เร่งล่าตัวอดีตดาบตำรวจ โยนระเบิดข่มขวัญเพื่อนบ้าน 7 ลูกซ้อน คาดหนีไปไม่ไกล ค้นห้องพักพบยุทธภัณฑ์ภาคสนามทั้ง หมวกเหล็ก เสื้อเกราะกันกระสุน ซองใส่ปืนลูกซองยาว และลูกกระสุน กระสุนปืนเอ็ม 16 และยาบ้าเกือบ 100 เม็ด
จากกรณีอดีตดาบตำรวจ กก.สืบสวน จังหวัดอุบลราชธานี ใช้ระเบิดซ้อมขว้างข่มขู่เพื่อนบ้าน ซึ่งมีคดีฟ้องร้องพฤติกรรมเจ้าตัวชอบระรานยิงปืน ใช้ระเบิดควันปาเข้าบ้านเมื่อหลายปีก่อน กระทั่งถูกออกจากราชการ และมาก่อเหตุโยนระเบิดซ้ำอีกเมื่อคืนถึง 7 ลูกซ้อน โดยระเบิดทำงาน 6 ลูก อีก 1 ลูกด้านนั้น
ความคืบหน้าช่วงสายวันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.วารินชำราบ พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเข้าทำการเก็บกู้ระเบิดชนิดมือขว้าง M67 ที่ยังไม่ระเบิดอีก 1 ลูก นำไปทำลายทิ้งกลางทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านแมด ต.เมืองศรีไค อ.วารินชำราบ พร้อมเก็บหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเป็นกระเดื่องนิรภัยของระเบิด และสเก็ดระเบิดที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ รวมทั้งตามหลังคาของบ้านเกิดเหตุ
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษี รองผู้กำกับการสืบสวน นำชุดสืบสวนทั้งของพื้นที่ สภ.วารินชำราบ และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและอาวุธครบมือเข้าตรวจค้นในบ้านของนายสิรภพ หรืออดีตดาบตำรวจสิรภพ วงมาเกษ อายุ 42 ปี อดีตตำรวจสังกัดกองบังคับการสืบสวนจังหวัดอุบลราชธานี ที่อยู่คนละฝั่งกับบ้านนายวิวัฒน์ ถิ่นถาวร อายุ 40 ปี ซึ่งถูกปาระเบิดเข้าใส่ ซึ่งขณะชุดสืบสวนจู่โจมเข้าตรวจค้นทราบว่า นายสิรภพผู้ก่อเหตุที่พักอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว ได้หลบหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืน
นายธงชัย วงมาเกษ อายุ 67 ปี บิดาของผู้ก่อเหตุที่มีบ้านอยู่อีกแห่งในชุมชน จึงได้นำชุดสืบสวนเข้าค้นในบ้านเและห้องพักของนายสิรภพ พบยุทธภัณฑ์ภาคสนามทั้ง หมวกเหล็ก เสื้อเกราะกันกระสุน ซองใส่ปืนลูกซองยาว และลูกกระสุน บ้านเลขที่ 279 หมู่ที่ 5 ตำบลศรีไค อำเภอวารินชำราบ พบปืนพกสั้นขนาด .357 และลูกกระสุน รวมทั้งกระสุนปืนเอ็ม 16 กระสุนขนาด .38 9 มม. ที่เก็บไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้า และยาบ้าเกือบ 100 เม็ด พร้อมป้ายทะเบียนรถยนต์อีก 4 แผ่นป้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามกดดันไปที่บ้านนางสุภาพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 72 ปี ป้าของนายสิรภพ ห่างจากหมู่บ้านเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยของผู้ต้องหา
จากการสอบถามนางสุภาพร เล่าว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มาที่บ้านตนนานหลายสัปดาห์แล้ว และเมื่อคืนก็ไม่ได้มาพักอยู่ที่นี่แต่อย่างใด หากพบตัวหลานชาย ก็จะแนะนำให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพราะหลบหนีอย่างไรก็หนีไม่รอด จึงต้องมารับกรรมกับสิ่งที่ได้ทำไป และการมีพฤติกรรมอย่างนี้ ทำให้ลูกเมียอยู่ด้วยไม่ได้ มีผู้หญิงใหม่ก็อยู่ด้วยไม่ได้อีก
ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่มีการจัดชุดสืบสวนออกติดตามไปยังจุดที่คาดนายสิวภพจะไปหลบซ่อนกับคนรู้จัก พร้อมทั้งมีการประสานให้ครอบครัวติดต่อบอกล่าวให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี อย่าได้คิดหลบหนี ส่วนที่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้ยุทธวิธีของตำรวจ และอาจมีอาวุธ ก็ได้กำชับให้ชุดติดตามไล่ล่าเมื่อจะเข้าจับกุม ให้ยกระดับความพร้อมการป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้ได้รับอันตราย จึงขอแจ้งให้ผู้ก่อเหตุติดต่อเข้ามอบตัวต่อสู้ตามกระบวนการทางศาลจะดีกว่า
ด้านคนรู้จักของนายสิรภพ เล่าว่า ปกติถ้าไม่กินเหล้า เสพยา ก็จะเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ถ้าได้กินเหล้าและเสพยาเข้าไป จะกลายเป็นคนละคน มีอารมณ์ฉุนเฉียวด่ากราดคนไปทั่ว และที่ก่อเหตุขึ้นแต่ละครั้ง ก็เชื่อว่ามาจากอาการหลอนยาเสพติดที่เสพเข้าไป
ภาพ/ข่าว- เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงค์ สำนักข่าวเนชั่น จ.อุบลราชธานี