“หมอนิธิพัฒน์” เผยภาวะลองโควิด เกิดความผิดปกติต่อสมอง-จิตใจ แนะปรึกษาสายด่วนสุขภาพ 1323

หมอนิธิพัฒน์ เผยภาวะลองโควิด เกิดความผิดปกติต่อสมองและจิตใจ แนะปรึกษาสายด่วนสุขภาพ 1323

วันที่ 24 มี.ค. 2565 รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นิธิพัฒน์ เจียรกุล โดยระบุว่า ชักลังเลว่าเอาอยู่จริงไหม เพราะตัวเลขผู้ป่วยหนัก และใส่เครื่องช่วยหายใจยังคงไปต่อ ส่วนผู้เสียชีวิตยังทรง แต่อาจเพราะเปลี่ยนวิธีการสรุปสาเหตุตาย ถ้าไม่ได้เป็นผลจากโควิดโดยตรง หรือเป็นการติดเชื้อแบบไม่รู้ตัว ขณะป่วยหนักจากโรคเรื้อรังที่มีอยู่เดิม

สำหรับในแต่ละวัน เท่าที่ทราบมีประมาณ 15-20% ของผลการตรวจ RT-PCR เป็นผลจากการตรวจยืนยันผลจาก ATK ก่อนหน้า ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ถ้าต้องเข้ารพ.หลัก และเหตุผลต้องการยืนยันเพื่อหยุดงานหรือการประกัน สำหรับผลตรวจนั้นกว่า 95% ผลก็เป็นบวกจริง แสดงว่าช่วงนี้ผลบวก ATK เชื่อถือได้ น่าคิดจะใช้ทดแทน RT-PCR ในบางกรณีกันบ้างจะได้ประหยัดเงินประเทศ สำหรับสายพันธุ์ย่อยแปลกไปจาก BA.2 ที่ครองตลาด ยังพบน้อยในบ้านเรา ส่วนตัวแชมป์ใหม่นั้นก็ไม่พบว่ารุนแรงกว่าเจ้าของพื้นที่เดิม

สามวันก่อนมีสื่อขอสัมภาษณ์เรื่องอาการลองโควิด ทางระบบประสาทและสมอง ต้องขอบายเขาไป เพราะไม่ชำนาญและไม่มีข้อมูลด้านนี้มาก เพียงแต่ประสบการณ์ส่วนตัว ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากปอดอักเสบโควิดแล้ว นอกจากอาการตกค้างในระบบการหายใจแล้ว อาการตกค้างในระบบประสาท ก็พบได้บ่อยไม่แพ้กัน แถมยังรบกวนชีวิตประจำวันได้มาก โดยเฉพาะรายที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน

ดูเหมือนว่าเจ้าโควิดจะทำร้ายร่างกายเรา โดยไม่แยกแยะอวัยวะ มีสองช่องทางที่เชื้อไวรัสก่อโรค ทำให้เกิดความผิดปกติต่อสมองและจิตใจของเรา

ทางตรงเป็นผลจากการอักเสบโดยตรงของเนื้อสมอง และเนื้อเยื่อประสาท (encephalitis/encephalopathy) ทำให้แสดงอาการออกมาในรูปของการสับสนวุ่นวาย (altered mental status and delirium) ในระยะแรกของการเจ็บป่วย และเมื่อดีขึ้นหรือหายแล้ว บางคนอาจมีอาการหลงเหลือ เช่น เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ย้ำคิดย้ำทำ เป็นต้น

นอกจากผลการอักเสบจากไวรัสแล้ว การกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกัน ตอบสนองต่อไวรัสผิดปกติ (cytokine network dysregulation and peripheral immune cell transmigration) รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองหลังหายจากการติดเชื้อ (post-infectious autoimmunity)

ส่วนทางอ้อม เป็นผลกระทบมาจากความเครียด ในระหว่างการเจ็บป่วย ไปช่วยกระตุ้นให้ปัญหาทางสมอง และจิตใจที่อาจมีอยู่เดิมกำเริบขึ้น หรือเป็นของใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะต้องถูกแยกตัว ทั้งในทางกายภาพและทางสังคม (physical and social isolation) ยิ่งถ้าป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยแล้ว การต้องถูกแยกตัว ห้ามญาติเยี่ยม แถมจำกัดบุคลากรที่จะเข้าไปดูแล ทำให้เกิดความแปลกแยก และยิ่งซ้ำเติมปัญหาที่เป็นผลทางตรงจากโรคเข้าไปใหญ่ นี่ยังไม่นับปัญหาการตกงาน หรือขาดงาน การขาดแคลนอาหารเครื่องอุปโภคและอุปโภค รวมไปถึงฐานะทางเศรษฐกิจ ที่อาจถูกสั่นคลอน ล้วนแล้วแต่ช่วยซ้ำเติมให้ผลกระทบทางตรงจากตัวโรคแย่หนักขึ้นอีก

ถ้าโชคดีบ้านเราเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นของโควิดได้เร็ว คงมีผลหลงเหลือทางร่างกาย และจิตใจของคนป่วย และคนที่ไม่ได้ป่วยจากโควิดจำนวนมากมาย ในระหว่างที่ยังไม่ถึงจุดนั้น สายด่วน 1323 คงช่วยผ่อนคลายความทุกข์ของท่านได้บ้าง ในยามที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร #อยู่ร่วมกับโควิด.

คลิกชมที่นี่