คดียิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้าน สุราษฎร์ธานี ส่อบานปลาย พบศพ ลูกชาย ด.ต.โหด ถูกยิงขมับทิ้งไว้ในรถที่ใช้หลบหนี จอดอยู่ลานจอดรถวัดที่จัดงานศพลุงที่ถูกยิงตายในที่เกิดเหตุ
กรณีเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือ ผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ขณะอยู่ที่บ้านพักในสวนปาล์ม ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต พร้อมกับภรรยา และ ผู้ใหญ่เกราะ อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม เพื่อนคนสนิท นอกจากนี้ยังพบศพ 1 ในกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุแล้วถูกยิงสวนเสียชีวิตอีก 1 ราย รวมเป็น 4 ศพ เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ต่อมามีการออกหมายจับ ด.ต. อรรถพล วิเชียร กับพวก รวม 2 คน ก่อนมีคำสั่งให้ ด.ต.อรรถพร จากราชการไว้ก่อน ทันที ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา (วันที่ 9 เม.ย.) ตำรวจ สภ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในรถจอดทิ้งไว้ใต้ต้นไทร ภายในบริเวณวัดไกรสรเขตราราม ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน เบื้องต้นรับแจ้งว่าเป็นรถฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กร 3948 สุราษฎร์ธานี ที่ตำรวจ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ประสานขอความร่วมมือค้นหาเนื่องจากเป็นรถที่คนร้ายยิงถล่มบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้านใช้หลบหนี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 และนำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถภายในวัดดังกล่าว บริเวณใต้ต้นไทรพบรถจอดปิดประตู แต่ไม่ได้ล็อก ตรวจสอบภายในรถพบศพนายอรรถพล วิเชียร อายุ 25 ปี ลูกชาย ด.ต.อรรถพร กับภรรยาคนแรก อยู่บนเบาะซ้ายหน้าสภาพปรับนอนเอน และศพถูกคลุมห่มด้วยผ้าขาวม้าลายขาวดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าบริเวณขมับขวา ส่วนในมือมีพวงมาลัยดอกไม้ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชม. จึงนำศพส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และจากการตรวจสอบภายในรถพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 1 ปลอก ส่วนตามตัวถังรถไม่พบร่องรอยกระสุนแต่อย่างใด จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ภายในวัดไกรสรเขตราราม มีพิธีตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี พี่ชาย ด.ต.อรรถพร ที่เสียชีวิตจากเหตุยิงต่อสู้เป็นคืนแรก ก่อนหน้านี้มีญาติคนหนึ่งของ ด.ต.อรรถพร อ้างว่าได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากพี่ชายของ ด.ต.อรรถพร ซึ่งบวชเป็นพระอยู่ที่กรุงเทพฯ แจ้งว่ามีศพหลานอยู่ในรถ เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นจริงตามที่ได้รับแจ้ง จึงได้แจ้งให้ตำรวจทราบ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ตายร่วมก่อเหตุแล้วถูกยิงบาดเจ็บมาจากที่เกิดเหตุ หรือถูกใครยิง เนื่องจากไม่พบอาวุธปืนในรถแต่อย่างใด อยู่ระหว่างตรวจสอบสวนเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง