“เกาหลีเหนือ” ยอมรับ! มีผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศ ป่วยไข้สูงไม่รู้สาเหตุกว่า 3.5 แสนราย ส่อเกิดหายนะ

  • เกาหลีเหนือยอมรับครั้งแรกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ พร้อมเปิดเผยมีผู้ป่วยไข้สูงโดยระบุสาเหตุไม่ได้กว่า 3.5 แสนรายตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน
  • การระบาดของโควิด-19 ในเกาหลีเหนือทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ และชุดตรวจโรคไม่เพียงพอ
  • เกาหลีเหนือยังมีปัญหาขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์มาอย่างยาวนาน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ระบบสาธารณสุขของพวกเขาอาจรับมือผู้ป่วยจำนวนมากไม่ไหว

เกาหลีเหนือออกมายอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค. 2565 ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ การระบาดกำลังปะทุอย่างรวดเร็ว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ศพ และพบผู้มีอาการไข้ด้วยสาเหตุที่ไม่อาจระบุได้มากกว่า 350,000 รายนับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน โดยที่เปียงยางไม่ยืนยันว่า คนป่วยกลุ่มนี้เป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่

ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) สื่อหลักของเกาหลีเหนือ ในบรรดาผู้ป่วยดังกล่าว มีถึง 18,000 รายที่พบเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.2 และมีผู้ที่กำลังถูกแยกกักตัว 187,800 คน

การยอมรับว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของเกาหลีเหนือ และการพบผู้ป่วยจำนวนมากดังกล่าว ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจเกิดวิกฤติด้านสาธารณสุขในประเทศลับแลแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่ามีโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณสุขทรุดโทรม ไม่น่าจะรับมือผู้ป่วยจำนวนมากได้ และไม่มีข้อมูลเลยว่าพวกเขาได้นำเข้าวัคซีน หลังปฏิเสธวัคซีนจากโครงการ COVAX

ฉีดวัคซีนน้อย ส่อเกิดหายนะ

จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ (WHO) เกาหลีเหนือกับเอริเทรีย เป็นเพียง 2 ประเทศในโลกที่ยังไม่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19

รัฐบาลเปียงยางยังปฏิเสธรับวัคซีนแอสตราเซเนกาและซิโนแวคจำนวนหลายล้านโดสที่โครงการแบ่งปันวัคซีนทั่วโลก COVAX และจีนเสนอจะจัดส่งให้ ทำให้ไม่มีหลักฐานใดเลยที่บ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือเข้าถึงวัคซีนได้มากพอสำหรับปกป้องประชาชนของพวกเขาจากโควิด-19 แม้แต่ คิม จอง-อึน ก็อาจไม่ได้รับวัคซีนเช่นกัน ตามการเปิดเผยของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เมื่อกรกฎาคมปีก่อน

เกาหลีเหนืออ้างว่าพวกเขาสามารถผลิตอุปกรณ์ตรวจเชื้อแบบ PCR ไว้ใช้งานเองได้แล้ว ขณะที่รัสเซียก็เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่าได้ส่งชุดตรวจโรคจำนวนหนึ่งไปให้ด้วย แต่เนื่องจากรัฐบาลเปียงยางถูกคว่ำบาตรอย่างหนักจากนานาชาติ กอปรกับพวกเขาปิดพรมแดนของตัวเองตั้งแต่ปี 2563 ทำให้การขนส่งอุปกรณ์และเสบียงหลายอย่างทำได้อย่างจำกัด

ข้อมูลล่าสุดของ WHO ชี้ว่า จนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือตรวจโควิดประชาชนได้เพียง 64,207 รายเท่านั้น ทำให้ ดร.คี พาร์ก จากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ไม่เชื่อว่า เปียงยางจะสามารถรับมือผู้มีอาการป่วยจำนวนมากได้ “เกาหลีเหนือตรวจประชาชนแค่ราว 1,400 รายต่อสัปดาห์ สมมติว่านั่นคือขีดความสามารถสูงสุดของพวกเขาแล้ว เท่ากับว่า พวกเขาตรวจได้มากสุดวันละ 400 ครั้งเท่านั้น ไม่ใกล้เคียงเลยสำหรับตรวจผู้ป่วยมีอาการถึง 350,000 คน”

ตอนนี้คิม จอง อึน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง และสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อแล้ว แต่เขาไม่เคยออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากป้องกันโควิดมาก่อน หลักฐานคือภาพจากงานอีเวนต์ใหญ่หลายครั้งที่ไม่มีใครสวมหน้ากากเลย และตัวนายคิมเอง ก็เพิ่งปรากฏตัวโดยสวมหน้ากากเป็นครั้งแรกในการประชุมรับมือโควิด-19 เมื่อวันพฤหัสบดี


ทรัพยากรการแพทย์ไม่พร้อม

ตามดัชนีความมั่นคงทางสาธารณสุขโลก (Global Health Security Index) ที่เปิดเผยในเดือนธันวาคม เกาหลีเหนือถูกจัดให้อยู่ลำดับสุดท้ายในเรื่องขีดความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็ว และลดการแพร่กระจายของโรคระบาด แม้ว่าเกาหลีเหนือจะมีแพทย์จำนวนมาก และสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน แต่ปัญหาคือ พวกเขาขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์เรื้อรังมานาน

WHO ระบุเอาไว้ในรายงานยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเกาหลีเหนือและองค์การอนามัยโลกปี 2557-2562 ว่า ทุกหมู่บ้านในเกาหลีเหนือจะมีคลินิกหรือโรงพยาบาลอยู่ 1-2 แห่ง โรงพยาบาลส่วนใหญ่ในประเทศมีเครื่องเอกซเรย์ แต่อาจใช้การไม่ได้

นายควอน ยอง-เซ ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติคนใหม่ของเกาหลีใต้ ระบุในการให้ปากคำต่อสภาเพื่อรับรองตำแหน่งเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า เกาหลีเหนืออาจขาดแคลนกระทบทรัพยากรการแพทย์พื้นฐานอย่าง ยาแก้ป่วย และยาฆ่าเชื้อ

ส่วนรายงานของเจ้าหน้าที่สืบสวนด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ระบุว่า ปัญหาเรื้อรังมากมายกำลังกัดกินระบบสาธารณสุขของเกาหลีเหนือ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ลงทุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเท่าที่ควร, ด้านบุคลากรทางการแพทย์, อุปกรณ์และยา, ปัญหาการจ่ายพลังงานไฟฟ้า, การขาดแคลนน้ำและสุขอนามัย

ด้านนาย แท ยัง-โฮ ชาวเกาหลีเหนือผู้แปรพักตร์มาเกาหลีใต้เมื่อปี 2559 และตอนนี้เป็นสมาชิกรัฐสภา ระบุว่า หนึ่งในหลักฐานที่ชัดเจนว่าระบบสาธารณสุขของประเทศกำลังมีปัญหาคือคำพูดของคิม จอง อึน “คิมสั่งให้ระดมทรัพยากรการแพทย์สำรอง หมายความว่าตอนนี้พวกเขาจะใช้ทรัพยากรที่สงวนไว้กรณีเกิดสงคราม และหมายความว่าโรงพยาบาลต่างๆ ไม่มียาเหลือแล้ว”

นานาชาติพร้อมช่วยเหลือ

หลังเกาหลีเหนือประกาศพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มหามิตรของพวกเขาอย่างจีนก็ออกมาบอกทันทีว่าพวกเขาพร้อมให้ความช่วยเหลือ “ในฐานะสหาย, ประเทศเพื่อนบ้าน และมิตร จีนพร้อมเสมอที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อสาธารณรัฐประชาชนประชาธิปไตยเกาหลี ในการต่อสู้กับโรคระบาดของพวกเขา” นายจ้าว หลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศระบุ

อย่างไรก็ตาม จีนกำลังต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ในประเทศของตัวเอง ทำให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติออกมาเรียกร้องให้ทางการมณฑลจี้หลิน ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับเกาหลีเหนือ เพิ่มการตรวจสอบด้านสาธารณสุขมากขึ้น

ส่วนเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขากำลังหารือร่วมกับประชาคมนานาชาติ ว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยชนแก่เกาหลีเหนืออย่างไร โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายโทรศัพท์คุยกันในวันศุกร์ และว่าพวกเขาพร้อมที่จะพูดคุยกับรัฐบาลเปียงยางในเรื่องนี้

ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี

ที่มา : CNA, CNN

กราฟิก : Sathit Chuephanngam