ชายเร่ร่อนบุกทำร้ายพระวัยชราขณะอยู่ในกุฏิวัดที่ยโสธร พบคนร้ายติดยา เสพหลายชนิดจนหลอน มาขออาศัยนอน แอบเข้าไปทุบหลวงตาที่นอนอาพาธอยู่รูปเดียว อ้างแค้นที่พระเคยจับโยนน้ำตอนเด็ก
เวลา 01.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุทำร้ายพระสงฆ์ภายในวัดบ้านคำแดง ตำบลเดิด อำเภอเมืองยโสธร ได้รับบาดเจ็บสาหัสและมรณภาพที่โรงพยาบาลยโสธร ส่วนคนก่อเหตุ เป็นชายเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยหลับนอนตามวัดในพื้นที่ และยังมีพฤติการณ์ติดยาเสพติดอย่างหนักจนมีอาการหลอนอยู่บ่อยครั้ง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดบ้านคำแดงพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นกุฏิชั้นเดียว มีพบคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ตามพื้นและตามผนังห้อง ส่วนที่บริเวณเตียงนอนพบชิ้นส่วนไม้เท้าของผู้ตาย คาดว่าเป็นอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้ทำร้ายพระจนได้รับบาดเจ็บ และมรณภาพในเวลาต่อมา
ขณะที่พระสงฆ์ในวัดและญาติโยมกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อนำศพพระสงฆ์ที่ถูกทำร้ายมาทำพิธีทางศาสนาภายในวัด ทราบชื่อพระที่มรณภาพคือ พระสุดตา กันตะธัมโม อายุ 85 ปี เป็นพระลูกวัดบ้านคำแดง
นายสมรัก ไชยธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านคำแดง กล่าวว่า พระสุดตาเป็นพระลูกวัดมีอายุมากแล้ว และยังมีอาการป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก เดินไม่ค่อยสะดวกต้องใช้ไม้เท้าในการพยุงเดิน โดยเมื่อคืนนี้ตนได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดว่ามีพระสงฆ์ถูกทำร้ายจึงรีบเข้าไปตรวจสอบ พอเปิดประตูกุฏิเข้าไปก็พบผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นคนเร่ร่อนที่เข้าไปพักอาศัยอยู่ในวัด ยืนอยู่ในกุฏิ ส่วนพระสุดตานอนศีรษะพิงผนังห้องในสภาพใบหน้าบวมปูดและบริเวณสันจมูกเป็นแผล มีเลือดไหลนองพื้นหายใจรวยริน จึงรีบนำพระสุดตาส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ต่อมาพระสุดตาได้มรณภาพลงที่โรงพยาบาลยโสธร เนื่องจากถูกทำร้ายจนหัวแตก สันจมูกเป็นแผล หน้าบวมปูดและปอดฉีกขาด สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นคนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยหลับนอนตามวัดในหมู่บ้าน และยังมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจนมีอาการหลอนอยู่บ่อยครั้ง เคยจุดไฟพยายามเผาอุโบสถในวัดมาแล้วครั้งหนึ่ง และมักจะอาละวาดทำร้ายคนอื่นอยู่เป็นประจำ
จากนั้นช่วงสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่บ้านพักของญาติภายในหมู่บ้านทราบชื่อ นายวันทชาติ แสนจันทร์ อายุ 25 ปี โดยนายวันทชาติ ซึ่งเป็นชายเร่ร่อน มีอาการทางประสาทเนื่องจากเคยใช้สารเสพติดหลายชนิด สารภาพว่าตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก เคยเจอพระสุดตากำลังจูงจักรยานผ่านมา เลยขออาศัยติดรถไปด้วย ขากลับผ่านสะพานพระสุดตาได้จับตนโยนลงน้ำ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำแบบนี้ทำไม รู้สึกเจ็บแค้นฝังใจมาตั้งแต่ครั้งนั้น โดยก่อนจะก่อเหตุได้เฝ้าดูมาเป็นเดือน วันนี้สบโอกาสจึงลงมือกระทำการดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองยโสธร ได้สอบสวนและนำตัวฝากขังเพื่อดำเนินคดีต่อไป