เลือกตั้ง อบต. เมืองคอนเดือด คนร้ายดักยิงผู้สมัครนายก อบต.ควนชุม แขนทะลุอาการสาหัส แต่ยังฮึดสู้ยิงสู้ไป 1 นัด “ผู้การฯ” ตำรวจท้องที่เร่งลงตามคดีล่ามือยิง คาดปมขัดแย้งส่วนตัวกับการเมืองท้องถิ่นในช่วงโค้งท้าย ขณะที่ ต.ปากนคร หัวคะแนนชักปืนข่มขู่กัน ผกก.ต้องเรียกทั้งสองฝ่ายมาหย่าศึก
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 64 พ.ต.อ.สงบ จันทร์สิงห์ ผกก.สภ.ร่อนพิบูลย์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไล่ยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ริมถนนสายบ้านปัง-ทุ่งเลน หมู่ 4 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจในพื้นที่รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อเร่งทำการสืบสวนสอบสวนและรีบนำร่างคนเจ็บส่ง รพ.ร่อนพิบูลย์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนวิ่งผ่านกลางทุ่งนา พบร่างคนเจ็บชื่อนายชัยยุทธ แก้วบุญทอง อายุ 49 ปี ผู้สมัครนายก อบต.ควนชุม หมายเลข 1 หน.ทีมพลังควนชุมประชารัฐ และยังเป็นอดีตนายก อบต.ควนชุม คนเก่า นอนเจ็บร้องครวญครางริมถนน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน พกสั้นขนาด 11 มม. เข้าแขนซ้ายทะลุเป็นแผลฉกรรจ์กระดูกแตกเลือดไหลอาบ ซึ่ง จนท.กู้ภัยในพื้นที่ได้รีบนำร่างนายชัยยุทธ ส่ง รพ.ร่อนพิบูลย์ เพื่อช่วยเหลือทำบาดแผลในเบื้องต้นแล้วจนพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องนอนรักษาตัวใน รพ.ต่อไป และในที่เกิดเหตุ จนท.พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน 1กฒ-5350 นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บเสียหลักตกลงไปในคูน้ำริมถนน โดยในที่เกิดเหตุ จนท.พบปลอกกระสุนปืน 11 มม. ตกอยู่จำนวน 1 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป
ช่วงเกิดเหตุขณะที่ นายชัยยุทธ ผู้บาดเจ็บกำลังขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว เพื่อออกไปหาเสียงเพียงลำพังคนเดียวตามปกติ และไปหาหัวคะแนนปรากฏว่าคนร้ายขี่รถ จยย.ไล่ตามเข้าประกบยิงจำนวน 1 นัดได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว แต่โชคดีกระสุนเจาะแขนทะลุจนกระดูกแตก โดยนายชัยยุทธ พยายามขี่รถจักรยานยนต์พุ่งลงไปในคูน้ำข้างทางและมีชาวบ้านขับรถผ่านมาพอดี ทำให้มือปืนเร่งเครื่องรถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็วทันที ทำให้รอดพ้นจากการถูกยิงซ้ำหวุดหวิด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิต รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุด้วยตนเอง โดยระบุสาเหตุเบื้องต้นน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องการเมืองท้องถิ่นที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนคลี่คดีและทาง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช จะได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนเพื่อเร่งคลี่คดีติดตามจับกุมคนร้ายต่อไปในเร็วๆ นี้เพื่อจับให้ทันก่อนถึงวันเลือกตั้ง อบต. 28 พ.ย.นี้
ส่วนในพื้นที่เลือกตั้ง อบต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.มณเฑียร เบ้าทอง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุหัวคะแนนเลือกตั้งนายก อบต.ปากนคร มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันและมีการชักปืนข่มขู่กัน จึงสั่งการให้กำลังตำรวจเข้าไปตรวจสอบระงับเหตุ และพบว่าทั้งสองฝ่ายเดินทางมาโรงพัก และแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้ามในข้อหาทำร้ายร่างกาย และชักอาวุธปืนข่มขู่แก่กัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ทั้งสองฝ่ายเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ในขณะที่ ผกก.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เชิญทั้งสองฝ่ายเขาพบและเจรจาทำความเข้าใจขอให้หาเสียงตามกรอบกฎหมาย อย่าให้เกิดการทะเลาะวิวาทและทำผิดกฎหมาย โดยตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด พร้อมรายงานเหตุการณ์ให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ทราบ
โดยล่าสุด ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สั่งกำชับให้ตำรวจทุกโรงพักที่มีการแข่งขันเลือกตั้ง อบต.ให้จัดกำลังตำรวจออกตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวดกวดขัน ในพื้นที่ใดมีแนวโน้มการแข่งขันสูงและมีแนวโน้มจะนำไปสู่ความรุนแรงให้เรียกทั้งสองฝ่ายมากำชับให้หาเสียงกันในกรอบระเบียบกฎหมาย พร้อมมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช จัดกำลังตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ลงไปประจำในทุกพื้นที่เพื่อช่วยเหลือตำรวจเจ้าของพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
จากนั้น พล.ต.ต.สมชาย เผยว่า ได้ส่งตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ และ จนท.ตำรวจชุดอีโอดี ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ปรากฏว่าพบปลอกกระสุน 11 มม. เพิ่มอีก 2 ปลอก รวมเป็น 3 ปลอก บนถนน 1 ปลอก และริมถนน 2 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป โดยจากการสอบปากคำนายชัยยุทธ คนเจ็บ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะขี่รถ จยย.ไปตามถนนสายดังกล่าวเพียงลำพังคนเดียว เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้สังเกตเห็นคนร้าย 2 คนจอดรถอยู่ใต้ต้นแคริมถนน เมื่อตนขับผ่านไปคนร้ายก็ขี่รถ จยย.ไล่ตาม ใช้ปืน 11 มม. ยิงใส่ 2 นัด กระสุนพลาด 1 นัด และเจาะแขนซ้ายทะลุ 1 นัด ทำให้ตนตัดสินใจขี่รถ จยย.ลงคูน้ำริมถนน แล้วชักอาวุธปืน 11 มม. ออกมายิงสวนสู้กับคนร้าย 1 นัด แต่กระสุนไม่ถูกคนร้าย เป็นจังหวะพอดีที่มีรถชาวบ้านแล่นมาด้วย ทำให้คนร้ายทั้งสองคนตัดสินใจเร่งเครื่องหลบหนีไปท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก.