล้วประมาณ 3 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือให้จ่ายหลังสอบติด
ต่อมาวันสอบ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เธอได้เข้าสอบที่สนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ซึ่งก็พบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการตรวจค้นที่ใช้เพียงอุปกรณ์ตรวจหาวัตถุ แต่ไม่มีการตรวจค้นตัวแต่อย่างใด เมื่อเข้าไปนั่งสอบก็พบว่ามีการจัดที่นั่งเป็นคู่ ไม่ได้แยกห่างกันทุกคน ระหว่างการสอบก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาคุมภายในห้อง แต่คุมอยู่บริเวณหน้าห้อง ระหว่างนั้นมีผู้เข้าสอบขออนุญาตเข้าห้องน้ำ แม้ว่าคนคุมสอบจะตามไปคุมที่ห้องน้ำด้วย แต่ก็อนุญาตให้ไปพร้อมกันสองสามคน
หญิงสาวผู้เข้าสอบรายนี้ บอกอีกว่า มาตรการคุมสอบในวันดังกล่าว หากเทียบกับการสอบทั่วไปในมหาวิทยาลัย ถือว่าการคุมเข้มมีน้อยกว่า ถือว่าหละหลวม จนทำให้คิดไปได้ว่า เป็นการเปิดทางให้ทุจริตได้สะดวก
ต่อมาหลังประกาศผลสอบ ปรากฏว่าเพื่อนของเธอที่ได้จ่ายเงินไปก่อนหน้านี้สอบไม่ติด (บช.ภ.6) โดยเพื่อนเล่าว่า ก่อนเข้าสอบในช่วงเช้าได้รับโพยคำตอบมาใบหนึ่ง เป็นกระดาษที่มีขนาดประมาณสลิปใบเสร็จรับเงินของร้านสะดวกซื้อ โดยได้รับช่วงเช้าก่อนที่จะมีการสอบในช่วงบ่าย แต่เพื่อนของเธอคนนี้ตัดสินใจไม่ควักโพยออกมาดู เพราะกลัวถูกจับได้ และเริ่มรู้สึกละอายใจ ซึ่งหลังจากประกาศผลสอบ เพื่อนของเธอก็ได้ส่งตัวอย่างโพยคำตอบมาให้ดู แต่เป็นโพยของสนามสอบอื่น ซึ่งเธอลองดู ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีอ่านอย่างไร แต่ก็เชื่อว่าจะมีการติววิธีอ่านโพยกันก่อนหน้านี้
ส่วนเนื้อหาข้อสอบมที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล ดูแล้วเป็นข้อสอบชุดเดียวกันกับข้อสอบจริง จึงทำให้รู้ว่าการสอบครั้งนี้มีการทุจริตกันอย่างแน่นอน
ผู้เข้าสอบรายนี้ บอกว่า เธอตั้งใจกับการสอบและเตรียมตัวอ่านหนังสือมานานเกือบสองปี เชื่อว่ามีการทุจริตการสอบอย่างแน่นอน ซึ่งเธอเองมองว่าไม่ยุติธรรม เพราะนอกจากการทุจริต ก็ยังพบว่ามีคนชื่อซ้ำในการประกาศผลสอบด้วย บางคนมีนามสกุลเดียวกับนายตำรวจระดับสูง จึงรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับคนที่ตั้งใจจริง
ส่วนที่ออกมาให้ข้อมูล ก็เพราะอยากให้การสอบโปร่งใสไร้ทุจริต อยากให้คนที่จะเข้าไปเป็นตำรวจต้องมีความซื่อสัตย์ เพราะหากเข้าไปได้ด้วยวิธีนี้ การทำงานในชีวิตราชการก็คงจะมีวิธีคิดไม่ต่างกัน อยากให้การสอบในอนาคต มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากกว่านี้.