เด้ง 40 ตำรวจทางหลวง ช่วยราชการ ศปก.บก.ทล. เซ็นคำสั่งพรุ่งนี้ หลังพัวพันส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก
วันนี้ (8 มิ.ย. 66) ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกตำรวจทางหลวง ว่า วันนี้มีประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่ง ผบช.ก. ได้กำชับ ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อกอบกู้เกียรติและศักดิ์ศรีของตำรวจทางหลวงคืนมา
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการกำชับให้เร่งดำเนินการทางปกครองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่เข้าไปเกี่ยวข้อง จากพยานหลักฐาน รวมทั้งการสืบสวนทางลับ และ ข้อมูลพาดพิงที่ได้รับจากผู้ประกอบการ คาดว่ามีตำรวจที่เกี่ยวข้องพัวพันส่วยสติกเกอร์อยู่ประมาณ 35-40 นาย ตั้งแต่ระดับชั้นประทวนไปจนถึงระดับชั้นสัญญาบัตร
โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการเซ็นคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.บก.ทล. อย่างเป็นทางการ ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือ ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ตามหลักฐานข้อเท็จจริง เพราะถึงเวลาแล้วที่ตำรวจทางหลวงจะต้องปัดกวาดบ้านตัวเอง
ส่วน กรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องเรียนให้ตรวจสอบ อดีต ผบก.ทล. เกี่ยวกับเรื่องอมเงินเบี้ยเลี้ยงลูกน้องนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนนี้คงเป็นหน้าที่ของทางตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมสรรพสามิตโทรศัพท์มาเจรจาไกล่เกลี่ยให้ปล่อยรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่ถูกจับในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นั้น ทราบว่าขณะนี้ทางอธิบดีกรมสรรพสามิต ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประสานอัปเดตข้อมูลการตรวจสอบถึงกัน เพราะต้องการทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส ผิดถูกว่ากันตามพยานหลักฐาน และขอให้สังคมเชื่อใจว่าจะไม่มีการหมกเม็ดใดๆ