เฮลั่น! สุดยอดเยี่ยม น้ำมันลดต่อเนื่อง 2 วันติด ลงอีก 80 สตางค์ มีผลพรุ่งนี้! ตี 5

เฮลั่น! สุดยอดเยี่ยม น้ำมันลดต่อเนื่อง 2 วันติด ลงอีก 80 สตางค์ มีผลตี 5 พรุ่งนี้ เบนซินขยับลงน่าชื่นใจ ขณะที่ E85 ลงน้อยนิดแค่ 50 สตางค์ ก็ยังดี!

วันที่ 15 ก.ค.2565 ทางPTT Station ประกาศปรับลดราคาน้ำมันลงอีก 80 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (16 ก.ค.) ในเวลา 05.00 น.เป็นต้นไป โดยราคาน้ำมันเบนซินลดลง 80 สตางค์ต่อลิตร จากราคา 46.96 บาท ปรับเป็น 46.16 บาท หลังจากเมื่อวานนี้ก็ปรับลดมาแล้วครั้งหนึ่ง

ด้านแก๊ซโซฮอลล์ 95 ปรับลดจากราคา 39.55 บาท เหลือที่ 38.75 บาท แก๊ซโซฮอลล์ 91 จากราคา 39.28 บาทต่อลิตร คงเหลือ 38.48 บาทต่อลิตร

ขณะที่E20 ปรับราคาจาก 38.44 บาท คงเหลือ 37.64 บาทต่อลิตร ขณะที่E85 ปรับลดจาก 34.14 บาทต่อลิตร ลดไปเพียง 50 สตางค์ คงเหลือ 33.64 บาทต่อลิตร

ทางนายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก ล่าสุดส่งผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในกลุ่มเบนซิน จึงมีผลให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทยอยปรับตัวลดลงตามกลไกราคาตลาดโลก

โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ (1-15 ก.ค.2565) กลุ่ม ปตท. โดยบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ได้ประกาศการลดราคาน้ำมันสำเร็จรูปกลุ่มเบนซินรวมแล้ว 4 ครั้ง จำนวน 5.60 บาท/ลิตร

ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ได้ติดตามสถานการณ์ด้านพลังงานอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนโดยตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา ปตท. ได้ร่วมแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานไปแล้วกว่า 17,800 ล้านบาท อาทิ การนำร่องสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกรณีพิเศษจำนวนเงินรวม 3,000 ล้านบาท

รวมถึงให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การตรึงราคาขายปลีกช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้รถก๊าซธรรมชาติสำหรีบยานยนต์(เอ็นจีวี) ส่วนบุคคล และผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จัดหาน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มปริมาณสำรอง ตลอดจนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

นอกจากนี้ ในด้านการช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤตโควิด ปตท. ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยผ่านโครงการลมหายใจเดียวกันกว่า 1,046 ล้านบาท ซึ่งกลุ่ม ปตท. พร้อมเป็นกำลังสำคัญ เดินเคียงข้าง และแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนทุกภาคส่วน ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ขอฝากให้ประชาชนร่วมด้วยช่วยกันประหยัดพลังงาน เพื่อให้คนไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันได้โดยเร็ว”
นายกฤษณ์กล่าว