แรงงานเถื่อนลอตใหญ่ทะลักเข้าไทยทางชายแดนอ.พบพระ จ.ตาก ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 สกัดจับได้ขณะลักลอบข้ามแดนจะไปหัวเมืองชั้นในมากถึง 184 คน พบทำเป็นขบวนการใหญ่กินค่านายหน้า เร่งสอบขยายผล
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 25 พ.ย. พันเอก ณรงศ์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 สั่งการให้พันโท สุริยา ผาสุก ผบ.บก.ควบคุม ฉก.ร.14 นำกำลังทหารชุดกองร้อย ร.1413 เข้าลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลมติดแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา ที่ท้ายหมู่บ้านห้วยน้ำนักช่วงป่ามะขาม หมู่ 4 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ตามแผนการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศ
เวลาต่อมาเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวภายในป่ารกทึบและเป็นการเคลื่อนไหวที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก กำลังทหารจึงรีบเข้าไปปิดล้อมเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เป้าหมาย พบว่าในป่ารกทึบมีกลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวน 184 คน เป็นชาย 111 คน และหญิง 73 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา นั่งนอนหลบซ่อนตัวอยู่ในความมืด ซึ่งแต่ละคนต่างมีกระเป๋าสัมภาระในการเดินทางมาคนละ 1 ใบ หลายคนอยู่ในสภาพหนาวสั่นจากอากาศที่หนาวเย็นและอิดโรยจากการลักลอบเดินเท้าข้ามแนวชายแดนเข้ามาเป็นระยะทางไกล
สอบถามทราบว่า มารวมตัวกันเพื่อจะรอทีมนายหน้ามารับขึ้นรถยนต์ไปส่งในพื้นที่ชั้นใน เจ้าหน้าที่ทหารจึงต้องให้แรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดกระจายตัวแยกออกจากกันเพื่อลดความแออัด และเข้าตรวจสอบด้วยความระมัดระวัง จากนั้นประสานขอกำลังฝ่ายปกครองอำเภอพบพระและตำรวจให้มาร่วมควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายไปสอบสวนสภ.พบพระ ขยายผลในเชิงลึก
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมดจำนวน 184 คน มีนายหน้าฝั่งพม่าและนายหน้าฝั่งประเทศไทยร่วมกันนำเข้าทางเรือข้ามแม่น้ำเมยแล้วลักลอบข้ามเข้ามาในพื้นที่อำเภอพบพระ โดยทำกันเป็นขบวนการใหญ่ ซึ่งแรงงานแต่ละคนต้องจ่ายค่านายหน้าสูงถึงหัวละ 20,000 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือนำพาไปส่งที่หัวเมืองชั้นใน และกรุงเทพฯ ซึ่งมีความต้องการแรงงานเข้าไปทำงานในช่วงขาดแคลนแรงงาน ล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอพบพระ อยู่ระหว่างตรวจแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่ถูกจับเพื่อหาเชื้อโควิด-19