เหยื่อ “แอม” เล่านาทีชีวิต ให้กินยาสมุนไพรอ้างรักษาโควิด ได้เบาะแสใหม่ พี่สาวเป็นเภสัชกร ไม่ชัดรู้เห็นเรื่องไซยาไนด์
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุภายหลังการประชุมคดี นางสรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาคดีวางยาฆ่าผู้อื่น นานกว่า 1 ชั่วโมงว่า จากการข้อมูลที่เข้าไปสอบสวนเหยื่อที่รอดชีวิตในวันนี้ พบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2565 ตอนนั้นเหยื่อรายนี้ เพิ่งหายป่วยจากโควิด ก่อนที่นางแอมจะเอายามาให้กิน โดยอ้างว่า “ที่บ้านทำสมุนไพรและพี่สาวก็เป็นเภสัช เปิดร้านขายยา” นางแอมจึงนำยาที่เป็นแคปซูลให้กิน 1 เม็ด โดยยังย้ำอีกว่า “เป็นยาสมุนไพรรักษาอาการโควิด”
แต่หลังจากนั้นไม่เกิน 20 นาทีหลังจากเหยื่อรายนี้กินเข้าไปแล้ว นางแอมก็ได้นัดให้เหยื่อไปเจอที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยต่างคนก็ต่างเอารถไป แต่ในจังหวะเดียวกัน เหยื่อได้ออกมาขึ้นรถแล้วปรากฏว่า เกิดอาการหายใจไม่ออก และพยายามสูดลมหายใจแล้ว แต่อาการไม่ค่อยดี หนำซ้ำมือยังแข็ง จึงได้โทรศัพท์ไปหานางแอมบอกว่า “รู้สึกไม่ไหว ขอให้มาช่วยดูหน่อย” แต่นางแอมกลับบอกว่า “ตอนนี้หลงทาง ไปผิดเส้นทาง” ทำให้เหยื่อจอดรถ และรีบโทรศัพท์หาเบอร์ 1669 ทันที โชคดีที่รถฉุกฉินมาเร็ว ทำให้เหยื่อยังลงจากรถได้ ก่อนรีบเดินขึ้นรถฉุกเฉินไป
จากนั้นเหยื่อได้หมดสติภายในรถแอมบูแลนซ์ และหัวใจหยุดเต้น ซึ่งตอนนั้นเหยื่อเสียชีวิตไปแล้ว แต่พอถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจ จนสามารถยื้อชีวิตและหัวใจกลับมาเต้นตามปกติ โดยตอนแรกเหยื่อเองก็รู้สึกลังเลใจและไม่เชื่อว่านางแอมจะทำกับตัวเขาได้ เพราะยังคิดว่าอาจจะแพ้สารบางตัวหรือไม่ แต่พอมาเห็นข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแวดล้อมที่เป็นเจ้าหนี้นางแอมเจอเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวและได้เข้ามาให้การ จึงเชื่อว่าตัวเองถูกวางยาจากฝีมือนางแอม
ขณะเดียวกันเหยื่อรายนี้เองก็ไม่ได้มีผลตรวจอย่างละเอียด เพราะตอนแรกไม่ได้ติดใจสาเหตุที่เกิดขึ้นและพอปั๊มหัวใจจนฟื้นคืนชีพ ก็เลยคิดว่าปลอดภัยแล้ว จึงไม่ทันได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยความสำคัญของเหยื่อรายนี้รู้จักกับนางแอมและเป็นภรรยานายตำรวจเหมือนกัน รวมถึงสามีของทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ส่วนข้อมูลพี่สาวที่นางแอมบอกว่าเป็นเภสัชอยู่ในพื้นที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ล่าสุดได้สั่งให้ชุดสืบสวนไปค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ร้านขายยาดังกล่าวแล้ว ว่ามีความเชื่อมโยงกับนางแอมหรือไม่ เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยว่า นางแอมน่าจะเรียนรู้เรื่องของยามาจากพี่สาว ขณะเดียวกันยังได้ให้ชุดสืบสวนค้นแฟลตตำรวจ บ้านที่เกี่ยวข้องกับนางแอม และรถยนต์ทั้งหมดด้วยในวันนี้
อย่างไรก็ตามยอดของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ รวมทั้งหมด 11 ศพ (พื้นที่ จ.อุดรธานี / นครปฐม / ราชบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี) และมีผู้รอดชีวิต 1 ราย ซึ่งล่าสุดเพิ่งทราบข้อมูลว่ามีผู้ที่รอดชีวิตและเกี่ยวข้องกับนางแอมเพิ่มอีกหนึ่งรายอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นลักษณะคล้ายกันเหมือนทุกเคส แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด อยู่ระหว่างเรียกเข้ามาสอบปากคำ
ทั้งนี้ยังมีผลรายงานจากแพทย์ที่ผ่าชันสูตรศพเคสในจังหวัดนครปฐม 1 ใน 3 ราย ซึ่งเป็นเคสของ สารวัตรปู พบสาร “ไซยาไนด์” ในเลือดของผู้เสียชีวิต ทำให้เป็นพยานหลักฐานในการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 1 คดีด้วย หลังจากก่อนหน้านี้พบสารดังกล่าวที่เคสในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง