โจ๋ปทุม ยกพวกตีกัน ก่อนจุดไฟเผาอริ ผู้ปกครองพามอบตัว พร้อมแจ้งความกลับฝั่งผู้บาดเจ็บ ตำรวจยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มก่อเหตุทำร้ายร่างกายกัน ที่บริเวณตลาดสร้างใหม่ ใกล้กับหมู่บ้านเมืองประชา ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี กล้องวงปิดจับภาพขณะกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ตะลุมบอนใช้อาวุธครบมือ ทั้งมีดดาบ มีดดายหญ้าทำร้ายคู่อริ ก่อนใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ก่อนกลุ่มผู้ก่อเหตุจะวิ่งหลบหนีไป
ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ค.66) กลุ่มผู้บาดเจ็บ 4 ราย พร้อมผู้ปกครอง ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี ที่ สภ.เมืองปทุมธานี เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 14 คน แต่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีเพียง 5 คน เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในขณะนั้นก็ได้มีผู้ปกครองพานายต๊ะ อายุ 22 ปี หัวโจ๊กกลุ่มผู้ก่อเหตุ มาเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมนำหลักฐานกล้องวงจรปิดมาแจ้งความกลับกลุ่มผู้บาดเจ็บด้วย
เนื่องจากวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มก่อเหตุทะเลาะวิวาท เอาคืนกันไปมาหลายครั้ง เพราะเคยพักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรแห่งเดียวกัน โดยตำรวจได้ให้ผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยตกลงทำความเข้าใจในการดูแลบุตรหลาน แต่ระหว่างการพูดคุยกัน ทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะวัยรุ่นที่บาดเจ็บ กลับได้มีปากเสียงกันเล็กน้อยกับผู้ปกครองฝั่งผู้ก่อเหตุ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างว่า อีกฝั่งเป็นผู้เริ่มก่อน
นายปอน อายุ 15 ปี และนายบอส อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บถูกไฟเผา เผยว่า จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง เกิดเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฝั่งผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่แฟนสาวไปมองหน้าว่าใครบีบแตรรถเสียงดัง จึงตามมาที่ห้องพัก และใช้อาวุธปืนจ่อเข้ามาผ่านหน้าต่างบานเกร็ด ซึ่งขณะนั้นมีแม่ และน้องอายุ 3-5 ขวบของนายบอสนอนพักอยู่ในห้อง ด้วยความตกใจแม่จึงโทรศัพท์แจ้งนายบอส ว่ามีคนนำอาวุธปืนมาข่มขู่ ทำให้นายบอสเกิดความไม่พอใจ พาเพื่อนตามไปทวงถามกลุ่มผู้ก่อเหตุที่บริเวณหน้าห้องพัก แต่ไม่มีคนเปิดประตูออกมา ด้วยความโมโห เพื่อนของนายบอสจึงใช้กระเป๋าฟาดไปที่กระจกบานเกร็ดจนได้รับความเสียหาย
หลังจากนั้นฝั่งผู้ก่อเหตุ จึงได้โทรศัพท์เรียกพวกเข้ามารุมทำร้ายคัวเอง และใช้อาวุธมีดจี้ นายบอสจึงตะโกนให้เพื่อนช่วย ซึ่งเพื่อนได้ใช้ปืนยิงขู่ 2 นัดโดนเข้าที่แขนคู่กรณี 1 นัด จึงหลบหนีออกมาได้ จากนั้นแม่นายบอสตัดสินใจย้ายออกจากบ้านเอื้ออาทร แบะเหตุการณ์ก็เงียบหายไป กระทั่งวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีเพื่อนชื่อนายดิว ได้โทรศัพท์มาชักชวนให้ไปนั่งเล่นที่ตลาดใหม่ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ แต่นายดิวกลับพาฝั่งผู้ก่อเหตุมาทำร้ายจน และปาระเบิดขวดใส่ก่อนจะจุดไฟเผา และหลบหนีไป ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายบอสได้รับบาดเจ็บเย็บนิ้วนางข้างขวาเย็บ 5 เข็ม ส่วนมือขวาเป็นแผลไฟไหม้ ผิวหนังลอก
ส่วนกรณีที่ผู้ปกครองฝั่งผู้ก่อเหตุ อ้างว่า กลุ่มนายบอสได้ไปเผารถนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่กลุ่มตน แต่ยอมรับว่า เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.) ได้ให้แฟนสาวของนายปอน ไปล่อกลุ่มคู่อริมาที่แฟลตปลาทอง หวังให้ตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดี แต่คู่กรณีขัดขืน จึงใช้ไม้เบสบอสฟาดทำร้ายคู่กรณีไป นายบอส ยังยืนยันอีกว่า หากฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่ถูกดำเนินคดี ตนก็พร้อมจะเอาคืน แม้ว่าจะถูกดำเนินคดี ก็พร้อมจะยอมรับ ด้านแม่นายบอส อายุ 38 ปี ยอมรับว่า ลูกชายมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง แต่หลังออกจากโรงเรียน ก็พยานามหางานทำเพื่อเป็นเสาหลักของครอบครัว และไม่เคยมีเรื่องกับใครอีก
หากกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่บุกนำอาวุธปืนมาข่มขู่ตนที่ห้องพัก ปัญหาความขัดแย้งของทั้ง 2 กลุ่มก็คงไม่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ลูกชายถูกฝั่งผู้ก่อเหตุจุดไฟเผาจนได้รับบาดเจ็บนั้น ก็อยากร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย ขณะที่แม่ของนายต๊ะ อายุ 32 ปี เปิดเผยว่า ลูกชายได้มาสารภาพว่าเป็น 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ หลังเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ลูกชายกำลังเดินทางไปทำงาน
แล้วกลุ่มผู้บาดเจ็บได้มาพบจึงใช้อาวุธปืนปากกาเตรียมจะมายิง ลูกชายจึงรีบวิ่งหนี จากนั้นกลุ่มผู้บาดเจ็บได้ส่งข้อความไปท้าทายรุ่นน้องที่รู้จัก ว่า รุ่นพี่วิ่งไวจัง ทำให้เกิดความโมโห ช่วงกลางคืนจึงพากลุ่มเพื่อนไปเจอกลุ่มผู้บาดเจ็บบริเวณตลาดใหม่ที่เกิดเหตุ และพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่ม กำลังจะบุกเข้าไปทำร้ายผู้บาดเจ็บด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดภาพเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป
ด้านพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุบางส่วนเป็นที่เรียบร้อย ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีการเพิ่มเติมในลักษณะทรมาน ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุมีทั้งหมด 14 คน ออกหมายจับแล้ว 5 คน และวันจันทร์จะออกหมายจับส่วนที่เหลือเพิ่มเติม แต่อาจจะล่าช้าเล็กน้อย เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ และมีหลายคน พร้อมยืนยัน จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เพราะฝั่งผู้บาดเจ็บก็ได้ยกพวกก่อเหตุด้วยเช่นกัน