วันที่ 20 ส.ค. นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่า นายบุญศรี รัตนัง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา) พ.ศ.2560 ถึงแก่กรรม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2564 เวลา 21.45 น. ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เลขที่ 110 ถนนอินทวโรรส ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ สิริรวมอายุ 68 ปี และกำหนดพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ในวันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 15.00 น. ณ วัดหนองเต่าคำ ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ สำหรับการสวดพระอภิธรรมศพและการขอพระราชทานเพลิง ทางทายาทอยู่ระหว่างประชุมหารือผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์โควิดยังคงมีการแพร่ระบาดหนักอยู่นั้นเอง
อธิบดี สวธ. กล่าวต่อว่า นอกจาก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ จะขอพระราชทานเพลิงศพแล้ว ยังให้การช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ด้วยการมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000 บาท ตามระเบียบสวัสดิการของศิลปินแห่งชาติ
สำหรับประวัติและผลงาน นายบุญศรี รัตนัง เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2496 ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ด้วยมีนิสัยรักการดนตรีมาตั้งแต่เล็ก ได้ฝึก การเล่นดนตรีพื้นเมืองประเภทซึง-สะล้อ ขลุ่ย เป่าปี่จุม และการขับซอกับครูดนตรีล้านนาที่มีมีชื่อเสียงในสมัยนั้นหลายท่าน จนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้อย่างคล่องแคล่วและชำนาญ
นายบุญศรี รัตนัง พ.ศ. 2513 เริ่มรับจ้างเป่าปี่ในงานซอ เล่นตลกประจำคณะละครซอลูกเอื้องเมืองเหนือ พ.ศ. 2516 ทำงานทั่วไปประจำวงดนตรี คณะอำนวยโชว์ ต่อมา พ.ศ. 2519 ตั้งวงดนตรีพื้นเมืองประยุกต์ชื่อ วงลูกทุ่ง ลานทอง ต่อมาเข้าสู่วงการซอโดยได้รับการสนับสนุนจากนายประสิทธิ์ ศรีสมเพชร และเริ่มฝึกแต่งเพลงใส่ทำนองเพลงแนวพื้นบ้านภาคเหนือ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2525 เริ่มร้องเพลงลูกทุ่งคำเมืองชุด “ลุงอดผ่อบ่ได้” และ “บ่าวเคิ้น” เป็นนักร้องประจำอยู่วงดนตรีคณะศรีสมเพชรวงใหญ่ ถือว่าเป็นบุคคลแรกที่เริ่มต้นสร้างแนวเพลงนี้ขึ้น ทำผลงานซอออกมานับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 จนถึงปัจจุบัน
มีผลงานเพลงที่แต่งขึ้นมาทั้งหมด ประมาณ 500 กว่าเพลง มีผลงานอัลบั้มซอพื้นบ้านมาแล้วกว่า 30 ชุด ผลงานที่มีชื่อเสียง เช่น เมาตึงวัน สามตอง เบื่อผัวสามตอง หนุ่มรถอีแต๋นครวญ คุณนายป่ามป้าม เฒ่าจอมโวซอลูกทุ่งเบิกฟ้า ผัวเปรต ซอสามจังหวะ เงินบาทลอยตัว อเมซิ่งไทยแลนด์ ขี้เมาอ้อนเมีย แหล่หอยไห้ เป็นต้น มีบทเพลงซอพื้นบ้านที่ประพันธ์บทขึ้นมาใหม่ สะท้อนปัญหาสังคม เยียวยาสุขภาพจิต ส่งเสริมความเข้าใจทางการเมือง ความรู้ในทางพุทธศาสนา วัฒนธรรมประเพณี และสร้างความบันเทิงให้กับประชาชน ผลงานซอบางเรื่องที่มีการนำมาบันทึกเสียงใหม่ และจัดทำในรูปแบบของซอเพื่อการศึกษา มีการจัดทำเป็น วีซีดี ซอคาราโอเกะ เพื่อการศึกษาขึ้นเป็นครั้งแรกในล้านนา ในจำนวนนี้ เพลงแห่ครัวตาน จากอัลบั้มกลองยาวสามช่า ได้รับรางวัล ศิลปินเพลงยอดเยี่ยมพื้นบ้านภาคเหนือ รางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทาน ครั้งที่ 1 จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย เคยเข้าแข่งขันการประกวดวงดนตรีพื้นเมืองประยุกต์ ในนามวง “ลูกทุ่งลานทอง” ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ที่รายการลูกทุ่งลานนา สถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 ลำปาง เมื่อปี พ.ศ. 2526 ได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา) จากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2537
ความสามารถนอกจากการขับซอ การประพันธ์บทซอพื้นเมือง เพลงลูกทุ่งคำเมือง ยังเป็นผู้สร้างสรรค์เครื่องดนตรีพื้นเมือง พัฒนาให้มีศักยภาพในการบรรเลงร่วมกับวงดนตรีสากล สร้างแบบเรียนแบบฝึกดนตรีพื้นเมืองเพื่อการศึกษามากมาย รวบรวมโน้ตเพลงพื้นบ้าน ตำราเป่าขลุ่ยล้านนา และปัจจุบันยังเป็นวิทยากรบรรยายความรู้ทางดนตรีพื้นเมืองสู่สังคมตลอดเวลาทั้งในพื้นที่สถานศึกษาและพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ ยังก่อตั้งศูนย์สืบสานรอยล้านนาภูมิปัญญาท้องถิ่นขึ้นมาจากทุนส่วนตัว ตั้งแต่ พ.ศ.2541 จนถึงปัจจุบัน เปิดสอนความรู้วัฒนธรรมล้านนาแก่ผู้สนใจโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ผลิตลูกศิษย์ที่สืบสานมรดกความรู้วัฒนธรรมล้านนานับหลายร้อยคน โดยศูนย์สืบสานรอยล้านนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น รัตนังเสียงซึงสตูดิโอ ตั้งอยู่ เลขที่ 83 บ้านหนองเต่าคำ หมู่ที่ 2 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ 50210 โทรศัพท์ 0899981898 นายบุญศรี รัตนัง จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้านล้านนา) พุทธศักราช 2560