นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหลักฐานดำเนินคดีกับตำรวจ 3 นาย อ้างเป็นระดับมือซ้ายมือขวาของ “บิ๊กโจ๊ก” เปิดเว็บพนันออนไลน์เครือข่าย “มาเก๊า 888” ตัวจริง
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาญากรรมทางเทคโนโลยี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ 3 นาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ “เครือข่ายมาเก๊า 888” และอื่นๆ โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ที่ตนมาร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ เป็นตำรวจระดับรองผู้บังคับการ ยศ พ.ต.อ. มี 2 คน สังกัดอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. และอีก 1 คน อยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันเปิดเว็บพนันออนไลน์ มีเวินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นเจ้าของเว็บและให้นอมินีดูแลแทน ส่วนตัวเองจะคอยเคลียร์หน้าเสื่อให้ และมีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนได้นำพยานหลักฐานเรื่องเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 และเว็บเครือข่ายอื่นๆ มาให้กับ บช.สอท. นั้น ตอนนี้ได้พบความเชื่อมโยงไปถึงตำรวจทั้ง 3 นาย จึงมาแจ้งความให้เอาผิดเพิ่มเติม แต่ขอยังไม่เปิดเผยว่าหลักฐานดังกล่าวคืออะไร
นายอัจฉริยะ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ตำรวจทั้ง 3 นาย ยังเป็นชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เป็นชุดทำคดีอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีกับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์ผู้ต้องหาพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทด้วย โดยเป็นระดับมือซ้ายมือขวาของบิ๊กโจ๊ก แสดงให้เห็นว่ามีการเลือกปฏิบัติ คนของตัวเองไม่จับกุม แต่ยังเอามาทำคดีอื่น โดยใช้วิธีสกปรก มีลิ่วล้อ
นายอัจฉริยะ ยังระบุต่อว่า ตำรวจชุดนี้มีการแอบอ้างบิ๊กโจ๊ก ว่าได้สั่งการให้ไปอุ้มพยานมาให้การปรักปรำบุคคลต่างๆ ในคดีรีดทรัพย์ 140 ล้าน ซึ่งตนได้พูดคุยกับเหยื่อที่ถูกอุ้ม และถูกบังคับให้ให้การแล้ว ซึ่งเหยื่อรายนี้เป็นคนของนายเป้ ผู้ต้องหาที่ถูกรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท โดยในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย. นี้ ตนจะนำเหยื่อมาแถลงข่าวรายละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นมีการยืนยันว่า กลุ่มของนายเป้ ไม่ได้ต้องการจะแจ้งความตำรวจ สอท. แต่ถูกปั้นพยานเท็จขึ้นมา เพื่อเอาผิดคนที่ไม่ใช่คนของตัวเอง
นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ตนจะดำเนินคดีกับผู้กำกับการ สภ.คูคต ด้วย ที่ปล่อยให้มีคนนอกมาควบคุมการสืบสวนในคดีนี้ ซึ่งตอนนี้ได้ยื่นเรื่องให้ บก.ปปป. ดำเนินการแล้ว คาดว่าจะมีการแจ้งความในสัปดาห์หน้า และตนยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดคดีนี้ จึงต้องมีการไปแจ้งความที่ สภ.คูคต ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดเหตุถูกรีดเงิน หรือพื้นที่ที่นายเป้ถูกจับกุม ซึ่งตนทราบมาว่า บิ๊กโจ๊ก มีเพื่อนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็อาจจะควบคุมคดีได้ง่ายกว่าพื้นที่นครบาล