เกิดเหตุดินถล่มบริเวณเหมืองหยกทางตอนเหนือของพม่า ส่งผลให้มีผู้สูญหายอย่างน้อย 70 ราย ตาย 1 ศพ
เกิดเหตุสลดในเหมืองหยกของเมียนมาส่งท้ายปี เมื่อเกิดเหตุดินถล่มที่เหมืองหยกในเมืองผากั้น รัฐคะฉิ่นทางตอนเหนือของประเทศในช่วง 04.00 น.-05.30 น.ของวันนี้ (22 ธ.ค.64) โดยมีรายงานผู้สูญหายอย่างน้อย 70-100 คน และยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ
เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยระบุว่า เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 7.00น.และเร่งนำผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 25 รายส่งโรงพยาบาล โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกราว 200 คน กำลังเร่งค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย โดยมีการใช้เรือเข้าค้นหาผู้สูญหายที่อาจจมอยู่ใต้ทะเลสาบที่อยู่ใกล้เคียง
อุบัติเหตุดินถล่ม และอุบัติเหตุในเหมืองที่เมืองผากั้นจนมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นบ่อยครั้งในเมียนมา เนื่องมาจากไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยในการดูแลเหมือง โดยมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยมักจะไปขุดหาแร่หยกด้วยตัวเองเพื่อจะนำไปส่งขายให้ประเทศจีน ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากผลกระทบของโควิด-19 และการทำรัฐประหาร ยิ่งทำให้มีชาวบ้านอพยพเข้ามาทำเหมืองกันมากขึ้น
โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินปากเหมืองหยกของบริษัทตองหนึ่ง (111) ในหมู่บ้านเหว่ข่า อำเภอผากั้น ถล่มทับคนงานที่อยู่ด้านล่าง จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 172 ราย บาดเจ็บอีก 54 ราย นับเป็นโศกนาฏกรรมเหมืองถล่มที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเมียนมา ส่งผลให้ทางการรัฐคะฉิ่นต้องสั่งระงับการทำเหมืองหยกทุกแห่งในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หลังการรัฐประหารเมื่อ 1 กุมภาพันธ์เจ้าของสัมปทานเหมืองหยกหลายแห่งของผากั้น ได้สั่งให้คนงานกลับเข้าไปขุดหาหยกได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ เมียนมาเป็นแหล่งผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยคิดเป็นปริมาณถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เมืองผากั้น โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า บริษัทที่ได้สัมปทานเหมืองแร่จะมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพเมียนมา รวมทั้งกองกำลังชาติพันธุ์ ซึ่งสร้างรายได้ถึงหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี.
ที่มา :แชนแนลนิวส์เอเชีย