หนุ่มคลั่งใช้ขวานจามย่าวัย 80 ดับอนาถ ก่อนเอา จยย. 2 คันมาทับร่างจุดไฟเผา อาและชาวบ้านมาช่วยถูกไล่ฟันอีก ตำรวจต้องนำกำลังเข้ามาสยบเหตุแล้วจับไปส่ง รพ.ก่อนแจ้งหลายข้อหาหนัก
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 จากกรณีหลานชายคลุ้มคลั่งอาละวาดใช้ขวานฟันย่าแท้ๆ เสียชีวิตก่อนจะนำรถจักรยานยนต์ทับร่างแล้วจุดไฟเผา เหตุเกิดเมื่อคืน (12 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปทุมราชวงศา จึงได้นำกำลังออกระงับเหตุ บ้านเลขที่ 4 หมู่ 6 พบ นายอำคา ทองห่อ อายุ 38 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งใช้ขวานฟัน นางหนู ทองห่อ อายุ 80 ปี ย่าแท้ๆ ของตนเองจากนั้นได้จุดไฟเผาร่างของนางหนูซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้
ล่าสุด (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านบ้านเลขที่ 4 หมู่ 6 บ้านยางเครือพัฒนา ตำบลนาป่าแซง อำเภอปทุมราชวงศา พบกับนายสุริยัน ทองห่อ อายุ 22 ปี น้องชายของนายอำคา ทองห่อ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอำคา ได้เดินทางกลับมาจากบ้านของภรรยาซึ่งอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงกัน เมื่อมาถึงระหว่างทางนายอำคา ได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มผู้เห็นเหตุการณ์จึงได้โทรแจ้งรถกู้ชีพฉุกเฉิน 1669 เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลปทุมราชวงศา จากนั้นได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ ตนและแม่ได้เดินทางตามไปที่โรงพยาบาลพบว่า นายอำคา อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งได้ทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาล โดยใช้กำปั้นทุบที่ประตูอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลอำนาจเจริญ ทำให้กระจกแตกเสียหายเจ้าหน้าที่ตำรวจระงับเหตุ จึงได้ติดต่อให้แม่และตนเองไปเกลี้ยกล่อม เมื่อแม่ไปถึงจึงได้พูดเกลี้ยกล่อม นายอำคา จึงยอมขึ้นรถกลับบ้าน ซึ่งก่อนกลับบ้านได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา ฐานทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาลอำนาจเจริญ และเซ็นยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย
โดยระหว่างนั่งรถกลับมาที่บ้านนายอำคา ก็มีอาการคลุ้มคลั่งจะฆ่าแม่ โดยบอกว่าไม่ใช่แม่เป็นใครก็ไม่รู้ เมื่อมาถึงที่บ้านก็มีอาการคลุ้มคลั่งอย่างหนัก ตนจึงได้ให้แม่ไปซ่อนที่อื่นเพราะกลัวจะถูกทำร้าย ต่อมาชาวบ้านมาช่วยกันเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผลยิ่งอาละวาดหนักคลุ้มคลั่งจะทำร้ายชาวบ้านที่มาคอยห้าม ญาติพี่น้องจึงได้ไปตาม นางหนู ทองห่อ ย่า มาเกลี้ยกล่อมเนื่องจากผู้ก่อเหตุเชื่อฟังย่าเป็นอย่างมาก เมื่อมาถึงคุณย่าก็ได้เดินเข้าไปพูดคุยกับนายอำคา แต่ไม่เป็นผล นายบุญ ทองห่อ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นอาของผู้ก่อเหตุ จึงเดินตามเข้าไปกลัวว่านายอำคา จะทำร้านนางหนู เมื่อไปถึงนายอำคาก็คว้าขวานที่อยู่ในครัวฟันนายบุญ นายบุญจึงยกแขนขึ้นกัน จึงได้ถูกฟันที่แขนข้างขวา จากนั้นนายบุญ จึงวิ่งหนีออกมา นายอำคา ก็วิ่งตามออกมาจากหลังบ้านแต่ตามไม่ทัน จึงวิ่งกลับเข้าไปหานางหนู และใช้ขวานฟันเข้าที่ท้ายทอย จนนางหนูล้มฟุบลง จากนั้นก็ได้ฟันซ้ำอีกหลายครั้ง กระทั่งนางหนูผู้เป็นย่า ได้แน่นิ่งไป นายอำคา จึงได้ลากรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่ใกล้ไปจำนวน 2 คัน มาทับร่างของนางหนู และเศษไม้เศษผ้าที่วางอยู่ใกล้ๆ มาทับตัวนางหนู ก่อนจะจุดไฟเผา และในขณะที่กำลังเผา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาถึง นายอำคาเห็นรถตำรวจจึงได้ขว้างแท่งเหล็กใส่รถตำรวจ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น มีชาวบ้านขับรถผ่านมา นายอำคา ก็ได้ถือขวานวิ่งไล่ฟันชาวบ้าน จนต้องทิ้งรถจักรยานยนต์และวิ่งหนี นายอำคา จึงได้นำรถจักรยานยนต์ของชาวที่ทิ้งไว้นำไปจุดไฟเผา ที่กระท่อมข้างทางอีกคัน รวม 3 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมตัวนายอำคาเอาไว้ได้ และได้นำตัวส่ง รพ.ปทุมราชวงศา เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สุทธิกาญจน์ ฟักทอง ผกก.สภ.ปทุมราชวงศา กล่าวอีกว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา อำพรางศพ และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จากนั้นจะนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ฝากขังในวันพรุ่งนี้ ส่วนสาเหตุที่ คลุ้มคลั่งนั้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานอาจเกิดการใช้สารเสพติด.