อาจารย์และนักศึกษา มช.บุกพังประตูรั้วหอศิลป์ เพื่อเข้าจัดงานด้านแสดงศิลปะประจำปี หลังจากถูกปิดกั้น ตัดน้ำ ตัดไฟ จนต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับมหาวิทยาลัยที่ละเมิดสิทธิ์ ขณะที่อาจารย์ทัศนัย ชี้นักศึกษากำลังถูกบีบบังคับให้ถอดใจ สิ่งนี้กำลังเกิดในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
เวลา 13.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่บริเวณหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอาจารย์ ได้มารวมตัวกันเพื่อจะเข้าไปจัดงานด้านใน แต่เนื่องจากประตูถูกปิด และมีการล็อกโซ่ เพื่อไม่ให้มีการจัดงาน ทำให้กลุ่มนักศึกษาและอาจารย์ เกิดความไม่พอใจ ใช้คีมตัดเหล็ก ตัดโซ่คล้องประตูเข้าไปภายในตัวอาคาร เพื่อต้องการจัดงานแสดงศิลปะประจำปี โดยปีนี้ ตั้งชื่อว่า Media Art and design festival
ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 15 ตุลาคม กลุ่มนักศึกษาได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกี่ยวกับการปิดกั้นการแสดงออกของนักศึกษา และมีการงดใช้สถานที่ หลังจากนักศึกษาได้ทำหนังสือร้องขอใช้สถานที่มาก่อนหน้านี้ และการจัดงานครั้งนี้เป็นการจัดต่อเนื่องเป็นประเพณีที่ทำมาทุกๆ ปี การกระทำดังกล่าว จีงเป็นการละเมิดสิทธิ์ของนักศึกษา จนกระทั่งในเช้าวันนี้ จึงได้บุกเข้าไปด้านใน เพื่อจัดงาน
ทั้งนี้ การจัดงานแสดงศิลปะประจำปีนี้ เดิมกำหนดจัดงานทั้งหมด 1 สัปดาห์ และต้องมีการจัดเตรียมสถานที่ในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ แต่เนื่องจากถูกตัดน้ำ ตัดไฟ ทำให้ต้องแก้ไขปัญหาก่อนจะมีการจัดงานแสดงศิลปะ และเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมได้ ขณะที่อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มาร่วมในการชุมนุมครั้งนี้ด้วยให้เหตุผลคล้ายกันว่า เป็นสิทธิ์ของนักศึกษาทไม่ควรถูกปิดกั้น และการแสดงศิลปะไม่ได้ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ส่วนทางด้านคดีความที่มีการตัดโซ่ และบุกเข้ามาภายในสถานที่ก็ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร
รศ.สมชาย ปรีชาศิลปะกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชอบให้เหตุผลว่า จะไม่นำการเมืองมายุ่งเกี่ยวมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่เฉพาะมหาวิทยาลัยแห่งนี้แห่งเดียว แต่หลายมหาวิทยาลัยก็ให้เหตุผลแบบนี้ และเรารู้ดีว่าคำเหล่านี้เป็นคำโกหก เพราะพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นพื้นที่ชุมนุมทางการเมืองก่อนการรัฐประหารปี 2557 จึงคิดว่าทางมหาวิทยาลัยควรเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นของผู้คนกลุ่มต่างๆ อย่างเสรี จะเป็นฝ่ายไหนก็ได้ สิ่งนี้เป็นหน้าที่ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่การปิดกั้นฝ่ายที่ตนไม่เห็นด้วย มหาวิทยาลัยควรสร้างความงอกงามทางปัญญา ไม่ใช่แค่งานด้านศิลปะ แต่เป็นความเห็นทางด้านงานวิชาการต่างๆ มหาวิทยาลัยควรเปิดกว้าง
ด้าน ผศ.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ภาควิชาสื่อศิลปะ และการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การห้ามนักศึกษามาจัดงานศิลปะในครั้งนี้ โดยทางมหาวิทยาลัยได้อ้างถึงประกาศของมหาวิทยาลัยฯ เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา เพื่อให้นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้งหมดจัดกิจกรรมทางการเมืองได้ยากมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายต่อสังคม ไม่เกิดความเสียหายต่อศีลธรรมอันดีงาม
“สิ่งนี้คือที่เขาไปอ้างอิงกับระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งผมก็ถามว่าศิลปะจะทำให้เกิดความวุ่นวายต่อสังคมและการเมือง หรือทำให้เกิดความเสื่อมทรามต่อศีลธรรมอันดีงามอย่างไร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา จนนำมาสู่การล็อกประตูไม่ให้มีการจัดงานด้านศิลปะของนักศึกษา การตัดน้ำ ตัดไฟในที่ดังกล่าว จนนำมาสู่การแจ้งความของนักศึกษาที่มีต่อมหาวิทยาลัยที่ละเมิดสิทธิ์ และละเว้นเรื่องของการปฏิบัติ แต่ที่จริงเป็นเรื่องปกติของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นประจำซ้ำๆ ทุกวัน แต่คนที่ได้รับกระทบเหล่านั้นไม่เคยออกมามีปากเสียง เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในชั้นเรียน เกิดขึ้นกับการตรวจวิทยานิพนธ์สาขาต่างๆ ที่ทำให้นักศึกษาถอดใจในเรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรมอันดี และสังคมทางการเมือง มีอยู่ตลอดเวลา สโมสรนักศึกษาซึ่งเป็นสโมสรกลางก็กำลังฟ้องร้องกันอยู่ ขณะที่สโมสรคณะวิจิตรศิลป์ มช. ทางนายกสโมสรจะโพสต์อะไรจะต้องเอาเนื้อหานั้นให้กับทางคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาตรวจสอบก่อน เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทุกวัน และกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศด้วย เหตุการณ์แบบนี้จะเหมือนกับภูเขาไฟที่มีลาวาใต้ผิวดิน จะปะทุขึ้นมาอีก”