“เศรษฐา” โต้ไม่รู้เงื่อนไขตั้งรัฐบาล ต้องมีก้าวไกล และไม่เอา “ประวิตร” รอวงเจราจา 8 พรรค เคาะชื่อเสนอนายกฯ เมินโดนแฉซ้ำรอย “พิธา” มั่นใจบริสุทธ์
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการประชุมระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ในเรื่องการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ว่า ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ทราบว่าต่างฝ่ายต่างยังไม่ได้ข้อสรุปกัน และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการเพื่อไทยจะเป็นผู้ชี้แจง สำหรับการเคาะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี จากฝั่งพรรคเพื่อไทย ภายในวันที่ 25 ก.ค. นี้ จะถือว่าช้าไปหรือไม่ นายเศรษฐามองว่าไม่ช้าไป เพราะโหวตวันที่ 27 และตนขอให้เกียรติทั้ง 8 พรรค ที่ทำงานร่วมกันมาก่อน และพรรคอันดับ 1 เขาต้องกลับไปเจรจากัน
ส่วนกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาขู่ว่าจะแฉผ่านสื่อช่องทางต่างๆ เสมือนเป็นการแบลคเมย์ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าเป็นการแบลคเมย์ มันแรงไป แต่ตนเองก็ทำธุรกิจมานาน เรามั่นใจว่าที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดี ไม่มีอะไร และเมื่อถามย้ำว่า ไม่กังวลที่จะถูกแฉ หรือโดนเหมือน นายพิธา กำลังเผชิญอยู่ ณ ขณะนี้ หรือไม่ นายเศรษฐา ยิ้ม อยู่พักใหญ่ และบอกว่า ที่ผ่านมาเขาก็แฉตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ตนก็เข้าใจว่ามาอยู่ตรงนี้ ก็ต้องระมัดระวังเป็นธรรมดา ตนมั่นใจในความบริสุทธ์ของตัวเอง และยังไม่ทราบว่าจะแฉเรื่องอะไร สำหรับความพร้อมในการแสดงวิสัยทัศน์ ในการเป็นนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา บอกว่า ขอให้คอยอีกสักหน่อย เรายืนยันให้เกียรติพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
สำหรับกรณีรายงานข่าวของสื่อหลายสำนัก ถึงรายงานข่าวว่า สเปคการจัดตั้งรัฐบาลของนายเศรษฐา หากได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี คือ ต้องมีพรรคก้าวไกล ไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ และประชาธิปัตย์ เนื่องจากเคยขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และสามารถมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ แต่ไม่มี พล.อ.ประวิตร ในรัฐบาล รวมถึงเรื่องสเปคของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ต้องเป็นคนที่ภาพลักษณ์ และทำงานได้ นายเศรษฐา ตอบเรื่องนี้ว่า ไม่รู้ เป็นข่าวลือหรือเปล่า ขอให้คอยสักนิด ให้ 8 พรรคเขาไปคุยกัน และสรุปเป็นบรรทัดฐานออกมา และแถลงพร้อมกันดีกว่า ตอนนี้เรายังไม่อยากไปพูดถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขแบบนั้น และมันเป็นรัฐบาลผสม ขอให้รอความชัดเจนอีกทีก็แล้วกัน
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :Tummanoon Amatmontree