นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นดราม่า คำพูดที่กล่าวว่า โควิดกระจอก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่า การให้สัมภาษณ์ถึงโควิดแต่ละครั้ง ตนมักเน้นย้ำถึงสถานการณ์จริงเสมอ
ทั้งนี้ ก่อนจะพูดคำว่า โควิดกระจอก ได้ ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเห็นภาพว่า คนไทยเข้าใจโควิดดีมาก ให้ความร่วมมือกันภาครัฐ ปฏิบัติตามมาตรการที่ สธ.แนะนำอย่างดี ทำให้การติดเชื้อภายในประเทศ มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2% เท่านั้น กระจอกที่หมายถึงคือ ไวรัสมันทำอะไรคนไทยไม่ได้ หากทุกคนเข้าใจและเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี รู้ว่าจะรับมือโควิดอย่างไร มันก็จะเป็นโรคกระจอก
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า พรรคภูมิใจไทยมีความสามัคคี และเป็นปึกแผ่น วันนี้แสดงความพร้อมว่าจะเข้าสู่สนามเลือกตั้งได้ตลอดเวลา การประชุมครั้งนี้นอกจากเราจะมี ส.ส.มาร่วมประชุมแล้ว ยังมีผู้สมัครหน้าใหม่มาสังกัดพรรคด้วย
ด้านสาเหตุที่มาประชุมใหญ่ที่ จังหวัดนครราชสีมา แม้เราจะมีถิ่นกำเนิดที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อทำพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จนเกิดความเจริญในทุกมิติเป็นที่ประจักษ์แล้ว ในส่วนของ จ.นครราชสีมา โดยถือว่าเป็นเมืองใหญ่ มีส.ส.มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก กทม. อีกทั้งทางพรรคมีฐานการเมืองในพื้นที่โคราชที่แข็งแกร่ง เมื่อได้เป็นรัฐบาลเราก็สร้างผลงาน และมีรัฐมนตรีที่มีพื้นเพเป็นชาวโคราช ส่วนตนเองก็มีบ้านพักอยู่ที่นี่ จึงอยากช่วยกันทำงานให้โคราชเจริญ เมื่อมีโมเดลที่บุรีรัมย์แล้วก็อยากนำมาใช้ที่โคราชต่อไป
ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีวาการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ตอบคำถามกรณี พรรคภูมิใจไทยพร้อมชู นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ ว่า พรรคพร้อมเสนอนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน โดยเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะมีนโยบายเพิ่มมากขึ้น